น้ำลดความเสียหายโผล่! กู้ภัยเล่านาทีช่วยผู้ประสบภัย มาครบทั้งคำด่า ยิงไล่ ยันอยากช่วยทุกคนแต่ขอให้เข้าใจด้วย

รายการโหนกระแสวันนี้ (27 พ.ย. 2568) เกาะติดวิกฤตน้ำท่วมหาดใหญ่ เปิดใจทีมกู้ภัย และอาสาสมัครที่ต้องแบกรับความกดดันรอบด้าน โดยได้ร่วมพูดคุยกับตัวแทนจากมูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และอาสาสมัครศิลปิน ถึงสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา



ทีมประสานงานหลังบ้าน สะท้อนภาพความตึงเครียดของสถานการณ์ว่า เหตุการณ์นี้บีบหัวใจทุกวินาที เพราะเจ้าหน้าที่กู้ภัยหนึ่งคนต้องแบกรับความคาดหวังจากผู้ประสบภัยนับร้อยนับพันครอบครัว โดยในการลงพื้นที่ครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทุกนายต่างยอมรับความเสี่ยงถึงขั้นเอาชีวิตเข้าแลก เพื่อช่วยเหลือคนส่วนมากที่กำลังเดือดร้อนให้ได้ก่อน ความยากลำบากที่สุดของทีมหลังบ้านคือระบบการสื่อสารที่ล่มเกือบทั้งหมด ทำให้ไม่สามารถส่งต่อข้อมูลเคสขอความช่วยเหลือไปยังทีมหน้างานได้ทันท่วงที



ทางด้านตัวแทนจากสยามรวมใจปู่อินทร์ กล่าวเสริมถึงความกดดันที่เกิดขึ้นว่า ภัยพิบัติครั้งนี้รุนแรงเกินความคาดหมาย ถือเป็นวิกฤตระดับ 5 ที่ทุกคนต้องตั้งสติ การทำงานต้องประเมินสถานการณ์โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของทั้งเจ้าหน้าที่และผู้ประสบภัยเป็นหลัก พร้อมขอความเห็นใจจากประชาชนว่าอาสาสมัครทุกคนมาด้วยใจ เสียสละร่างกายและทุนทรัพย์ส่วนตัว กินนอนกลางน้ำเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน



นอกจากนี้ ทีมกู้ภัยยังได้ขอชี้แจงประเด็นดราม่าที่มีการกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยขับเรือ และเจ็ตสกีเล่นเพื่อความสนุกสนาน โดยยืนยันว่าเจ้าหน้าที่เดินทางมาจากจังหวัดไกล ๆ เช่น เชียงราย เชียงใหม่ แม่สาย ระยะทางกว่า 1,000 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางกว่า 15 ชั่วโมง ไม่มีใครเดินทางมาไกลขนาดนี้เพื่อมาขับเรือเล่น แต่มาเพื่อช่วยเหลือประชาชนจริงๆ การขับขี่ที่อาจดูรวดเร็วเนื่องจากต้องแข่งกับเวลาและกระแสน้ำที่เชี่ยว โดยเฉพาะการเข้าไปในพื้นที่น้ำลึกที่รถเข้าไม่ถึง จึงขอความเห็นใจจากประชาชนให้เข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้วย



ต่อมาทางรายการได้สัมภาษณ์สด "คุณต่าง" ผู้ประสบภัยที่อาศัยอยู่ในซอยราษฎร์อุทิศ 20 พื้นที่เขต 8 ซึ่งเพิ่งตัดสินใจใช้กะละมังใส่ของจำเป็นและว่ายน้ำฝ่าน้ำท่วมระดับอกออกมาจากบ้านเมื่อช่วงเช้า คุณต่างเล่าว่าตัดสินใจออกมาขอความช่วยเหลือเพราะคนในบ้านและเพื่อนบ้านในละแวกนั้นอีกกว่า 20 ครัวเรือน ติดค้างอยู่ภายในบ้านมานานถึง 6 วันแล้ว โดยไม่มีเรือกู้ภัยหรือหน่วยงานใดเข้าไปถึงเลย เนื่องจากระดับน้ำลึกและกระแสน้ำเชี่ยวมาก แม้จะเห็นเรือกู้ภัยผ่านไปผ่านมาที่ปากซอย แต่ก็ไม่สามารถเข้ามาในซอยลึกได้ ทำให้ชาวบ้านขาดแคลนอาหารและน้ำดื่มอย่างหนัก โดยเฉพาะเด็กเล็กและผู้สูงอายุที่มีอยู่จำนวนมากในพื้นที่