ต่างประเทศ

4 แคว้น เริ่มลงประชามติเข้าร่วมรัฐเซีย จับตาดูสงครามยูเครนหวนกลับมารุนแรงอีกครั้ง

โดย parichat_p

24 ก.ย. 2565

334 views

สถานการณ์ในยูเครนกำลังเป็นที่จับตามองอีกครั้ง และคาดว่า เหตุการณ์จะรุนแรงมากขึ้น หลัง 4 แคว้นในยูเครนที่รัสเซียยึดครองได้ กำลังจัดการลงประชามติ เพื่อผนวกรวมดินแดนทั้งหมดเข้ากับรัสเซีย ขณะที่ชาติตะวันตกออกมาประณามว่า การลงประชามติในครั้งนี้เป็นสิ่งที่ผิดกฏหมาย


สี่แคว้นของยูเครนที่ตอนนี้อยู่ในความควบคุมของรัสเซียและกำลังจัดการลงประชามติในขณะนี้ได้แก่แคว้นลูฮานสค์ (Luhansk) โดเนตสค์ (Donetsk) เคอร์ซอน (Kherson) และ ซาปอริซเซีย (Zaporizhzhia)


การลงประชามติจะใช้เวลาทั้งสิ้น 5 วัน เริ่มตั้งแต่เมื่อวานนี้ไปจนถึงวันที่ 27 กันยายน สำหรับพื้นที่ทั้ง 4 แคว้นนี้คิดเป็น 15 เปอร์เซนต์ของดินแดนยูเครนทั้งหมด หรือเทียบเท่ากับประเทศฮังการี่ จริงๆ แล้วเจ้าหน้าที่ในยูเครนที่สนับสนุนรัสเซียได้มีการพูดคุยกันเรื่องการลงประชามติมาหลายเดือนแล้ว แต่สถานการณ์เกิดพลิกผันตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ที่ยูเครนสามารถยึดคืนพื้นที่บางส่วนกลับไป ทำให้กำหนดการลงประชามติมีขึ้นเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้


สำหรับสองแคว้น คือ ลูฮานสค์ และโดเนตสค์ บัตรลงคะแนนเป็นภาษารัสเซียเท่านั้น เพราะจริงๆแล้วดินแดนนี้ กลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่สนับสนุนรัสเซีย ได้เข้าครอบครองพื้นที่บางส่วนมาตั้งแต่ปี 2014 แล้ว ขณะที่ซาปอริซเซีย และ เคอร์ซอน รัสเซียเพิ่งเข้ามาควบคุมเมื่อครั้งใช้ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา


บางพื้นที่มีรายงานว่า ทหารติดอาวุธไปเคาะประตูตามบ้าน พร้อมกับยื่นบัตรลงคะแนน เพื่อให้ประชาชนใช้สิทธิ์ที่บ้านได้ เจ้าหน้าที่ยูเครนยังเผยด้วยว่า ประชาชนยังถูกสั่งห้ามเดินทางออกมานอกพื้นที่ จนกว่าการลงประชามติจะเสร็จสิ้น


ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ (Volodymyr Zelenskyy) ผู้นำยูเครนได้ออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ว่า โลกจะร่วมประณามการลงประชามติที่หลอกหลวง ซึ่งจัดขึ้นในดินแดนของยูเครนที่ถูกรัสเซียยึดครองไป และว่า การกระทำดังกล่าวถือเป็นการละเมิดต่อกฏหมายของยูเครน และกฏหมายระหว่างประเทศ พร้อมกับย้ำว่า ผลการลงประชามติจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง กองกำลังยูเครนจะยังคงเดินหน้าเพื่อนำพื้นที่ที่รัสเซียยึดครองกลับคืนมาให้ได้


ขณะที่ผู้นำชาติตะวันตกและกลุ่มจี 7 ออกมาประณามการลงประชามติครั้งนี้ว่า เป็นสิ่งที่น่าละอาย และผิดกฏหมาย เนื่องจากการประชามติจัดโดยเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ที่สนับสนุนรัสเซีย ซึ่งถือเป็นการละเมิดกฏบัตรสหประชาชาติ


ส่วนสถานการณ์ในรัสเซียเองก็วุ่นวายอย่างหนัก ชายรัสเซียที่มีอายุต่ำกว่า 35 ปียังคงเดินทางออกนอกประเทศอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่เมื่อวันพุธที่ผ่านมาประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียลงนามในกฤษฎีการะดมพลสำรองเข้ามาประจำการในกองทัพรัสเซียเพิ่มอีก 3 แสนนาย เพื่อส่งไปร่วมรบในสงครามยูเครน โดยเฉพาะจุดผ่านแดนใน 3 จุดที่ติดพรมแดนกับรัสเซีย ได้แก่พรมแดนที่ติดกับจอร์เจีย ฟินแลนด์ และคาซัคสถานโดยจุดผ่านแดนที่จอร์เจียแถวขบวนรถยนต์ที่มารอข้ามพรมแดนยาวเหยียดถึง 10 กิโลเมตร ส่วนจุดผ่านแดนที่คาซัคสถาน ชาวรัสเซียต้องรอเข้าแถวยาวถึง 10 ชั่วโมง


ขณะที่จุดผ่านแดนที่ฟินแลนด์ ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา มีชาวรัสเซียมากกว่า 6 พัน 400 คนแล้ว ที่เดินทางเข้ามายังฟินแลนด์ ในจำนวนนี้ 3 พัน 227 คนเดินทางออกจากฟินแลนด์ไปยังประเทศอื่นแล้ว

คุณอาจสนใจ

Related News