ศึกหาเสียงสหรัฐฯ เดือด! 'อีลอน มัสก์' หนุน 'ทรัมป์' ตัดงบ NGOs ปล่อยลอยแพองค์กรที่รัฐบาลชุบเลี้ยง

สหรัฐฯ เดือด! ศึกหาเสียงคุกรุ่น 'อีลอน มัสก์' หนุน 'ทรัมป์' จุดประเด็นร้อนตัดงบ NGOs (Non Governmental Organizations) ปล่อยลอยแพองค์กรที่รัฐบาลชุบเลี้ยง

เมื่อเข้าสู่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งสหรัฐฯ วันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ ความดุเดือดทวีคูณเกินพิกัด ไม่เพียงแค่การเชิญชวนให้ชาวอเมริกันออกมาใช้สิทธิ์ แต่ยังมีการสาดโคลน โจมตีคู่แข่งกันแบบไม่มีใครยอมใคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออภิมหาเศรษฐีและผู้ทรงอิทธิพลของวงการเทคโนโลยีอย่าง 'อีลอน มัสก์' ประกาศตัวหนุนเต็มสูบให้ 'โดนัลด์ ทรัมป์' กลับมาเป็นประธานาธิบดีอีกครั้งในฐานะคนที่ 47 ของสหรัฐฯ

มัสก์จุดชนวนไฟด้วยทวีตข้อความเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนว่า “องค์กร NGOs เหล่านี้ ได้รับเงินสนับสนุนอย่างมหาศาลจากรัฐบาล ทางเดียวที่จะหยุดยั้งเรื่องนี้ได้ ก็คือการเลือกนักการเมืองที่จะหยุดให้เงินองค์กรเหล่านี้” ข้อความดังกล่าวถูกแปลความหมายว่า องค์กรเหล่านี้เป็นเหมือน "ไอติมที่เลียตัวเอง" โดยพึ่งพาเงินรัฐบาลในทางที่ไม่ต่างจากการสร้างอำนาจให้กับกลุ่มผลประโยชน์ของตัวเอง แน่นอนว่าข้อความนี้ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กระหึ่มวงการ โดยเฉพาะกลุ่มที่สนับสนุนการแทรกแซงของรัฐบาลสหรัฐฯ ในต่างประเทศผ่านการให้เงินสนับสนุน NGOs

ไม่เพียงแค่นั้น มาร์ค อันดรีสเซ่น นักธุรกิจชื่อดังชาวอเมริกัน ยังทวีตเสริมว่า “การที่รัฐบาลสนับสนุนเงินให้แก่องค์กร NGOs และองค์กรไม่แสวงผลประโยชน์ ควรเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายทั้งหมด” ซึ่งเปิดประเด็นให้สังคมตั้งคำถามว่า รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังใช้เงินภาษีประชาชนไปสร้างเครือข่ายอิทธิพลในต่างประเทศหรือไม่? และ NGOs เหล่านี้คือเครื่องมือในการแทรกแซงทางการเมืองแบบซ่อนเร้นที่แฝงอยู่ในเงามืดหรือเปล่า?

แต่ความร้อนแรงยังไม่หยุดแค่นั้น เมื่อ ไมค์ เบนซ์ อดีตเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกมาทวีตตอบโต้แบบไม่อ้อมค้อมว่า “ถ้าทำเช่นนี้จริง คุณจะต้องยุบองค์กร USAID ทั้งองค์กร, 75% ของกระทรวงต่างประเทศ, 50% ของ CIA, และ 25% ของเพนตากอน” พร้อมกับบอกใบ้ว่า การท้าทายระบบที่มีอำนาจแบบนี้อาจทำให้คุณต้องระวังตัวจากการถูกลอบสังหาร เพราะเท่ากับว่า คุณกำลังสู้กับขบวนการที่ใหญ่โตและโหดเหี้ยมในระดับที่คาดไม่ถึง

นอกจากนี้ สื่อ MSNBC ยังรายงานถึง Project 2025 แผนนโยบายที่พรรครีพับลิกันวางไว้เพื่อโค่นอำนาจ Deep State ในสหรัฐฯ ที่ถูกมองว่า เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการบริหารของประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน โดยโครงการนี้มีการเขียนร่างนโยบายเพื่อลดงบประมาณ USAID และยกเลิกแนวคิด Woke ที่ถูกมองว่าเกินจริง และยังเป็นการตัดตอนอิทธิพลของ NGOs ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ ซึ่งเป็นการปฏิวัติเพื่อควบคุมการสนับสนุน NGOs ที่เชื่อว่า แฝงด้วยการแทรกแซงเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ในต่างประเทศ

ด้วยความที่ USAID เป็นตัวหลักในการสนับสนุน NED (National Endowment for Democracy) หลายฝ่ายจึงเริ่มตั้งคำถามว่า หรือว่าสหรัฐฯ กำลังใช้ “ความช่วยเหลือ” นี้เป็นเพียงข้ออ้างในการแทรกแซงเพื่อสร้างฐานอำนาจของตนในเวทีโลก?