ต่างประเทศ

ครบรอบ 1 ปี ‘รัสเซีย’ บุก ‘ยูเครน’ เปิด 8 แนวโน้มสงครามปี 2023 สงครามที่ยังไม่จบ

โดย paweena_c

23 ก.พ. 2566

56 views

ครบรอบ 1 ปี ‘รัสเซีย’ บุก ‘ยูเครน’ เปิด 8 แนวโน้มสงครามปี 2023 สงครามที่ยังไม่จบ


จากจุดเริ่มต้น การเปิดปฏิบัติการพิเศษทางทหารของรัสเซียในยูเครน นับตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2022 จนถึงวันนี้ ครบรอบ 1 ปี สงครามความขัดแย้งที่ยังคงยืดเยื้อไม่รู้จบ จากคำอ้างของ ‘รัสเซีย’ ที่ว่า เป็นการปกป้องคนเชื้อสายรัสเซีย แต่หลายคนก็เชื่อว่า นี่คือสงครามเพื่อยึดคืนพื้นที่ ที่เคยเป็นอดีตของสหภาพโซเวียด ขณะที่ ‘ยูเครน’ ก็สามารถตั้งรับกับการรุกของกองทัพรัสเซียได้เป็นเวลายาวนาน


สุรชาติ บำรุงสุข ศาสตราจารย์กิตติคุณ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สรุปแนวโน้มสงคราม ‘รัสเซีย - ยูเครน’ หลังผ่าน 1 ปี เป็น 8 ข้อ ได้แก่


1) การรบยังไม่มีจุดสิ้นสุด คู่สงครามยังมีกำลังที่จะทำการต่อได้อีกนาน และมีอาวุธให้สามารถทำการรบต่อได้ แม้กองทัพของทั้งสองฝ่ายจะประสบความสูญเสีย ทั้งกำลังพลและอาวุธเป็นจำนวนมาก

2) สภาวะเช่นนี้ยังไม่เป็นโอกาสให้เกิดการเจรจาสันติภาพ เพราะต่างฝ่ายต่างต้องการรบต่อ และยังไม่ถึงจุดที่จะทำให้ทั้งสองฝ่ายต้องการการเจรจา

3) ยูเครนมีความหวังที่จะเอาดินแดนที่รัสเซียยึดกลับคืนมา หลังจากประสบความสำเร็จในการเอาดินแดนที่รัสเซียยึดครองกลับคืนมาได้บางส่วน และอาจเปิดการรุกทางทหารมากขึ้น

4) รัสเซียเตรียมที่จะเปิดสงครามใหญ่หลังฤดูหนาว และต้องการที่จะยึดดินแดนให้ได้มากขึ้น เพื่อตอบโต้กับชัยชนะของยูเครน ที่หวังจะเอาดินแดนที่รัสเซียยึดกลับคืน และเพื่อสร้างภาพของชัยชนะในบ้านตัวเอง

5) สงครามน่าจะมีแนวโน้มที่รุนแรงมากขึ้น เพราะต่างฝ่ายต่างเตรียมตัวทำสงครามใหญ่ และมีความคาดหวังมากขึ้น ที่จะสร้างชัยชนะให้กับชาติตัวเอง ทั้งด้านการรบ และการยึดครองดินแดน

6) มีความกังวลถึงการขยายสงครามออกนอกพื้นที่ของยูเครน หลายประเทศที่มีแนวชายแดนติดกับรัสเซีย กลัวว่ารัสเซียจะขยายการโจมตี

7) ข้อกังวลในเรื่องของสงครามนิวเคลียร์ หลายฝ่ายกังวลในเรื่องนี้ แต่ก็หวังว่าประธานาธิบดีปูตินจะไม่ตัดสินใจใช้อาวุธนิวเคลียร์ เพราะอาจนำไปสู่สงครามนิวเคลียร์ขนาดใหญ่ได้

8) ปัญหาผลกระทบจากสงครามกับภูมิภาคเอเชีย อาจทำให้การแบ่งฝ่ายในภูมิภาคนี้มีมากขึ้น และบทบาทของจีนในการสนับสนุนรัสเซียในเวทีโลก


การต่อสู้ที่ยืดเยื้อของรัสเซียและยูเครน สร้างความสูญเสียให้ทั้งสองประเทศ เพราะสงครามทำลายเศรษฐกิจ ส่งผลให้เกิดการหดตัวของเศรษฐกิจของทั้งสองเป็นอย่างมาก รัสเซียเองต้องเผชิญกับการแซงชั่น และทำให้ชีวิตภายในประสบปัญหา ส่วนยูเครนถูกทำลายฐานทางเศรษฐกิจ และทำให้การค้า-การส่งออกของประเทศประสบปัญหา และผลจากการแซงชั่นนี้เอง ทำให้รัสเซียถูกโดดเดี่ยวมากขึ้น และมีทิศทางที่ต้องพึ่งพาจีนในหลายเรื่อง


นอกจากนี้ สงครามยังทำให้กองทัพทั้งสองฝ่ายสูญเสียทหารและอาวุธไปเป็นจำนวนมาก รัสเซียอาจจะมีทหารบาดเจ็บและเสียชีวิตมากราว 2 แสนคน อาวุธจำนวนมากถูกทำลาย ส่วนยูเครนน่าจะมีจำนวนทหารบาดเจ็บและเสียชีวิตน้อยกว่ารัสเซียมาก และอาวุธได้รับความสนับสนุนจากตะวันตก


สุดท้ายแล้ว ในสงครามนี้ ก็ยังไม่มีผู้ชนะที่ชัดเจน ขณะที่ต่างฝ่ายต่างเตรียมรบใหญ่ในอนาคต



คุณอาจสนใจ

Related News