'อิสราเอล' ยันทำทุกทางช่วยตัวประกันชาวไทย และจะได้รับสิทธิการเยียวยาให้ครอบครัวผู้สูญเสีย

ทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ให้สัมภาษณ์พิเศษข่าว 3 มิติ ต่อสถานการณ์ล่าสุดในอิสราเอล ยืนยันว่ากำลังทำทุกวิถีทางในการช่วยเหลือตัวประกันชาวไทยให้ปลอดภัย และให้การคุ้มครองแรงงานไทยทั้งที่ต้องการเดินทางกลับไทยกว่า 7 พันคน และที่ต้องการทำงานต่ออีกกว่า 2 หมื่น 3 พันคน พร้อมทั้งแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวผู้เสียชีวิต ยืนยันว่าจะได้รับสิทธิประโยชน์ในการเยียวยาให้ครอบครัวผู้สูญเสียเช่นเดียวกับชาวอิสราเอล เพราะแรงงานไทยคือครอบครัวเดียวกับชาวอิสราเอล นอกจากนี้ทูตอิสราเอลยืนยันว่าไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้งในสถานการณ์ระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ ซึ่งภาวะสงครามนี้ก็เกิดขึ้นระหว่างกลุ่มก่อการร้ายฮามาส จึงอยากทำความเข้าใจกับคนไทยว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่การขัดแย้งกับชาวมุสลิม แม้อิสราเอลจะมีความขัดแย้งกับปาเลสไตน์ แต่เชื่อว่าชาวปาเลสไตน์ก็ต้องการสนับสนุนสันติภาพไม่ใช่การก่อการร้าย และในขณะนี้ยังไม่มีการพูดถึงการหยุดยิงหรือข้อตกลงสันติภาพ เพราะเป้าหมายของอิสราเอล ไม่ต้องการให้กลุ่มก่อการร้ายฮามาสยึดครองฉนวนกาซาได้อีกต่อไป


นางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ให้สัมภาษณ์พิเศษข่าว 3 มิติ ต่อสถานการณ์ล่าสุดในอิสรา นับจากการประกาศภาวะสงครามเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม หลังการโจมตีของกลุ่มฮามาส ซึ่งเอกอัครราชทูตอิสราเอล กล่าวว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อการร้ายที่โหดร้ายเกินมนุษย์ และเลวร้ายที่สุดในอิสราเอล ไม่เพียงแต่ชาวอิสราเอลจำนวนมากที่เสียชีวิต ยังมีชาวต่างชาติโดยเฉพาะคนไทยที่เสียชีวิตถึง 29 รายแล้ว และถูกจับเป็นตัวประกัน 17 ราย รัฐบาลอิสราเอลขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสีย และยืนยันว่ากำลังทำทุกวิถีทางเพื่อติดตามการช่วยเหลือตัวประกันชาวไทยให้ปลอดภัย


เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ยืนยันด้วยว่า รัฐบาลอิสราเอล ทำงานอย่างเต็มที่ในการดูและความปลอดภัยกับแรงงานไทยที่ต้องการเดินทางกลับกว่า 7 พันคน ได้อำนวยความสะดวกในการเดินทางมายังสนามบิน รวมถึงหากประสงค์จะทำงานต่อก็ให้การรับรองความปลอดภัยทุกคนจะได้รับเอกสารยินยอมทำงานเพื่อได้รับการคุ้มครองตามกฏหมายแรงงาน จะไม่มีนายจ้างที่บังคับหรือข่มขู่แรงงานไทยให้ทำงานโดยไม่ได้รับการยินยอมอย่างแน่นอน


นางออร์นา ซากิฟ กล่าวด้วยว่าจะมีเจ้าหน้าที่สถานทูตอิสราเอลประจำประเทศไทยไปเยี่ยมครอบครัวแแรงไทย เพื่อยืนยันว่าจะไม่ทอดทิ้งกันและหากต้องการกลับไปทำงานก็พร้อมให้วีซ่า และยินดีต้อนรับเมื่อสงครามยุติ ในส่วนแรงงานที่อยู่ในพื้นที่สีแดง ได้มีการอพยพมาในที่ปลอดภัยนอกฉนวนกาซาแล้ว ส่วนร่างผู้เสียชีวิตคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือนในการดำเนินการ หรืออาจมากกว่านั้นยังไม่สามารถตอบได้ แต่จะให้มีกระบวนการที่เร็วที่สุดเพื่อให้ครอบครัวได้ทำพิธีทางศาสนา


เอกอัครราชทูตอิสราเอล ประจำประเทศไทย ขอทำความเข้าใจถึงความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ แน่นอนว่าไทยไม่ได้อยู่ในคู่ขัดแย้งนี้ ส่วนอิสราเอลมีความขัดแย้งกับปาเลสไตน์ก็จริง แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาจากการก่อการร้ายโดยกลุ่มฮามาส เป้าหมายของอิสราเอลจึงต้องการหยุดการกระทำของกลุ่มฮามาสไม่ให้ยึดครองฉนวนกาซ่าได้อีกต่อไป ขณะนี้จึงยังไม่มีการพูดถึงการหยุดยิงหรือข้อตกลงสันติภาพ


เอกอัครราชทูตอิสราเอล ประจำประเทศไทย ยืนยันว่าแรงงานไทยยังทำงานต่อในพื้นที่ปลอดภัยจำนวนกว่า 2 หมื่น 3 พันคน แต่พร้อมให้เดินทางกลับทันทีที่มีความประสงค์ จึงขอขอบคุณแรงงานไทยที่ยังเชื่อมั่นในการทำงานในภาคเกษตรกรรมของอิสราเอลที่ถือเป็นภาคส่วนสำคัญโดยเฉพาะในภาวะยากลำบากจากภัยสงครามครั้งนี้