โค้งสุดท้ายหาเสียง! 'ทรัมป์' ทำคะแนนคนนับถือศาสนา - 'แฮร์ริส' โจมตีกลับปราศรัยเหยียดเชื้อชาติ

การหาเสียงของผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกันและเดโมแครตยังคงดำเนินไปอย่างเข้มข้น เพราะเหลือเวลาอีกแค่ 1 สัปดาห์ เมื่อวานนี้ อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้เดินทางไปหาเสียงกับผู้ที่นับถือศาสนาในรัฐจอร์เจีย ส่วนรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริสไปหาเสียงที่มิชิแกนและโจมตีทรัมป์เรื่องงานหาเสียงเหยียดเชื้อชาติในนิวยอร์ก

เมื่อวานนี้ อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ไปหาเสียงที่งานของคณะกรรมการที่ปรึกษาศรัทธาแห่งชาติ (National Faith Advisory Board) ที่จัดขึ้นในรัฐจอร์เจีย หนึ่งในรัฐสมรภูมิที่คาดว่า จะมีคนออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าด้วยตัวเองก่อนวันเลือกตั้งสูงถึง 70% เพื่อดึงดูดใจผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่เป็นคนนับถือศาสนา

โดยทรัมป์บอกว่า สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่ต้องการศาสนา เพราะศาสนาทำให้คนทั้งประเทศรวมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน แต่ตอนนี้ ศาสนาในประเทศกำลังถูกคุกคาม

ต่อมาทรัมป์ได้ไปขึ้นเวทีหาเสียงต่อที่นครแอตแลนตา และพูดถึงบทบาทของนายอีลอน มัสก์ ซีอีโอบริษัทสเปซเอ็กซ์, เทสลา, และแอปพลิเคชันเอ็กซ์ หรือ ทวิตเตอร์ ที่เป็นผู้สนับสนุนคนสำคัญของเขา ซึ่งทรัมป์บอกว่า หากเขาชนะการเลือกตั้ง เขาจะดึงมัสก์เข้ามาทำงานในรัฐบาลของเขาด้วย

อย่างไรก็ดี ตอนนี้ทรัมป์ถูกวิจารณ์อย่างหนักหลังจากงานหาเสียงที่นิวยอร์กเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังนักแสดงตลกคนหนึ่งที่เป็นผู้สนับสนุนของทรัมป์ได้ขึ้นปราศรัยบนเวทีและเรียกเปอร์โตริโก ซึ่งเป็นดินแดนของสหรัฐฯ ที่ตั้งอยู่ในทะเลแคริบเบียนว่า “เกาะขยะลอยน้ำ” จนทำให้คนดังชาวละตินหลายคนออกมาวิจารณ์ รวมถึงนักการเมืองทั้งจากพรรครีพับลิกันและเดโมแครต อย่างไรก็ตาม ทีมหาเสียงของทรัมป์ออกมาแก้ต่างว่า คำพูดดังกล่าวไม่ได้สะท้อนมุมมองที่แท้จริงของพวกเขา

แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า คำพูดในเชิงเหยียดเชื้อชาตินี้สร้างความไม่พอใจเป็นอย่างมากให้กับชาวละตินในสหรัฐฯ เช่นที่เมืองอัลเลนทาวน์ รัฐเพนซิลเวเนียที่มีชาวเปอร์โตริโกอาศัยอยู่ประมาณ 1 ใน 3 ของประชากรทั้งหมด 125,000 คน หลายคนบอกว่า พวกเขารู้สึกไม่ค่อยพอใจนักกับงานหาเสียงของทรัมป์ และรู้สึกรังเกียจและเจ็บปวดมากกับคำพูดที่เกิดขึ้น

เหตุการณ์นี้ทำให้ฝ่ายรองประธานาธิบดีแฮร์ริสออกมาโจมตีทรัมป์ โดยแฮร์ริสให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ก่อนขึ้นเครื่องบินไปรณรงค์หาเสียงที่มิชิแกนว่า การชุมนุมที่เมดิสันสแควร์การ์เดนของทรัมป์ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับผู้สนับสนุนเขา และเขากำลังโหมกระพือความเกลียดชังและความแตกแยก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้หลายคนรู้สึกเบื่อหน่ายกับเขา

ขณะเดียวกันที่รัฐมิชิแกน หนึ่งในรัฐสมรภูมิ แฮร์ริสได้เดินทางไปเยี่ยมชมโรงงานโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์เฮ็มล็อก (Hemlock Semiconductor) ของบริษัทคอร์นิง อิงค์ (Corning Inc) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์หาเสียงในรัฐสมรภูมิ ซึ่งระหว่างการเยี่ยมชม แฮร์ริสเน้นย้ำถึงการสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตของสหรัฐอเมริกา

ต่อมาแฮร์ริสได้ขึ้นเวทีปราศรัยที่งานชุมนุมหาเสียงในเมืองแอร์อาร์เบอร์ พร้อมกับนายทิม วอลซ์ คู่หูชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งแฮร์ริสได้เตือนว่า หากทรัมป์กลับมาดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง ผลที่ตามมาจะร้ายแรงมาก และจะไม่มีอะไรสามารถหยุดยั้งเขาได้แม้แต่ศาลฎีกา

การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังจะเปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการในอีก 1 สัปดาห์ข้างหน้า จนถึงตอนนี้ ข้อมูลจากศูนย์ปฏิบัติการการเลือกตั้งของมหาวิทยาลัยฟลอริดาพบว่า ทั่วประเทศมีชาวอเมริกันออกไปใช้สิทธิ์ลงคะแนนล่วงหน้าแล้วประมาณ 46 ล้านคน ในจำนวนนี้อยู่ในรัฐจอร์เจีย 2.8 ล้านคน และมิชิแกนอีก 1.9 ล้านคน

ส่วนผลการสำรวจคะแนนนิยมล่าสุดจากทางไฟว์เทอร์ตี้เอ้ก (538) และเอบีซี นิวส์ระบุว่า แฮร์ริสยังคงมีคะแนนนำทรัมป์ 1% ที่ 48% ต่อ 47% แต่ถ้าหากดูเฉพาะในรัฐสมรภูมิ พบว่า ทรัมป์มีคะแนนนิยมนำแฮร์ริสใน 5 รัฐ คือ เนวาดา, เพนซิลเวเนีย, นอร์ทแคโรไลนา, จอร์เจีย, และแอริโซนา ส่วนแฮร์ริสนำทรัมป์ใน 1 รัฐคือมิชิแกน และทั้งคู่มีคะแนนเสมอกันในรัฐวิสคอนซิน