ปากีสถานเชิญไทยร่วมประชุมกับนานาชาติที่นับถือศาสนาพุทธ เปิดประตูสู่อารยธรรม 2,000 ปี

รัฐบาลปากีสถานจัดงาน จากคันธาระสู่โลก มรดกแห่งพระพุทธศาสนา โดยได้เชิญผู้เข้าร่วมประชุมจากนานาประเทศ ที่นับถือพระพุทธศาสนาเข้าร่วมจากหลายประเทศ รวมทั้งประเทศไทย เพื่อให้เห็นว่า ในอดีตของประเทศเคยเป็นแหล่งอารยอารธรรมเก่าแก่ทางวัฒนธรรม โดยไม่นำศาสนามาเป็นเส้นแบ่งกั้น


ความสวยงามทางธรรมชาติของสาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน ซึ่งโอบล้อมด้วยหุบเขา ตักศิลา เป็นทิวทัศน์ที่งดงาม อีกทั้งยังมีแม่น้ำสีเขียวมรกต ไหลผ่าน ด้วยภูมิทัศน์ที่สวยงาม ทำให้เป็นเส้นทางอารยธรรมในอดีต มีการสร้างสถานที่สำคัญชื่อว่า สถูปภัมมาลา ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 2523 เป็นแหล่งโบราณคดี ที่มีสถูปเจดีย์ อายุมากกว่า 2000 ปี


มีพระนอนปางไสยาสน์ ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปส่วนหนึ่ง ซึ่งได้รับดูแลให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ด้วยอารยธรรมเส้นทางเผยแพร่ศาสนาตั้งแต่อดีตกาล ทำให้ปากีสถานต้องการส่งเสริม "วัฒนธรรม" สู่สายตาชาวโลก โดยจัดสัปดาห์วันวิสาขบูชาโลก เชิญผู้นำของพุทธศาสนาไปร่วมงาน จนเป็นที่มาของ การประชุมคันธาระสู่โลก ฯ ซึ่งถูกจัดขึ้นโดยกระทรวงการต่างประเทศของปากีสถาน


โดยประเทศไทยพระธรรมศากยวงศ์วิสุทธิ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร และเจ้าคณะภาค6-7 ได้รับอาราธนาไปเป็นองค์ปาฐหลัก ในเวทีการจัดงาน และได้กล่าวถึง มุมมองแห่งศิลปะวัฒนธรรม และปรัชญาโดยไม่ได้แบ่งแยกทางศาสนา ทำให้ปากีสถานซึ่งเป็นประเทศมุสลิม ให้ความสำคัญกับมรดกทางวัฒนธรรม


ขณะที่นายมูฮัมหมัด อิชาค ดาร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เจ้าภาพของรัฐบาลปากีสถาน กล่าวว่าปากีสถานมีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์หลายแห่งการร่วมกิจกรรมจะทำให้เกิดสัมพันธภาพอันนำไปสู่ความสงบสุข อารยธรรมยังสะท้อนผ่านการประกอบอาชีพแกะสลักพระพุทธรูปตั้งแต่ยุคโบราณสู่รุ่นปัจจุบัน ที่ยังไม่เลือนหาย


การแกะสลักพระพุทธรูปในอดีต เมื่อ 2,000 ปีก่อน ที่นำมาแสดงในพิพิธภัณฑ์ของอิสลามาบัด ยังแสดงถึงรายละเอียดการแต่งกายของสงฆ์ ที่ยึดถือมาจากอดีตจนถึงยุคปัจจุบัน


จึงเห็นได้ว่ามรดกโลก ของปากีสถาน ส่วนใหญ่จะเป็นสถานที่แหล่งอารยธรรมความเจริญ ทางพุทธศาสนาที่เคยรุ่งเรืองและต้องการเผยแพระสู่ชาวโลก โดยไม่มีคำว่าศาสานามาเป็นเส้นแบ่ง