ทีมหาเสียง ‘แฮร์ริส’ ปรับกลยุทธ์ เพิ่มการโจมตี ‘ทรัมป์’ หลังโพลชี้คะแนนนิยมตีตื้น

รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ปรับกลยุทธ์การหาเสียง พร้อมเพิ่มการโจมตีอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ท่ามกลางความกังวลหลังผลโพลล์ชี้ว่าทรัมป์กำลังได้รับความนิยมตีตื้นขึ้นมาเรื่อยๆ

ผลการสำรวจความนิยมจากสาธารณะและภายในของพรรคเดโมแครตชี้ว่าขณะนี้รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริสผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครตกำลังตกอยู่ในสถานการณ์การแข่งขันที่สูสีกับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นช่วงเวลาที่ไม่น่าพึงพอใจมากนักสำหรับเธอ หลังจากเปิดตัวมาด้วยความคึกคักและได้รับเงินทุนสำหรับการเสียงอย่างล้นหลามเมื่อเธอได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนพรรคลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีแทนโจ ไบเดนเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาและยังได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ชนะการดีเบตเพียงครั้งเดียวกับทรัมป์

ผู้ช่วยอาวุโสทีมหาเสียงของรองประธานาธิบดีแฮร์ริสยอมรับว่าการแข่งขันครั้งนี้สูสีมาก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะต้องกังวลจนนอนไม่หลับ

ที่ปรึกษาคนหนึ่งบอกว่าหลังจากที่มุ่งเน้นการหาเสียงไปที่การขายนโยบายและความพยายามสร้างภาพลักษณ์ให้กับตัวเองในเวทีระดับชาติมาเป็นระยะเวลานานหลายสัปดาห์ ล่าสุด แฮร์ริสกำลังจะกลับไปใช้บทบาทในการเป็นอัยการของเธอเหมือนเมื่อเดือนกรกฎาคม โดยหวังว่าจะแสดงให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่อาจสนใจเฉพาะภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งของทรัมป์หันมาให้ความสนใจกับเธอ

การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เห็นได้จากงานชุมนุมหาเสียงเมื่อคืนวันจันทร์ (14 ตุลาคม 67) ที่ผ่านมาที่เมืองอีรี รัฐเพนซิลเวเนีย หนึ่งในรัฐสวิงสเตท แฮร์ริสได้ใช้กลยุทธ์ใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนด้วยการเปิดคลิปวิดีโอโจมตีทรัมป์ที่พูดเกี่ยวกับเรื่อง “ศัตรูจากภายใน” เพื่อเป็นการตอกย้ำให้ผู้สนับสนุนเห็นว่าทรัมป์เป็นภัยอันตรายต่อประเทศ

นอกจากนั้น เธอยังได้พบปะหารือกับกลุ่ม Charlamagne tha God เพื่อเข้าถึงผู้ชายผิวดำ ตามด้วยการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ สื่อฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่สนับสนุนพรรครีพับลิกันมาอย่างช้านานเพื่อที่เธอจะได้เข้าถึงและสื่อสารกับกลุ่มอนุรักษ์นิยมที่สนับสนุนทรัมป์

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่าการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ของคามาลา แฮร์ริสมีขึ้นหลังผลการสำรวจคะแนนความนิยมชี้ว่าเธอมีคะแนนนำทรัมป์น้อยลงเรื่อยๆ เช่น โพลล์ของรอยเตอร์สและอิปซอส ที่ระบุว่าคะแนนความนิยมของแฮร์ริสที่นำทรัมป์ลดลงจาก 7% เหลือเพียง 3%

ในขณะเดียวกัน สิ่งที่น่ากังวลไปมากกว่านั้นสำหรับพรรคเดโมแครตคือ แฮร์ริสกับทรัมป์มีคะแนนความนิยมใกล้เคียงกันมากใน 7 รัฐสมรภูมิที่จะเป็นตัวตัดสินผลการเลือกตั้งครั้งนี้

แหล่งข่าวแห่งหนึ่งกล่าวว่า แฮร์ริสมีคะแนนความนิยมเสมอกับทรัมป์ในรัฐเพนซิลเวเนีย นำเล็กน้อยในวิสคอนซิน และตามหลังเล็กน้อยในรัฐมิชิแกน

มีรายงานว่าในสัปดาห์นี้ แฮร์ริสจะลงพื้นที่หาเสียงที่เพนซิลเวเนีย, มิชิแกน, และวิสคอนซิน ขณะที่คู่หูชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีของเธอ นายทิม วอลซ์ ก็จะจัดกิจกรรมหาเสียงที่วิสคอนซิน, เพนซิลเวเนียตะวันตก, นอร์ทแคโรไลนา, และเขตเลือกตั้งที่ 2 ของรัฐเนบราสกา