'แฮร์ริส' เร่งเครื่องหาเสียงเอาชนะใจชาวอเมริกา โกยคะแนนนิยมหนีทรัมป์

ความเคลื่อนไหวการหาเสียงการเลือกตั้งประธานาธิบดี 2024 ในช่วงไม่ถึง 2 สัปดาห์ คามาลา แฮร์ริส ตัวแทนผู้สมัครชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯจากพรรคเดโมแครต เร่งเครื่องหาเสียงหวังเอาชนะใจ ชาวอเมริกันเชื้อสายลาติน สู้กับ โดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน ที่เริ่มมีคะแนนนิยมตีตื้นแฮร์ริสขึ้นมาบ้างแล้ว


ในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับ เทเลมันโด เมื่อวานนี้ แฮร์ริส ตัวแทนผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต มุ่งประเด็นถึงความสำคัญเกี่ยวกับคะแนนเสียงของชาวอเมริกัน เชื้อสายลาติน ที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ ที่จะเป็นอีกหนึ่งแรงสนับสนุน ที่เป็นฐานเสียงที่จะเทคะแนนให้กับเธอในการเลือกตั้งครั้งนี้ แม้โดยทั่วไปแล้ว ผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวอเมริกันเชื้อสายละติน มักจะสนับสนุนพรรคเดโมแครต แต่ดูเหมือนว่า ข้อดีของแฮร์ริส เมื่อเทียบกับทรัมป์ ในสายตากลุ่มชาวละตินในสหรัฐฯในการเลือกตั้งครั้งนี้ เริ่มลดลงมาสู่ระดับต่ำลง แฮร์ริส พยายามชี้ช่องให้เห็นว่า ทรัมป์คงจะไม่เปิดทางให้การได้เป็นพลเมือง และว่า ทรัมป์ ตอกย้ำว่า ทรัมป์ดำเนินการปิดกั้นพรมแดนระหว่างสหรัฐและละตินอย่างเข้มงวด ภายใต้กฎหมายด้านความมั่นคง และ นโยบายการแยกเด็กจากอกพ่อแม่ชาวละติน เมื่อครั้งที่ทรัมป์เคยดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดี เมื่อปี 2016


ขณะที่ ทรัมป์ ยังคงลุยหาเสียงในพื้นที่รัฐจอร์เจีย หนึ่งในเจ็ดรัฐสมรภูมิ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ช่วงชิงคะแนนมากที่สุด โดยทรัมป์ ได้ขึ้นเวที แบบทาวน์ ฮอลล์ ที่ เมือง เซบูลอน ได้พูดถึงเรื่องความมั่นคงตามแนวพรมแดน ที่เขาเคยทำผลงานได้เป็นอย่างดี เมื่อสมัยดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี และเขาจะกลับไปทำอีกครั้ง แน่นอนว่า จะมีการบังคับใช้ทางกฎหมายมากขึ้น


แม้ว่า ทรัมป์ จะมีนโยบายการเข้าเมืองที่แข็งกร้าว แต่ทีมหาเสียงของทรัมป์ก็หวังว่า ทรัมป์จะสามารถชนะใจกลุ่มชาวละตินได้มากขึ้น จากความไม่พอใจทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ทั้งเงินเฟ้อและค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น ทรัมป์ให้คำมั่นจะยุติภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐฯ และจะเนรเทศกลุ่มคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย ซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันเกี่ยวกับบ้านที่อยู่อาศัย


จากรายงานของ มหาวิทยาลัยฟลอริดา ที่ติดตามการเลือกตั้งล่วงหน้า ระบุว่า จนถึงขณะนี้ มีชาวอเมริกัน ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าแล้ว ประมาณ 26.5 ล้านคนทั่วประเทศ โดยเฉพาะรัฐสมรภูมิ ที่การช่วงชิงคะแนนมากที่สุด มีผู้คนให้ความสนใจออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าเป็นจำนวนมาก เช่น ที่รัฐจอร์เจีย 1.9 ล้านคน , รัฐ มิชิแกน 1.1 ล้านคน , รัฐนอร์ธ แคโรไลน่า 1.7 ล้านคน และ รัฐเพนซิลเวเนีย 1.1 ล้านคน ขณะที่มีคนลงทะเบียนของใช้สิทธิ์เลือกตั้งผ่านทางจดหมาย ทั่วประเทศ มากกว่า 63 ล้านคน


สำหรับ ผลสำรวจคะแนนนิยมทั่วประเทศ ที่จัดทำโดย ไฟว์เทอร์ตี้เอ้ก (538) และ เอบีซี นิวส์ ที่เผยแพร่เมื่อวานนี้ แฮร์ริสถูกทรัมป์ ตีตื้นขึ้นมา แต่ก็ยังคงมีคะแนนนำ ทรัมป์ อยู่ที่ ร้อยละ 48 ต่อ 46 ห่างเพียง 2 จุด เมื่อเทียบกับโพลล์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แฮร์ริส นำห่างทรัมป์ อยู่ที่ ร้อยละ 2.4