อิสราเอลปะทะฮามาสทวีความรุนแรง ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งต่อเนื่อง

วันที่ 4 ของการสู้รบระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในฉนวนกาซา ตอนนี้ ผู้เสียชีวิตพุ่งทะลุกว่า 770 คน จนล้นสถานที่เก็บศพและโรงพยาบาล



อิสราเอลยังคงเดินหน้าโจมตีเป้าหมายของกลุ่มติดอาวุธฮามาสในฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่อง เฉพาะเมื่อวานนี้ โจมตีเป้าหมายไปแล้วประมาณ 200 จุด ส่งผลให้มีคนเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น และล้นสถานที่เก็บศพ เช่น ในเมืองคาน ยูนิส (Khan Younis) มีพื้นที่เก็บร่างของผู้เสียชีวิตไม่เพียงพอ ทำให้ศพจำนวนมากถูกวางไว้บนพื้น



อาคารบ้านเรือนของชาวปาเลสไตน์กลายเป็นเศษซากจากการถล่มของอิสราเอล ขณะที่สภาพของโรงพยาบาลทุกแห่งในฉนวนกาซาเลวร้ายเกินกว่าจะพรรณนา เพราะเต็มไปด้วยผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต ประชาชนไม่สามารถจัดพิธีศพได้ เพราะถูกอิสราเอลทิ้งระเบิดถล่มอย่างต่อเนื่อง



การโจมตีเป้าหมายส่วนใหญ่ของอิสราเอล คือ ย่านธุรกิจของกาซา ซึ่งเป็นที่ตั้งอาคารรัฐบาลปาเลสไตน์ มีรายงานด้วยว่า การโจมตีครั้งล่าสุดนี้ อิสราเอลได้ล็อกเป้าถล่มอาคารรัฐสภาและกระทรวงต่างๆ



ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนธันยาฮูของอิสราเอลประกาศกร้าวว่า จะตอบโต้กลุ่มฮามาสอย่างหนักหน่วง นี่เป็นเพียงการเริ่มต้น ปฏิบัติการที่เราจะตอบโต้ศัตรูของเราในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ จะส่งผลกระทบต่อพวกเขาหลายชั่วอายุคน



จากคำพูดของผู้นำอิสราเอล ทำให้มีการคาดการณ์ว่า อิสราเอลจะส่งทหารเข้าไปปฏิบัติการภาคพื้นในฉนวนกาซา เหมือนเมื่อปี 2557 แต่ในครั้งนี้ผลกระทบอาจจะรุนแรงมากกว่า เพราะอิสราเอลระดมทหารกองหนุนถึง 3 แสนนาย มากกว่า ปี 2557 ถึง 5 เท่า



ด้านกองกำลังป้องกันอิสราเอล หรือ IDF ได้ปิดล้อมฉนวนกาซาอย่างสมบูรณ์แบบ และอพยพชาวอิสราเอลที่อาศัยอยู่ตามแนวรั้วแบ่งเขตฉนวนกาซาออกไปเกือบหมด รวมถึง เก็บศพของนักรบฮามาสที่แทรกซึมเข้ามาในดินแดนประมาณ 1,500 คน โฆษกของ IDF ยังแจ้งให้ชาวปาเลสไตน์หนีออกจากฉนวนกาซา ผ่านทางด่านราฟาห์ของอียิปต์ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกโจมตี แต่ล่าสุดมีรายงานว่า อียิปต์ได้ปิดพรมแดน ราฟาห์ จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย การปิดล้อมของอิสราเอล ไม่ส่งน้ำ, ไฟฟ้า, อาหาร, และสิ่งของจำเป็น เข้าไปในฉนวนกาซา เริ่มทำให้องค์กรนานาชาติหวั่นวิตกว่าจะเกิดวิกฤตด้านมนุษยธรรม ซึ่งในวันนี้ ชาวปาเลสไตน์ในกาซายังอพยพออกมาจากบ้านเรือนต่อเนื่อง



คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHRC เผยว่า ตอนนี้ มีชาวปาเลสไตน์อพยพออกจากบ้านเรือนเกือบ 2 แสนคน และหวั่นว่าการปิดล้อมจะทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำและไฟฟ้าอย่างรุนแรงในฉนวนกาซา พร้อมบอกว่าการกระทำของอิสราเอลขัดต่อกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ จึงเรียกร้องให้อิสราเอลหลีกเลี่ยงเป้าหมายและทรัพย์สินของพลเรือน ด้านองค์การอนามัยโลก หรือ WHO เรียกร้องให้อิสราเอลเปิดเส้นทางด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา เพื่อนำอุปกรณ์ทางการแพทย์และเวชภัณฑ์ เข้าไปให้กับโรงพยาบาล ทั้งนี้ นับตั้งแต่อิสราเอลเปิดฉากโจมตีฉนวนกาซ่า มีหน่วยงานทางการแพทย์ถูกถล่มได้รับความเสียหาย 13 แห่ง



ส่วนยอดผู้เสียชีวิต กระทรวงสาธารณะสุขของปาเลสไตน์ระบุ ตอนนี้ ยอดผู้เสียชีวิตในฉนวนกาซาเพิ่มเป็นอย่างน้อย 770 คน ในจำนวนนี้มีผู้สื่อข่าวรวมอยู่ด้วย 6 คน และบาดเจ็บอีกประมาณ 4,100 คน ในฝั่งอิสราเอล เสียชีวิตประมาณ 900 คน และบาดเจ็บ 2,616 คน ซึ่งในจำนวนของผู้เสียชีวิตทั้งหมด ทางอิสราเอลบอกว่า เป็นคนที่ถูกนักรบฮามาสยิงเสียชีวิตในเมืองคิบบุตซ์ เบรี (Kibbutz Beeri) กว่า 100 คน รวมทั้งสองดินแดนตอนนี้เสียชีวิตไปแล้ว 1,670 คน



ด้านตัวประกันที่ถูกนักรบฮามาสจับไปยังฉนวนกาซา อิสราเอลคาดการณ์ว่ามีประมาณ 150 คน ซึ่งฮามาสได้ข่มขู่ว่าจะสังหารตัวประกัน หากอิสราเอลโจมตีฉนวนกาซาแบบไม่แจ้งเตือน โดยการโจมตี 1 ครั้ง จะสังหารตัวประกัน 1 คน ล่าสุด นายอิสมาอิล ฮานีเยห์ หัวหน้าสำนักงานการเมืองของกลุ่มฮามาส กล่าวว่า จะไม่เจรจากับอิสราเอลเรื่องตัวประกัน จนกว่าการสู้รบจะสิ้นสุดลง



ในขณะที่ทางตอนเหนือของอิสราเอล มีการระดมรถถังเข้าไปประจำการใกล้กับพรมแดนที่อยู่ติดกับเลบานอน ท่ามกลางความหวั่นวิตกว่าสถานการณ์ความขัดแย้งในครั้งนี้จะขยายวงกว้าง หลังอิสราเอลทำการโจมตี เข้าไปในดินแดน ของเลบานอนทำให้นักรบของกลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์ เสียชีวิต 3 คน เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่อิสราเอล 1 คนเสียชีวิตระหว่างการลาดตระเวนบริเวณพรมแดน ที่ชาวปาเลสไตน์ ในเลบานอนอ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ