ประเด็นเดือด! พันธมิตร 'ทรัมป์' ปราศรัยเหยียดเชื้อชาติ ใช้คำหยาบในงานหาเสียงที่นิวยอร์ก

อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกันขึ้นเวทีหาเสียงที่เมดิสันสแควร์การ์เดนในนิวยอร์ก แต่งานนี้กลับตกเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์เนื่องจากพันธมิตรหลายคนที่ขึ้นเวทีหาเสียงช่วยทรัมป์ พูดเหยียดเชื้อชาติและใช้ถ้อยคำที่หยาบคาย

โดนัลด์ ทรัมป์ได้ขึ้นเวทีปราศรัยและบอกกับผู้เข้าร่วมงานว่าถ้าหากเขาชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ เขาจะยับยั้งการอพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายและส่งผู้อพยพที่เขาเรียกว่า “อาชญากรที่โหดร้ายและกระหายเลือด” กลับประเทศไป

ทรัมป์ยืนยันว่าการเนรเทศผู้อพยพครั้งนี้จะใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ และเขาจะกอบกู้เมืองต่าง ๆ ที่ถูกบุกรุกและยึดครองกลับคืนมา ขณะเดียวกัน เขายังเรียกรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริสคู่แข่งจากพรรคเดโมแครตว่า “คนไอคิวต่ำมาก”

นอกจากนี้ เขายังโจมตีรัฐบาลของไบเดนกับแฮร์ริสเรื่องปัญหาเศรษฐกิจและกิจการระหว่างประเทศ และเขายังประกาศนโยบายใหม่ที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน คือ เขาจะลดหย่อนภาษีให้กับคนที่ทำหน้าที่ดูแลสมาชิกในครอบครัวหรือคนรัก

งานหาเสียงเมื่อวานนี้มีผู้สนับสนุนขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงช่วยทรัมป์หลายคน เช่น อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีเจ้าขอสเปซเอ็กซ์, เทสลา, และแอปพลิเคชันเอ็กซ์ อดีตนักมวยปล้ำฮัลค์ โฮแกน อดีตนายกเทศมนตรีเมืองนิวยอร์กรูดี จูลีอานี ไปจนถึงลูกชายของทรัมป์ เอริก และดอน จูเนียร์

อย่างไรก็ดี งานหาเสียงนี้ตกเป็นประเด็นและถูกวิจารณ์อย่างมากจากฝ่ายตรงข้ามเนื่องจากผู้ปราศรัยบางคนใช้คำพูดในเชิงเหยียดเชื้อชาติและเหยียดเพศหญิงเพื่อปลุกเร้าฝูงชน

นายจูลีอานี อดีตทนายความส่วนตัวของทรัมป์กล่าวอ้างอย่างเป็นเท็จว่ารองประธานาธิบดีแฮร์ริสอยู่ข้างฝ่ายผู้ก่อการร้ายในความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์

ส่วนนายโทนี ฮินคลิฟฟ์นักแสดงตลกชาวอเมริกันใช้ภาษาหยาบคายล้อเลียนชาวละตินว่า “ชอบทำลูก” และยังเรียกเปอร์โตริโก ซึ่งเป็นดินแดนของสหรัฐอเมริกาที่ตั้งอยู่ในทะเลแคริบเบียนว่า “เกาะขยะลอยน้ำ”

ในเวลาต่อมา แดเนียล อัลวาเรซที่ปรึกษาอาวุโสของทีมหาเสียงทรัมป์ได้ออกมาแก้ต่างว่า คำพูดที่เกิดขึ้นในงานหาเสียงเกี่ยวกับเปอร์โตริโกไม่ได้สะท้อนมุมมองของทรัมป์หรือทีมหาเสียง

ทั้งนี้ แม้ชาวเปอร์โตริโกจะเป็นพลเมืองสหรัฐฯ แต่ผู้ที่อาศัยอยู่บนเกาะแห่งนี้ไม่มีสิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยกเว้นชาวเปอร์โตริโกที่อพยพเข้ามาอาศัยอยู่ในแผ่นดินใหญ่ ซึ่งมีจำนวนหลายล้านคนและเป็นชุมชนที่มีขนาดใหญ่มาก โดยเฉพาะในรัฐสมรภูมิอย่างเพนซิลเวเนีย

ด้านทีมหาเสียงของรองประธานาธิบดีแฮร์ริสได้ออกมาตำหนิว่าการชุมนุมหาเสียงที่เมดิสันสแควร์การ์เดนสะท้อนให้เห็นถึงความแตกแยกและการดูถูกที่เป็นอันตรายของทรัมป์

ส่วนตัวของแฮร์ริส เมื่อวานนี้ลงพื้นที่หาเสียงที่รัฐเพนซิลเวเนีย หนึ่งในรัฐสมรภูมิที่ทั้งสองพรรคอยากจะชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยเธอได้เดินทางไปเยี่ยมชมร้านตัดผมของคนผิวดำและร้านอาหารเปอร์โตริโกในเมืองฟิลาเดลเฟีย

แฮร์ริสยังได้ขึ้นเวทีปราศรัยโดยเน้นไปที่กลุ่มคนเจนซี (Z) และผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งครั้งแรก เธอกล่าวชื่นชมคนรุ่นใหม่ที่มีความอดทนต่อการเปลี่ยนแปลงได้ดี และรู้จักวิธีที่จะปกป้องโลก รวมถึง การต่อสู้เพื่อความปลอดภัยในโรงเรียน

สำหรับ ผลการสำรวจคะแนนนิยมล่าสุดผู้สมัครทั้งสองคนยังคงมีคะแนนสูสีแบบหายใจรดต้นคอกัน การสำรวจจาก 538/ABC News ในวันนี้ (28 ตุลาคม 67) ระบุว่าแฮร์ริสมีคะแนนนำทรัมป์อยู่เพียงแค่ 1% เท่านั้น คือ 48% ต่อ 47% ส่วนผลการสำรวจของ CNN ระบุว่าแฮร์ริสกับทรัมป์มีคะแนนนิยมเสมอกันที่ 47%