ต่างประเทศ

ยูเครน อพยพคนออกจากเมืองสำคัญ หลังถูกถล่มหนัก รัสเซียชะลอการโจมตี เปิดทางคนอพยพ

โดย nattachat_c

9 มี.ค. 2565

81 views

ชาวยูเครนในเมืองซูมี เมืองสำคัญทางด้านตะวันออก เป็นผู้อพยพกลุ่มแรกที่เดินทางออกจากเมืองดังกล่าว ที่ถูกปูพรมโจมตีหนักหน่วงมาหลายวัน หลังจากยูเครนบรรลุข้อตกลงเส้นทางอพยพกับรัสเซีย โดยผู้อพยพกลุ่มแรกเป็นผู้พิการ สตรีมีครรภ์ เด็กกำพร้า ที่เดินทางด้วยขบวนรถบัส และจะตามด้วยรถส่วนตัวของประชาชน


ก่อนหน้านั้น เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา กองกำลังรัสเซียโจมตีทางอากาศถล่มเมืองซูมี ทางภาคตะวันออกของยูเครนอย่างหนักหน่วง เป็นเหตุให้พลเมืองยูเครนเสียชีวิตอีก 18 ศพ ในจำนวนนี้ เป็นเด็ก 2 ศพ ขณะที่มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก


ทั้งนี้ สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ของรัสเซียรายงานว่า ทางรัสเซียได้ตกลงเปิดเส้นทางอพยพในวันอังคาร เพื่อให้ชาวยูเครนเดินทางออกจาก 5 เมือง ได้แก่ เชอร์ฮินิฟ คาร์คิฟ มาริโพล ซูมี และเคียฟ  


โดยก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่รัสเซียและยูเครน เคยตกลงกันเกี่ยวกับเส้นทางอพยพจากเมืองมาริอูโปล เมืองท่าสำคัญทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน ที่ถูกปิดล้อมเมื่อวันเสาร์และอาทิตย์ แต่สุดท้ายล้มเหลว โดยที่ต่างฝ่ายต่างโทษกันว่า ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งล่าสุด การอพยพผู้คนออกจากเมืองมาริอูโปล ก็ยังไม่สามารถกระทำได้


ทั้งนี้ สำหรับสถานการณ์การสู้รบนั้น กระทรวงกลาโหมยูเครนเผยว่า การบุกของรัสเซียชะลอลงเมื่อวันอังคาร หลังจากที่ พลเอกวิตาลี เจอราซิมอฟ รองผู้บัญชาการอันดับ 1 ของกองทัพที่ 41 ของรัสเซีย ถูกสังหารเมื่อวันจันทร์ ซึ่งถือเป็นนายพลคนที่ 2 ของรัสเซียที่เสียชีวิตนับจากการบุก อย่างไรก็ตาม กองทัพรัสเซียยังไม่ได้ยืนยัน หรือแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้


ทั้งนี้  แผนการสู้รบเริ่มแรกของรัสเซีย ด้วยการบุกโจมตีอย่างรวดเร็วเพื่อล้มรัฐบาลเคียฟล้มเหลวตั้งแต่ช่วงวันแรกๆ และมอสโกได้ปรับยุทธศาสตร์ป็นการปิดล้อมเมืองต่างๆ ระยะยาว


ขณะเดียวกัน ทางด้าน ฟิลิปโป กรันดี ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) กล่าวเมื่อวานนี้ว่า จำนวนผู้อพยพหนีสงครามในยูเครนจะเพิ่มเป็น 2 ล้านคน ในอีกไม่กี่วันนี้ จากเมื่อวันจันทร์ที่ยูเอ็นเอชซีอาร์เพิ่งระบุตัวเลขไว้ที่ 1.7 ล้านคน และเทียบกับผู้ลี้ภัยในสงครามบอลข่านในบอสเนียและโคโซโวที่ 2-3 ล้านคน แต่เกิดขึ้นภายในเวลาถึง 8 ปี


ยูเอ็นเอชซีอาร์ แถลงด้วยว่า นับตั้งแต่รัสเซียทำสงครามในยูเครน เป็นเหตุให้มีพลเรือนเสียชีวิตและบาดเจ็บรวมแล้ว 1,207 คน ในจำนวนนี้ เสียชีวิต 406 ศพ และบาดเจ็บ 801 ราย แต่ดูเหมือนตัวเลขจริงสูงกว่านี้ นอกจากนั้นยังมีรายงานด้วยว่า นักข่าวเสียชีวิตแล้ว 1 ศพ

คุณอาจสนใจ

Related News