ชะตากรรมทางการเมือง 'ปธน.ยุน' หลังประกาศกฎอัยการศึก อยู่ในภาวะเสี่ยง ตร. ประกาศสอบสวนข้อหา 'ก่อกบฏ'

ชะตากรรมทางการเมืองของประธานาธิบดียุน ซอก ยอล แห่งเกาหลีใต้ กำลังตกอยู่ในภาวะเสี่ยง ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์และความโกรธแค้นของประชาชนเพิ่มมากขึ้น ที่ออกมากดดันให้เขาลาออกจากตำแหน่ง ขณะที่ ตำรวจเกาหลีใต้ ได้ประกาศดำเนินการสวบสวน ประธานาธิบดี ยุน ในข้อหา 'ก่อกบฏ' แล้ว หลังประกาศใช้กฎอัยการศึกฉุกเฉินเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา


การเริ่มกระบวนการสอบสวน ประธานาธิบดี ยุน ในข้อหา ก่อกบฏ ของตำรวจเกาหลีใต้ มีขึ้นหลังจากที่ พรรคฝ่ายค้า และ นักเคลื่อนไหว 59 คน ได้ ยื่นเรื่องให้มีการสอบสวน ประธานาธิบดี ยุน กับพวก ซึ่งร่วมถึง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายอี ซังมิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก่อกบฏจากการประกาศใช้กฎอัยการศึกฉุกเฉิน โดยพละการ ทั้งนี้ ข้อหาก่อกบฏ เป็นเพียง 1 ใน 2 คดีในเกาหลีใต้ ถือเป็นความผิดร้ายแรง และอยู่เหนือเอกสิทธิ์คุ้มครองของประธานาธิบดี และอาจต้องโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต


สำหรับสิ่งที่จะเกิดต่อไป หลังจากที่มีการเสนอญัตติเพื่อถอดถอนประธานาธิบดี ยุน ออกจากตำแหน่งในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ก็คือ ที่ประชุมสภา จะให้มีการลงมติ ภายใน 72 ชั่วโมงข้างหน้า ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในเวลา 19 นาฬิกาตามเวลาท้องถิ่น หรือ 17 นาฬิกาตามเวลาไทย ในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ ซึ่งการถอดถอนจะเกิดขึ้นได้ จะต้องมีเสียงสนับสนุน 2 ใน 3 หรือ 200 เสียง จากทั้งหมด 300 เสียง ซึ่งขณะนี้ ส.ส. จะพรรคฝ่ายค้าน มีอยู่ทั้งสิ้น 192 ที่นั่ง ซึ่งนั่นหมายความว่าพรรคฝ่ายค้าน จะต้องมีส.ส. อย่างน้อย 8 คน ที่ยอมเปลี่ยนฝั่ง เพื่อให้แน่ใจว่าประธานาธิบดียุน ที่คะแนนนิยมตกต่ำอยู่ในขณะนี้ จะถูกถอดถอนจากตำแหน่ง ซึ่งหากฝ่ายค้านประสบความสำเร็จ ผู้ที่จะมารับหน้าที่ต่อ คือ นายกรัฐมนตรีฮัน ดั๊ก-ซู


อย่างไรก็ตาม ฝั่งพรรคพลังประชาชน หรือ พีพีพี ซึ่งประธานาธิบดียุนเป็นสมาชิกอยู่ ได้ประกาศเมื่อเช้านี้ว่า สมาชิกรัฐสภา 108 คนของพรรค จะลงคะแนนเสียงคัดค้านการถอดถอน โดย นาย ฮัน ดงฮุน หัวหน้าพรรค พีพีพี ประกาศว่า เราแสดงความเป็นหนึ่งเดียว ที่จะขัดขวางการผ่านญัตตินี้ และว่าการเคลื่อนไหวนี้ ไม่ใช่ความพยายามในการปกป้องประธานาธิบดี ยุน แต่เพื่อป้องกัน ความวุ่นวายและอันตรายต่อประชาชนและผู้สนับสนุนของเรา


ก่อนหน้านี้ นาย ฮัน ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของประธานาธิบดียุน ซึ่งระบุว่า เป็น การกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และย้ำอีกครั้ง ให้ ประธานาธิบดียุน ลาออกจากพรรค เนื่องจาก สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ขัดต่อพรรคที่เชื่อมั่ นในเสรีประชาธิปไตย


ประธานาธิบดี ยุน เผชิญกับแรงกดดันจากหลายฝ่าย รวมทั้ง ประชาชนชาวเกาหลีใต้ ที่ออกมาออกมาเดินขบวนตามท้องถนนในกรุงโซล เพื่อเรียกร้องให้เขาลาออกกันอย่างต่อเนื่อง โดยในวันนี้ มีประชาชนหลายพันคน ได้มาจุดเทียนประท้วง ที่หน้าอาคารรัฐสภา เพื่อเรียกร้องให้ประธานาธิบดี ยุน ลาออกจากตำแหน่ง แต่จนถึงขณะนี้ ประธานาธิบดี ยุน ยังคงเก็บตัวเงียบ ไม่แสดงท่าทีอย่างไรในเรื่องนี้ ขณะที่ บรรดานักวิเคราะห์ ก็เกิดความสงสัย ว่าประธานาธิบดียุน จะลาออกจากตำแหน่งด้วยความสมัครใจหรือไม่


โฆษกกระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้ ได้ออกมาแถลงขอโทษ กรณีเหตุความวุ่นวาย ในคืนประกาศอัยการศึกของประธานาธิบดียุน ซอก ยอล เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ประชาชนเกิดความวิตกกังวล พร้อมให้คำมั่นว่า กองทัพจะยังคงให้ความสำคัญกับภารกิจหลัก เพื่อปกป้องความมั่นคงของชาติและชีวิตของประชาชนชาวเกาหลีใต้ต่อไป


และที่อาคารรัฐสภาในวันนี้ พลเอก ปาร์ค อันซู ผู้บัญชาการกฎอัยการศึกของกองทัพ และ คิม ซอนโฮ รัฐมนตรีช่วยกลาโหม ได้เข้าให้ปากคำ ถึงบทบาทของพวกเขาในการบังคับใช้กฎอัยการศึก โดย พลเอก ปาร์ค ระบุว่า เขาไม่มีเจตนาที่จะใช้อาวุธปืนทำร้ายประชาชนเขาไม่ได้เป็นคนร่างคำประกาศกฎอัยการศึก อย่างไรก็ตาม พลเอก ปาร์ค ได้ลาออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการกองทัพเกาหลีใต้แล้ว


สถานการณ์การเมืองในเกาหลีใต้ ที่ยังคงวุ่นวาย ทำให้ ตลาดหุ้นของเกาหลีใต้ร่วงลงอีกเป็นวันที่ 2 ขณะที่ กระทรวงเศรษฐกิจและการเงิน ได้ประกาศ ว่าจะดำเนินมาตรการทุกอย่างที่เป็นไปได้ เพื่อรักษาตลาดให้มีเสถียรภาพ รวมทั้งอัดฉีดสภาพคล่องแบบไม่จำกัด เงิน ขณะที่ บริษัทผู้ส่งออกรายใหญ่ของเกาหลีใต้ ได้จับตาสถานการณ์การเมืองอย่างใกล้ชิด โดยบางบริษัทได้มีการจัดประชุมฉุกเฉินเมื่อกลางดึกของวันอังคาร เพื่อหารือในการอธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้น กับลูกค้าต่างชาติ และ วิธีการรับมือกับความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา และ ปัญหาอื่นๆที่อาจเกิดขึ้น