จับตา! หารือ GBC พรุ่งนี้ กัมพูชาดึงประเทศที่ 3 ช่วยเจรจา สร้างภาพให้ตัวเองได้เปรียบ

รายการโหนกระแสวันนี้ (23 ธันวาคม 2568) เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พูดคุยกับพลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก และ ผศ.ดร.ธนภัทร ชาตินักรบ อาจารย์ประจำศูนย์กฎหมายระหว่างประเทศ คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์



พลตรี วินธัย เปิดเผยถึงสถานการณ์ปัจจุบันว่ามีความคืบหน้าไปในทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ และเป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยเน้นย้ำว่าการปฏิบัติการทางทหารครั้งนี้มีการเตรียมการมาอย่างดี ตั้งแต่ช่วงที่ยังใช้กลไกทางการทูต เมื่อการเจรจาไม่บรรลุผลตามเป้าหมาย จึงต้องกลับมาใช้ปฏิบัติการทางทหารควบคู่ไปกับการรักษากำลังพล ซึ่งล่าสุดทางฝ่ายไทยสามารถเข้าควบคุมพื้นที่เป้าหมายสำคัญได้แล้ว โดยเฉพาะบริเวณ "เนิน 350" ในพื้นที่ปราสาทตาควาย



ต่อมา หนุ่ม กรรชัย ได้สอบถามถึงมุมมองทางกฎหมายและการต่างประเทศกับ ผศ.ดร.ธนภัทร ชาตินักรบ เกี่ยวกับการประชุม GBC (General Border Committee) ที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยอาจารย์ธนภัทรวิเคราะห์ว่า การประชุมนี้มีความสำคัญมาก เพราะจะเป็นเวทีที่ไทยใช้ยืนยันเงื่อนไข 3 ข้อที่เคยเสนอไปก่อนหน้านี้ ได้แก่ 1. กัมพูชาต้องหยุดยิงก่อน 2. การหยุดยิงต้องเป็นไปอย่างถาวรและต่อเนื่อง และ 3. ต้องมีการเจรจาเรื่องการเก็บกู้ทุ่นระเบิดที่กัมพูชาวางไว้ ซึ่งไทยถือว่าเงื่อนไขเหล่านี้เป็นมาตรฐานขั้นต่ำในการเจรจา



ในส่วนของสถานที่เจรจา อาจารย์ธนภัทรกล่าวถึงความเป็นไปได้ที่การประชุมอาจจะไม่ได้เกิดขึ้นในไทย (เช่นที่จันทบุรีตามข่าวลือ) แต่อาจจะย้ายไปจัดที่ "มาเลเซีย" ในฐานะคนกลาง เนื่องจากกัมพูชาอาจจะมองว่าการมาเจรจาในไทยทำให้เสียเปรียบหรือเสียหน้า หรือรู้สึกไม่ปลอดภัย ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น การใช้มาเลเซียเป็นเวทีกลางก็ถือเป็นทางออกที่ยอมรับได้ เพื่อให้การเจรจาเกิดขึ้นจริง โดย หนุ่ม กรรชัย ได้ตั้งข้อสงสัยว่าทำไมต้องไปคุยไกลถึงมาเลเซียทั้งที่รบกันตรงนี้ ซึ่งอาจารย์ธนภัทรอธิบายว่าเป็นเรื่องของ "หน้าตา" และจิตวิทยาในการเจรจาระหว่างประเทศ