ต่างประเทศ
ผีน้อยไทยในเกาหลีใต้ พุ่ง 1.4 แสนคน สถานทูตแจ้ง หากกลับไทยก่อน 31 ต.ค.นี้ จะไม่ถูกขึ้นบัญชีดำ
12 ส.ค. 2565
586 views
กต. เปิดตัวเลขผีน้อยไทยในเกาหลีใต้ พุ่งสูง 1.4 แสนคน จากที่พำนักทั้งหมด 1.8 แสนคน แจงปมคนไทยเข้าจังหวัดเชจูไม่ได้ เหตุไม่มีวีซ่า ย้ำคนไทยทำงานผิดกฎหมายให้คำนึงภาพลักษณ์ประเทศ ด้านสถานทูตไทยแจ้ง หากกลับไทยก่อน 31 ต.ค.นี้ จะไม่ถูกขึ้นบัญชีดำ
เมื่อวันที่ 11 ส.ค.2565 นายณัฐภาณุ นพคุณ รองอธิบดีกรมสารสนเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวจากกรณีที่มีรายงานข่าวเกี่ยวกับกรณีคนไทยเดินทางไปจังหวัดเชจู ประเทศเกาหลีใต้ และถูกปฏิเสธให้เข้าเมืองและถูกส่งกลับโดยทางการเกาหลีใต้ กระทรวงการต่างประเทศขอชี้แจงดังนี้
ในช่วงที่ผ่านมา สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีใต้ได้ปฏิเสธการเข้าเมืองของคนไทยจำนวนมาก เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่า บุคคลดังกล่าวน่าจะเข้าเมืองด้วยวัตถุประสงค์ในการลักลอบทำงานโดยไม่ได้รับการตรวจลงตรา (วีซ่า) ซึ่งรวมถึงกรณีกลุ่มคนไทยที่เดินทางไปจังหวัดเชจูข้างต้น
ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2565 เป็นต้นมา ผู้ถือหนังสือเดินทางบุคคลธรรมดาของไทยสามารถเดินทางไปเที่ยวเกาหลีใต้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 90 วัน โดยไม่ต้องขอรับการตรวจลงตรา อย่างไรก็ดี ผู้เดินทางต้องดำเนินการตามแนวปฏิบัติของทางการเกาหลีใต้ล่วงหน้าก่อนเดินทางไปเกาหลีใต้ ดังนี้
1.ขอรับ K-ETA (Korea Electronic Authorization) มีรูปแบบคล้ายวีซ่า ซึ่งต้องกรอกแบบฟอร์มสมัครขอ K-ETA ทางระบบออนไลน์ และต้องรอให้ได้รับอนุมัติก่อน จึงจะเช็คอินเพื่อขึ้นเครื่องบินเพื่อเดินทางไปเกาหลีใต้ได้
2.ขอ Q-Code ทางระบบออนไลน์ ผู้เดินทางต้องกรอกรายละเอียดการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19ผลการตรวจโควิดแบบ ATK ที่ผลออกไม่เกิน 24 ชั่วโมง หรือผลการตรวจโควิดแบบ RT-PCR ที่ผลออกไม่เกิน 48 ชั่วโมง ก่อนขึ้นเครื่องบินเพื่อเดินทางไปเกาหลีใต้ โดยผู้ที่ได้รับ Q-Code แล้ว จะสามารถเดินทางเข้าเกาหลีใต้โดยสะดวก และไม่ต้องกรอกแบบฟอร์มรายงานผลการตรวจโควิด หรือการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดฯ ก่อนเดินทางเข้าเกาหลีใต้อีก
สำหรับคนไทยที่เดินทางไปยังเกาะเชจู ของเกาหลีใต้นั้น แม้ว่าจะยังไม่ต้องขอรับ K-ETA ในตอนนี้ แต่ในอนาคตอันใกล้ทางการเกาหลีใต้กำลังจะปรับให้ต้องมี K-ETA ล่วงหน้าก่อนเดินทางไปเที่ยวเกาะเชจูด้วย และสำหรับผู้ที่เดินทางไปเที่ยวเกาะเชจูโดยไม่ได้รับอนุมัติ K-ETA จะไม่สามารถเดินทางต่อไปยังเกาหลีใต้ในส่วนภาคพื้นทวีปได้ และผู้เดินทางที่เคยถูกปฏิเสธ K-ETA ในการเดินทางเข้าเกาหลีใต้ ก็จะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าเกาะเชจู

แม้ว่าคนไทยที่ได้รับอนุมัติ K-ETA ให้ขึ้นเครื่องบินเพื่อเดินทางไปเกาหลีใต้ได้แล้ว แต่ทางเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของเกาหลีใต้มีอำนาจในการอนุมัติ หรือไม่อนุมัติให้เข้าเกาหลีใต้ได้ หากสัมภาษณ์แล้วยังมีข้อสงสัยว่า คนไทยอาจเดินทางเข้าเกาหลีใต้เพื่อลักลอบทำงานในเกาหลีใต้แบบผิดกฎหมาย หรือเหตุผลอื่น ๆ โดยคนไทยที่ไม่ได้รับอนุมัติให้เข้าเกาหลีใต้ จะถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีใต้ส่งกลับประเทศไทย โดยสายการบินที่นำคนไทยเดินทางไปเกาหลีใต้โดยเร็วที่สุด
ขอให้ผู้ที่จะเดินทางเข้าประเทศเกาหลีใต้ ตรวจสอบข้อมูลกฎเกณฑ์การเดินทางเข้าเกาหลีใต้ และเอกสารการเข้าเมืองให้ครบถ้วน โดยสามารถศึกษาข้อมูลได้ที่ https://www.immigration.go.kr/immigration_eng/index.do รวมทั้งสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สอท.เกาหลีใต้/ปทท. รวมทั้ง หมายเลขสายด่วน สอท. ณ กรุงโซล
ทั้งนี้ สถานะล่าสุดในเดือน มิ.ย. 2565 มีคนไทยพำนักอยู่ในเกาหลีใต้ ทั้งสิ้น 181,783 คน ในจำนวนนี้เป็นคนไทยที่พำนักผิดกฎหมาย จำนวน 139,245 คน และมีนักโทษคนไทยซึ่งทำผิดคดีต่าง ๆ ตามกฎหมายเกาหลีใต้ ทั้งสิ้น 532 คน
สำหรับคนไทยที่ได้รับอนุมัติจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีใต้ให้เดินทางเข้าเกาหลีใต้ได้แล้ว แต่ต่อมากระทำผิด กฎหมายในเกาหลีใต้ดังสาเหตุต่อไปนี้ จะได้รับโทษดังนี้
(1) พำนักอยู่ในเกาหลีใต้เกิน 90 วัน จะถูกลงโทษให้ชำระค่าปรับตามจำนวนปีที่พำนักผิดกฎหมาย ซึ่งสามารถเลือกไม่ชำระค่าปรับได้ แต่จะไม่สามารถเดินทางกลับมายังเกาหลีใต้ได้อีกในอนาคต รวมทั้งถูกกักตัวในสถานกักกันประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนถูกส่งตัวกลับประเทศไทย โดยคนไทยที่กระทำผิดกฎหมายต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการซื้อบัตรโดยสารเครื่องบินเพื่อเดินทางกลับประเทศไทยด้วยตนเอง
(2) กรณีลักลอบทำงานแบบผิดกฎหมายในเกาหลีใต้ หากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเกาหลีใต้จับกุม ก็จะถูกกักตัวในสถานกักกัน โดยหากไม่พบว่ามีความผิดอื่น (เช่น ยาเสพติด นายหน้า เมาแล้วขับ ฉ้อโกง หรือคดีอื่นๆ ) ปกติจะถูกส่งกลับประเทศไทยภายใน 1 สัปดาห์ โดยคนไทยที่กระทำผิดกฎหมายต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการซื้อบัตรโดยสารเครื่องบินเพื่อเดินทางกลับประเทศไทยด้วยตนเอง
กระทรวงการต่างประเทศ ขอย้ำเตือนพี่น้องคนไทยอย่าลักลอบทำงานผิดกฎหมายในเกาหลีใต้ ซึ่งนอกจากจะเป็นการละเมิดกฎหมายท้องถิ่นและต้องรับโทษแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์คนไทยในต่างประเทศอย่างมากด้วย

ด้านสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เผยเอกสารแจ้งบุคคลต่างชาติที่พำนักแบบผิดกฎหมาย ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด เข็มที่ 3 เรียบร้อยแล้ว (ภายในวันที่ 30 เม.ย.65)
หากเดินทางออกนอกสาธารณรัฐเกาหลี ภายใน 31 ต.ค.นี้ จะได้รับการยกเว้นค่าปรับ และไม่ถูกนำชื่อบรรจุในรายชื่อบุคคลต้องห้ามเดินทางเข้าสาธารณรัฐเกาหลี ทั้งนี้ ต้องรายงานตัวที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน ก่อนวันเดินทาง (ไม่รวมวันหยุด)
ยกเว้นบุคคลต่างชาติที่พำนักผิดกฎหมายที่ต้องคดีอาญา รับวัคชีนไม่ครบ ละเมิดกฎการป้องกันโรคระบาด และถูกควบคุมตัว