หาเสียงเดือด! ศึกชิงปธน.สหรัฐฯ โพลชี้คะแนน 7 รัฐสมรภูมิ 'ทรัมป์' นำ 'แฮร์ริส' 5 ต่อ 2

อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน ขึ้นเวทีหาเสียงที่เมืองกรีนส์โบโร รัฐนอร์ท แคโรไลนา โดย ทรัมป์ กล่าวว่า เป็นการชุมนุมที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยในการขึ้นกล่าวปราศรัยนานเกือบ 90 นาที ทรัมป์ ได้ประกาศต่อกลุ่มผู้สนับสนุนอย่างดุเดือดว่า "วันเลือกตั้งประธานาธิบดีวันที่ 5 พฤศจิกายน จะเป็นวันแห่งการปลดปล่อยในอเมริกา และ ตอนนี้เป็นประเทศที่ถูกยึดครอง และในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ สหรัฐ จะไม่ถูกยึดครองอีกต่อไป"


ทรัมป์ ยังได้กล่าวหา แฮร์ริส ซ้ำๆว่าเป็น "คนโกหก" รวมถึงการที่เธออ้างว่า การเป็นประธานาธิบดีของทรัมป์จะทำให้มีการจำกัดการรักษาผู้มีบุตรยากด้วยวิธีการปฏิสนธินอกร่างกาย หรือ IVF โดยทรัมป์บอกกับฝูงชนว่า "ผมถือว่าตัวเองเป็นบิดาของการปฏิสนธิ" และอ้างว่าเป็น "บิดาแห่ง IVF"


ขณะเดียวกัน บรรดาผู้สนับสนุนทรัมป์ต่างออกมาร่วมขบวนพาเหรดรถยนต์ ที่เขตมาริโคปา (Maricopa) รัฐแอริโซนา ขบวนเริ่มต้นที่เมืองมอริส ทาวน์ ไปจนถึงเมืองฟีนิกซ์ รวมระยะทาง 90 กิโลเมตร ระหว่างที่ขับรถทุกคนได้บีบแตรและโห่ร้องแสดงความยินดีไปตลอดทาง


เนื่องจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเหลือเพียงไม่กี่วัน ผู้สนับสนุนทรัมป์ จึงช่วยกันออกมาเชิญชวน เพื่อนร่วมพรรครีพับลิกัน และผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่ยังไม่ตัดสินใจ มาลงคะแนนให้กับทรัมป์


ส่วนรองประธานาธิบดีแฮร์ริส ได้เดินทางไปหาเสียงในรัฐนอร์ท แคโรไลนา รัฐสมรภูมิที่สำคัญเช่นเดียวกัน โดยเธอได้กล่าวกับฝูงชน โดยโจมตีไปถึงความคิดของทรัมป์ว่าเธอไม่เคยคิดว่าคนที่ไม่เห็นด้วยเป็นศัตรู ไม่เหมือนโดนัลด์ ทรัมป์ที่มองคนเห็นต่างเป็นศัตรู ทรัมป์ต้องการจับคนเห็นต่างเข้าคุก แต่ถ้าเป็นเธอ เธอจะให้พวกเขามานั่งที่โต๊ะมาพูดคุยกัน


ซึ่งในเวลาต่อมา แฮร์ริส ได้สร้างเซอร์ไพร์ส โดยไปปรากฏตัวในรายการแซทเทอร์เดย์ ไนท์ ไลฟ์ (Saturday Night Live) ของ สถานี NBC แฮร์ริส ได้ร่วมแสดงตลกสั้นๆร่วมกับมายา รูดอล์ฟ นักแสดงตลก ซึ่งเป็นที่รู้จักจากการที่เธอเลียนแบบท่าทางของรองประธานาธิบดีมาก่อนหน้านี้


โดยในสคริปต์ทั้งสองคนได้มีการเล่นคำเกี่ยวกับชื่อแรกของแฮร์ริสและย้ำว่า ชาวอเมริกันต้องการยุติดราม่าทางการเมือง แฮร์ริสไม่ใช่ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนแรกที่ปรากฏตัวใน SNL โดยในปี 2015 ฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต ก็ได้ปรากฏตัวในฐานะบาร์เทนเดอร์เคียงข้างนักแสดงตลก เคท แมคคินนอน ไม่กี่สัปดาห์ถัดมา โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ซึ่งขณะนั้นกำลังมุ่งหน้าสู่การเป็นประธานาธิบดีเป็นครั้งแรก ได้ร่วมเปิดรายการในตอนนั้น

สำหรับ Vizrt โพลสำรวจความนิยมทั่วประเทศ 3 พ.ย.67

ส่วนโพลสำรวจความนิยมผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิ์เลือกตั้งทั่วประเทศล่าสุด ที่จัดทำโดย ไฟว์ เทอร์ตี้เอ็ท และ เอบีซี แฮร์ริสยังคงนำทรัมป์อยู่ที่ 48% ต่อ 47%

อย่างไรก็ตามหากเจาะไปผลสำรวจคะแนนนิยมใน 7 รัฐสมรภูมิ ทรัมป์มีคะแนนนำ แฮร์ริส 5 ต่อ 2 รัฐ โดยทรัมป์ยังมีคะแนนนำในรัฐเพนซิลวเนีย เนวาดา นอร์ท แคโรไลนา จอร์เจีย แอริโซนา ขณะที่แฮร์ริส มีคะแนนนำในรัฐวิสคอนซินและ มิชิแกน

สำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในปีนี้ มีจำนวนผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงประมาณ 240 ล้านคน แต่มีเพียงจำนวนเล็กน้อยเท่านั้น ที่เป็นผู้ตัดสินว่า ใครจะเป็นประธานาธิบดีคนต่อไป


เนื่องจากทั้งสองพรรคใหญ่ ต่างก็มีฐานเสียงรัฐของตนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น Red state ที่เป็นของรีพับลิกัน หรือ Blue State ที่เป็นเดโมแครต ทำให้การเลือกตั้งทุกครั้งจะมีเพียงไม่กี่รัฐเท่านั้นที่จะเป็นผู้ชี้ชะตาว่า ใครจะได้เป็นประธานาธิบดี


ซึ่งในปีนี้จะเห็นว่า รัฐที่เป็นบลู สเตท ของเดโมแครต มีคะแนนคณะผู้เลือกตั้งในมือแล้ว 226 คะแนน ส่วนรัฐที่เป็นเรด สเตท ของรีพับลิกัน มีคะแนนคณะผู้เลือกตั้งในมือ 219 คะแนน


โดยเราเรียกรัฐเหล่านี้ว่า รัฐสมรภูมิ หรือ สวิง สเตท (Swing State) ซึ่งในปีนี้ รัฐที่ต้องจับตามี 7 รัฐ ได้แก่ แอริโซนา, จอร์เจีย, มิชิแกน, เนวาดา, เพนซิลเวเนีย, นอร์ท แคโรไลนา และวิสคอนซิน และทั้ง 7 รัฐนี้มีจำนวนคณะผู้เลือกตั้งรวม 93 เสียง