อู่มหาภัยอีกแล้ว! เอารถไปทำสี สุดท้ายถูกเชิด ซ้ำเลขไมล์รถเพิ่ม น้ำมันที่เติมไว้เต็มถังก็หมด

รายการโหนกระแสวันนี้ (3 ธ.ค. 2568) พูดคุยกรณีผู้เสียหายจำนวนมาก ร้องเรียนได้รับความเดือดร้อนจากอู่ทำสีรถยนต์แห่งหนึ่ง ย่านเพชรเกษม 87 ที่มีพฤติการณ์รับรถลูกค้าไปแล้วดองงานไว้นานหลายเดือน โดยวันนี้มีผู้เสียหายหลายรายมาร่วมรายการ พร้อมด้วย คุณตั้ม คุณบอย คุณแฮ็ค และคุณวิ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าง สคบ. และทนายแก้ว มาร่วมพูดคุยข้อถึงกฎหมายด้วย



คุณบี หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าจุดเริ่มต้นว่า ตนและแฟนรู้จักอู่นี้ผ่านเฟซบุ๊กชื่อ KKC Body Car ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น PY Color โดยติดตามเพจมาเป็นปี จึงตกลงเอารถยนต์มิตซูบิชิ แอททราจ ไปทำสี โดยนัดรับรถกันแถวพุทธมณฑลสาย 4 ทางอู่ส่งทีมงานมารับรถ 2 คน พร้อมยื่นข้อเสนอโปรโมชันแบบเหมาจ่าย คือให้โอนเงินสดให้ทางอู่ 13,000 บาท แล้วอู่จะไปจัดการเคลมประกันชั้น 1 ให้เพื่อทำสีรอบคัน ซึ่งปกติราคาทำสีรอบคันจะอยู่ที่ 3-4 หมื่นบาท แต่ทางอู่อ้างว่าจ่ายส่วนต่างเท่านี้จบเลย



หลังจากเอารถไปแล้ว ผ่านไปประมาณ 20 วัน ทางอู่ทักมาขอเก็บเงินเพิ่มอีก 3,800 บาท อ้างว่าเป็นค่าเปลี่ยนคิ้วขอบยางที่เสื่อมสภาพ แฟนคุณบีก็ยอมโอนให้ แต่หลังจากนั้นเมื่อสอบถามความคืบหน้า ทางอู่ก็บ่ายเบี่ยงตลอด จนเวลาล่วงเลยไปเกือบ 2 เดือน ซึ่งเกินกำหนด 45-50 วันที่ตกลงกันไว้ คุณบีตัดสินใจเดินทางไปดูรถที่อู่แถวนครปฐม เมื่อวันที่ 6 เมษายน พบว่ารถจอดยังไม่มีการทำสีใดๆ ทั้งสิ้น



ขณะที่ผู้เสียหายอีกราย อย่างคุณบอย เจ้าของรถฮอนด้า แจ๊ส เล่าเสริมในส่วนของตนว่า ตนก็หลงเชื่อโปรโมชัน จ่ายเงินสดเพิ่ม 10,000 บาท บวกกับใช้ประกันชั้น 1 เหมือนกัน โดยเอารถเข้าอู่ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ทางอู่อ้างว่ารอประกันอนุมัติ จนเดือนตุลาคมถึงเริ่มเห็นว่ามีการทำรถ และครั้งสุดท้ายที่เห็นรถคือวันที่ 24 พฤศจิกายน รถใกล้เสร็จแล้วเหลือแค่เก็บรายละเอียด แต่พอเห็นข่าวในกลุ่มผู้เสียหายว่ามีปัญหารถหาย ตนรีบไปดูที่อู่เมื่อวาน ปรากฏว่าอู่ปิดเงียบ และรถของตนหายไปแล้ว



นายนิรุตต์ ศรีไกรวิน จาก สคบ. ได้วิเคราะห์พฤติการณ์ของอู่นี้ว่า ทำเป็นขบวนการที่มีสูตรสำเร็จ คือเริ่มต้นจากการใช้โปรโมชันราคาถูกมาล่อใจ เช่นทำสีรอบคัน 7,000 บาท เพื่อกระตุ้นความอยากของผู้บริโภค เมื่อเหยื่อหลงเชื่อเอารถเข้าไป ก็จะเริ่มกระบวนการยื้อเวลา ย้ายรถหนี หรือเปลี่ยนชื่ออู่ไปเรื่อยๆ ซึ่งในทางกฎหมายของ สคบ. ผู้ประกอบธุรกิจอู่ซ่อมรถ จำเป็นต้องออกหลักฐานการรับเงินที่มีรายละเอียดครบถ้วน ทั้งรายการซ่อม รายละเอียดอะไหล่ วันรับรถ และที่สำคัญคือต้องระบุเลขไมล์เข้า-ออก เพื่อป้องกันปัญหาการนำรถไปใช้ แต่กรณีนี้ไม่มีใครได้รับหลักฐานที่ถูกต้องเลย ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท



ทนายแก้ว อธิบายข้อกฎหมายเพิ่มเติมว่า การกระทำนี้ผิดกฎหมายอาญาหลายกรรม เริ่มตั้งแต่การหลอกลวงเอาเงินเป็น "ฉ้อโกง" เมื่อเอารถไปแล้วเบียดเบียนเอาไปใช้หรือเอาไปซ่อน เป็น "ยักยอกทรัพย์" และหากมีการเอารถไปขายต่อให้บุคคลอื่น ก็จะเข้าข่าย "รับของโจร" นอกจากนี้ ทนายแก้วยังตั้งข้อสังเกตถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ ว่าเหตุใดอู่นี้เปิดมานาน 6-7 เดือน และมีผู้เสียหายจำนวนมาก แต่กลับไม่มีการดำเนินการจับกุม ปล่อยให้เปิดหน้าร้านหลอกลวงประชาชน