คลิปเต็มรายการ

"ทนายสายหยุด" รับ "นานา" ปลอมเอกสารจริง เชื่อประวิงเวลาใช้หนี้เพื่อน - "ดีเจดาด้า" จุกอกหลังรู้ความจริง

3 ชั่วโมงที่แล้ว

9 views

รายการโหนกระแส (5 ธ.ค. 2568) ดำเนินรายการโดย หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย เริ่มต้นด้วยการเกาะติดมหากาพย์คดีฉ้อโกงประชาชนของ “นานา ไรบีนา” ที่กำลังเป็นประเด็นร้อน โดยมีผู้เสียหายรวม 17 ราย มูลค่าความเสียหาย 195 ล้านบาท



โดยวันนี้ทางรายการได้เชิญ ทนายสายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความส่วนตัวของนานา พร้อมด้วย ดีเจดาด้า หนึ่งในผู้เสียหายซึ่งเป็นเพื่อนสนิท ทนายสวัสดิ์ เจริญผลทนายความ “ข้าวโพด” หนึ่งในผู้เสียหาย และ ทนายแก้ว มาร่วมพูดคุยวิเคราะห์ข้อกฎหมาย



ดีเจดาด้า เล่าย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน นานาเคยโทรศัพท์มาหาและร้องไห้หนักมาก บอกมีหนี้สินอยู่ 168 ล้านบาท และต้องหาเงินมาจ่ายคืนภายในระยะเวลา 3 เดือน ทำให้ตนรู้สึกตกใจมาก และพยายามช่วยเพื่อนคิดหาทางออก โดนนานาระบุว่ามีเงินสดอยู่ 50 ล้านบาท ยังขาดอีกกว่าร้อยล้าน ตนจึงแนะนำให้ลองไปปรึกษาคนรู้จักเผื่อจะช่วยเหลือได้ ซึ่งหลังจากผ่านไป 2-3 วัน นานาก็กลับมาแจ้งว่าสามารถเคลียร์ปัญหาได้แล้ว โดยการยืมเงินจากแหล่งเงินทุนแห่งหนึ่ง ทำให้ตนเข้าใจมาตลอดว่าเพื่อนมีเจ้าหนี้เพียงรายเดียวและกำลังทยอยชำระหนี้



ต่อมา นานาได้ชักชวนให้ตนซื้อหุ้นบริษัท โดยอ้างว่ามีผู้ถือหุ้นเดิมจะถอนหุ้นออก จึงเสนอขายให้ตนในสัดส่วน 1 เปอร์เซ็นต์ ในราคา 2 ล้านบาท ซึ่งตนตัดสินใจซื้อ เนื่องจากเห็นว่าธุรกิจของเพื่อนมีผลกำไรดี โดยมีการทำสัญญาซื้อขายหุ้นกันแบบส่วนตัว แต่ยังไม่ได้ไปดำเนินการเปลี่ยนรายชื่อผู้ถือหุ้นที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพราะอีกฝ่ายอ้างว่าจะรอเปลี่ยนทีเดียวล็อตใหญ่ ส่วนเงินอีก 1 ล้านบาท เป็นส่วนที่มาขอยืมเมื่อเดือนสิงหาคม โดยมีการตีเช็คค้ำประกันไว้ระยะเวลา 1 ปี ซึ่งเพิ่งครบกำหนดไปเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา



นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเรื่องการหย่าร้าง ที่นานาเคยระบุกับตนว่า ได้เซ็นใบหย่ากับสามีแล้ว เพื่อเหตุผลทางธุรกิจและการจัดการหนี้สิน ซึ่งตนก็เชื่อตามนั้นและนำข้อมูลไปพูดในรายการหนึ่ง แต่ปรากฏว่าความจริงคือยังไม่ได้มีการหย่าร้างแต่อย่างใด



ทนายสายหยุด เล่าย้อนถึงเมื่อวานที่ประกันตัว “นานา” วางเงินสด 1 ล้านบาท ศาลจะดูที่อัตราโทษ แม้ความเสียหายจะสูงก็ตาม กฎหมายที่เขียนไว้แน่นอนอยู่แล้ว พร้อมเขียนเหตุผล เป็นการกล่าวหาเพียงฝ่ายเดียว ตอนแรกตามข่าวคือ 400 ล้าน แต่ตำรวจยื่นออกมาเสียหาย 152 ล้านบาท ซึ่งผู้เสียหายที่หลายกลุ่ม 1. การเทรดหุ้น 2. การให้กู้ 3. การลงทุน 4. การยืมเงิน โดยหลักการที่ศาลให้ปล่อยตัวชั่วคราว คือ ไม่มีพฤติกรรมหลบหนี



ทนายสวัสดิ์ บอกเรื่องนี้ต้องดูที่พฤติกรรมเริ่มต้น ขอยืนยันอีกครั้งไม่ใช่การกู้เงิน สุดท้ายบุคคลที่ 3 ไม่มีตัวตนอยู่จริง ต่อมาวันที่ 23 นานาก็ยอมรับว่าไม่ได้บอกเพื่อน แต่พยายามจะหาเงินมาใช้หนี้



ทนายสายหยุด ยอมรับกลางรายการโหนกระแส ว่าสลิปโอนเงินของ นานา คือสลิปปลอม แต่ต้องดูว่าการปลอมสลิปเพื่อเจตนาใด เพื่อประวิงเวลาในการชำระหนี้

แท็กที่เกี่ยวข้อง  โหนกระแส ,รายการโหนกระแส

คุณอาจสนใจ

Related News