ปิดฉากผัวเก่าปืนโหด ลั่นไกจบชีวิต หนีความผิดยิงเมียเก่าดับ พบประวัติคดีค้างเก่าเพียบ

ตร.ปิดล้อมเจรจาให้สามีที่ก่อเหตุยิงอดีตภรรยาดับเข้ามอบตัว หลังหลบหนีไปงานศพแม่ของตัวเอง ใน จ.พัทลุง แต่ผู้ก่อเหตุกลับตัดสินใจจบชีวิตตัวเองแทน ขณะที่ลูกสาวของฝ่ายอดีตภรรยา ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์

จากกรณีนายสถาพร อายุ 60 ปี ก่อเหตุหญิงอดีตภรรยา อายุ 47 ปี ที่บริเวณลานจอดรถของคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านห้วยขวาง กทม. จนเสียชีวิต เมื่อช่วงค่ำวันที่ 9 ตุลาคม จากนั้นก็หลบหนี ซึ่งตำรวจได้ไปขอศาลออกหมายจับนายสถาพร

ต่อมาตำรวจสืบทราบว่านายสถาพรได้นั่งรถทัวร์โดยสารจาก กทม. มุ่งหน้ากลับบ้านที่ อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง เพื่อมาร่วมงานศพแม่ที่เสียชีวิต โดยตอนตำรวจไปปิดล้อมที่บ้านพัก ขณะนั้นนายสถาพรหลบอยู่ด้านใน ตำรวจจึงขอให้ภรรยาและลูกสาวของนายสถาพร ไปเจรจาเกลี้ยกล่อมให้นายสถาพรออกมามอบตัว และเมื่อญาติเดินเข้าไปพูดคุยกับนายสถาพรได้สักพัก ก็ออกมาบอกตำรวจว่า ผู้ต้องหาขอเวลา 10 นาที

จากนั้นไม่นาน ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ตำรวจจึงรออยู่ด้านนอกจนมั่นใจว่าจะไม่มีเสียงปืนดังขึ้นอีกแล้ว จึงได้นำกำลังเข้าไปในบ้านเพื่อเคลียร์พื้นที่ พบนายสถาพรนอนเสียชีวิตในห้องน้ำ สภาพศพมีแผลถูกยิงที่ศีระษะ ส่วนในมือพบอาวุธปืนขนาด 9 มม. จึงขอให้แพทย์นิติเวช มาชันสูตรศพที่เกิดเหตุ พร้อมนำปืนของกลางมาตรวจสอบ และแจ้งญาติให้ทราบว่า นายสถาพรตัดสินใจลั่นไกปลิดชีพตัวเอง

ขณะที่ญาติแจ้งตำรวจว่า คิดไว้แล้วต้องเป็นแบบนี้ เพราะพยายามเกลี้ยกล่อมนานหลายชั่วโมง แต่นายสถาพรเป็นคนดื้อไม่ยอมฟัง จนกระทั่งขอจบชีวิตตัวเองเพื่อหนีปัญหา

ญาติให้ข้อมูลด้วยว่า สาเหตุที่นายสถาพรก่อเหตุยิงอดีตภรรยานั้น ก่อนหน้านี้ผู้เสียชีวิตเป็นคนมีฐานะ แต่หลังจากมีภรรยาคนนี้ ปรากฏว่าเงินเก็บ เงินสะสมและเงินรับเหมาก่อสร้าง ต้องนำเลี้ยงดูอดีตภรรยา พอเป็นหนี้และธนาคารเตรียมยึดบ้าน ทำให้นายสถาพรเครียด ประกอบกับเคยถูกอดีตภรรยาคนนี้ แจ้งจับคดีอาวุธปืน จนตามไปก่อเหตุดังกล่าว

ก่อนหน้านี้ แฟนหนุ่มของลูกสาวอดีตภรรยาที่ถูกยิงเสียชีวิต ยืนยันว่า ผู้เสียชีวิตพยายามที่จะเข้ามา เพื่อมาหาผลประโยชน์กับทางคุณแม่แฟน เพราะคุณแม่เป็นคนมีความสามารถ มีคอนเนคชั่นและทำธุรกิจเก่ง ตลอดจนมีเพื่อนฝูงที่เป็นนักธุรกิจจำนวนมาก ทำให้ง่ายต่อการต่อธุรกิจของเขาที่เกี่ยวกับร้านที่เปิดเป็นวัสดุก่อสร้าง

ล่าสุด ตำรวจได้ส่งศพไปชันสูตรที่โรงพยาบาลป่าพะยอม ก่อนญาติจะนำมาบำเพ็ญกุศล วางคู่กับศพแม่ของผู้เสียชีวิต และเตรียมจะฌาปนกิจในวันพรุ่งนี้ ซึ่งญาติขอไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ เกี่ยวกับเรื่องราวนี้

ต่อมาทางทีมข่าวได้ติดต่อไปยังทางลูกสาวและแฟนหนุ่มของผู้ตาย ทางเจ้าตัวเองปฎิเสธที่จะให้รายละเอียด เนื่องจากยังรู้สึกเศร้ากับเหตุการณ์ในการสูญเสียในครั้งนี้ โดยที่ยืนยันว่าทั้งคู่เองได้รับรู้ข่าวการเสียชีวิตของนายสถาพรแล้ว ซึ่งตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาก็รู้สึกยังคงกังวลกับเรื่องที่เกิดขึ้น จนทำให้นอนไม่หลับ ต้องใช้ยานอนหลับในการผ่อนคลาย ย้ำสภาพจิตใจยังไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์ใดๆ

สำหรับนาย สถาพร พบว่ามีคดีค้างเก่าถึง 7 คดี ได้แก่ 10 ก.ค.2553 คดียักยอกทรัพย์ สภ.พัทลุง จ.พัทลุง, 1 มี.ค.2554 คดี พ.ร.บ.เช็ค สภ.รัษฎา จ.ตรัง, 26 มี.ค. 2563 คดีลักทรัพย์ สภ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง, 13 มิ.ย.2563 คดีพ.ร.บ.เช็ค สภ.ควนขนุน จ.พัทลุง, 27 ก.ค. 2563 ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว สภ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง, 6 ก.ย. 2565 คดีคดีขืนใจผู้อื่น หน่วงเหนี่ยวกักขัง และพกพาอาวุธปืนโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต สน.ห้วยขวาง, 8 ก.ย.2565 มีอาวุธปืน เครื่องกระสุน โดยไม่ได้รับอนุญาต สน.ห้วยขวาง ซึ่งคดีของ สน.ห้วยขวาง ตำรวจจะทำเรื่องสั่งไม่ฟ้องในคดีอาญา เพราะผู้ต้องหาถึงแก่ความตาย แต่หากทางญาติผู้เสียหายติดใจ ก็สามารถจะฟ้องร้องเรียกร้องค่าเสียหายทางเเพ่งในคดีดังกล่าวได้

ส่วนของเส้นทางการหลบหนีก็พบว่าผู้ต้องหาหลังก่อเหตุได้พักภายในพื้นที่กรุงเทพประมาณ 1 วัน ที่ย่านรามคำแหง ก่อนจะตัดสินใจเดินทางกลับพัทลุง ในวันที่ 10 ตุลาคม ช่วงค่ำด้วยรถทัวร์

ทั้งนี้ทางตำรวจยืนยันว่าการเข้าควบคุมสถานการณ์และติดตามตัวนายสถาพรเป็นไปตามยุทธวิธี ที่ได้มีการนำญาติพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าเจรจาเกลี้ยกล่อมให้ผู้ต้องหามอบตัว โดยใช้เวลาหลายชั่วโมง แต่สุดท้ายผู้ก่อเหตุกลับตัดสินใจยิงตัวตาย ยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองไม่ได้เข้าไปกดดันแต่อย่างใด เป็นไปตามหลักวิธี