ต้องรวยเท่านั้นถึงมีรถได้! ใบอนุญาตมีรถในสิงคโปร์ พุ่ง 2.8 ล้านบาท

รู้หรือไม่ว่า หากต้องการเป็นเจ้าของรถยนต์สักคันในสิงคโปร์ คุณจะต้องเสนอราคาเพื่อขอซื้อใบอนุญาตพิเศษจากรัฐบาล ที่เรียกว่า Certificate of Entitlement หรือ COE ซึ่งขณะนี้ราคาอยู่ที่ 106,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 2,871,715 บาท เทียบเท่ากับราคารถ Toyota Camry Hybrids ในสหรัฐฯ 2 คัน หลังวิกฤตโควิด ที่ส่งผลให้ต้นทุนของรถยนต์ และระบบโควต้ายานพาหนะของเมือง ขึ้นสู่ระดับสูงสุดตลอดกาล

ทั้งนี้ COE เป็นระบบจำกัดจำนวนยานยนต์ในประเทศเล็กๆ แห่งนี้ เริ่มใช้เมื่อเดือนพฤษภาคม 1990 ที่รัฐบาลสิงคโปร์กำหนดเงื่อนไขให้ผู้ซื้อยานยนต์จะต้องประมูลซื้อ COE ซึ่งมีจำนวนจำกัดภายใต้การควบคุมของรัฐ โดยผู้ถือ COE มีสิทธิ์ครอบครองยานยนต์ได้เป็นเวลา 10 ปี เมื่อครบเวลาดังกล่าวจะต้องทำลายยานยนต์หรือ ส่งออกยานยนต์ หรือต่ออายุ COE ไปอีกหนึ่งครั้งมีกำหนด 5 หรือ 10 ปี

ระบบโควตา COE นี้ ทำให้สิงคโปร์กลายเป็นเมืองที่ซื้อรถยนต์แพงที่สุดในโลก โดย COE สำหรับรถยนต์ขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่าจากปี 2020 พุ่งสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 146,002 ดอลลาร์สิงคโปร์ (3,944,702)

อย่างไรก็ตาม ราคา COE ในปี 2020 เคยลดลงเหลือเพียงประมาณ 30,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (810,544) เนื่องจากคนสิงคโปร์ขับขี่รถกันน้อยลง แต่หลังผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 ทำให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น ส่งผลให้มีการซื้อรถยนต์กันมากขึ้น ในขณะที่จำนวนยานพาหนะทั้งหมดบนท้องถนนถูกจำกัดไว้ที่ประมาณ 950,000 คัน

หากคำนวณคร่าวๆ แล้ว การมีรถ Toyota Camry Hybrid ในสิงคโปร์ในปัจจุบัน จะอยู่ที่ 251,388 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือคันละ 6,792,036 บาทเลยทีเดียว มากกว่าการครอบครองรถในสหรัฐฯ ที่คันละ 28,855 ดอลลาร์สหรัฐ ประมาณ 1,065,615 บาท หลายเท่าตัวเลยทีเดียว

นอกจากนี้เจ้าของรถในสิงคโปร์ ยังต้องเสียค่าใช้อื่นๆ อีกหลายอย่าง อาทิ ภาษีถนน, ภาษีสรรพสามิต, ค่าธรรมเนียมใบขับขี่,ค่าประกันภัยและค่าบำรุงรักษารถอีกหลายรายการ ยังไม่รวมค่าที่จอดรถ, ค่าน้ำมันที่แพงติดอันดับต้นๆ ของอาเซียน

ในขณะที่ รายได้เฉลี่ยต่อปีของครัวเรือนในสิงคโปร์อยู่ที่ 121,188 ดอลลาร์สิงคโปร์ (3,272,383 บาท) ทำให้หลายคนเลือกใช้ระบบขนส่งสาธารณะแทนการมีรถยนต์ส่วนตัว

ที่มา : REUTERS