นายกฯ แคนาดา หวังครองเสียงข้างมาก ประกาศจัดเลือกตั้งเร็วกว่ากำหนด ดันแผนฟื้นฟูโควิด

เมื่อวานนี้ (12 ส.ค.64) แหล่งข่าวของสื่อต่างประเทศหลายสำนักรายงานถึงแนวโน้มและความเป็นไปได้ที่ จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาอาจเตรียมขอยุบสภา พร้อมประกาศจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ในวันที่ 20 กันยายนนี้ ซึ่งเร็วกว่ากำหนดการเดิมกว่า 2 ปี (เดิมปี 2023) หวังกลับมาครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้ง เพื่อผลักดันแผนรับมือโควิด

ทรูโดจำเป็นต้องเข้าพบ แมรี ไซมอน ผู้สำเร็จราชการแทนสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ประจำแคนาดา เพื่อขอความเห็นในการยุบสภา ซึ่งผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า ผู้สำเร็จราชการฯ จะเห็นชอบความคิดเห็นดังกล่าวของทรูโด

โดยทรูโดเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งจากพรรคลิเบอรัลและก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแคนาดาหลังจากชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายเมื่อปี 2015 ครองเสียงข้างมากในสภา 184 จาก 338 ที่นั่ง ขณะที่การเลือกตั้งในปี 2019 ที่ถึงแม้จะชนะการเลือกตั้ง แต่ก็ไม่สามารถครองเสียงข้างมากในสภาได้ดังเดิม หลังจากที่มีภาพถ่ายของทรูโดที่แต่งกายเป็นอะลาดินและทาผิวสีเมื่อราว 20 ปีก่อนเผยแพร่ออกมา จนได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการเหยียดสีผิวเป็นอย่างมากในช่วงเวลานั้น

พรรคคู่แข่งอย่างพรรคคอนเซอร์เวทีฟ ยอมรับว่าทรูโดยังคงเป็นคู่แข่งทางการเมืองที่สำคัญของพวกเขา อีกทั้งยังระบุว่าแผนการใช้งบประมาณของรัฐบาลทรูโดมากจนเกินขอบเขตและอาจส่งผลให้พลเมืองแคนาดารุ่นใหม่ๆ ต้องโดนผูกมัดจากหนี้ของรัฐบาลชุดนี้ที่มีแผนเตรียมอัดฉีดเงิน 1 แสนล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 2.65 ล้านล้านบาท) เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในช่วง 3 ปีต่อจากนี้

ขณะที่พรรคต้นสังกัดของทรูโดอย่างพรรคลิเบอรัลเองก็ยอมรับว่า การเลือกตั้งก่อนกำหนดในครั้งนี้ถือเป็นการเดิมพัน อีกทั้งผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดก็ยังไม่สามารถบ่งชี้ได้อย่างหนักแน่นว่าพรรคของทรูโดจะได้รับเสียงข้างมากในสภาและสามารถลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโควิดระลอกที่ 4 ได้เป็นอย่างดี

ล่าสุด ผลการสำรวจความคิดเห็นโดย Abacus เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (12 สิงหาคม) คาดว่า พรรคลิเบอรัลจะชนะการเลือกตั้ง 37% ขณะที่พรรคคอนเซอร์เวทีฟจะชนะการเลือกตั้งอยู่ที่ 28% อีกทั้งผลสำรวจกลุ่มตัวอย่าง 3,000 คน เมื่อวันที่ 6-11 สิงหาคมที่ผ่านมา ประชาชนคาดการณ์ว่าทรูโดจะกลับมาครองเสียงข้างมากในสภาได้อีกครั้ง (มากกว่า 169 ที่นั่ง) ซึ่งในขณะนี้พรรคลิเบอรัลมีที่นั่งในสภาเพียง 155 ที่นั่ง การผลักดันและผ่านร่างกฎหมายต่างๆ จึงจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากพรรคร่วมรัฐบาล