หนุ่มร้องแม่ถูกเพื่อนบ้านป่วยจิตทำร้าย ผลักล้มหัวกระแทกพื้น กลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา

รายการโหนกระแสวันนี้ (14 พ.ย. 2568) พูดคุยกับครอบครัวผู้บาดเจ็บ กรณีแม่วัย 74 ถูกผู้ป่วยจิตเภททำร้าย จนกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา



เหตุเกิดเมื่อเช้าวันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 หลังจากนำส่งโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช แพทย์วินิจฉัยว่า มีเลือดคั่งในสมองด้านขวา บวมกดเบียดสมองส่วนกลางและซ้าย จำเป็นต้องผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะฝั่งขวาออกเพื่อระบายเลือดและลดความดันในสมอง



หลังผ่าตัด คุณแม่นอนมาสามวันแล้วยังไม่ฟื้น ต่อมาวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 เวลา 20.40 น. แพทย์ได้โทรมาแจ้งด่วนว่าต้องทำการผ่าตัดอีกครั้ง เพื่อเอาน้ำในสมองที่กดทับออก



หลังจากการผ่าตัดครั้งที่สองผ่านไป คุณแม่ก็ยังไม่รู้สึกตัวหรือตอบสนองใดใดทั้งสิ้น ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา ไม่สามารถหายใจเองได้ ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ หลังจากแจ้งความไปแล้วยังไม่มีอะไรคืบหน้า โดยตำรวจแจ้งให้ครอบครัวทราบว่า ไม่สามารถเอาคดีความทางด้านอาญากับผู้ก่อเหตุหรือผู้ปกครองได้



ดร.นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกรมสุขภาพจิต การที่ผู้สูงอายุได้รับการกระทบกระเทือบสมอง บางครั้งอาจไม่เห็นแผลภายนอก แต่อาจมีการเคลื่อนตัวของสมอง จะทำให้มีเลือดออกภายในได้ เบื้องต้นจะมีอาการทรงตัวไม่ได้ เคลื่อนไส้อาเจียน



แม่ของผู้ก่อเหตุ โฟนอินชี้แจง กล่าวขอโทษครอบครัวผู้เสียหาย และเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยยืนยันว่าในวันเกิดเหตุ ลูกชายมีอาการปกติ ไม่ได้มีอารมณ์ร้าย แต่ลูกชายเป็นออทิสติก ถือบัตรผู้พิการประเภท 7 เขาไม่สามารถพูดหรือสื่อสารได้ และเขียนหนังสือไม่ได้ ยืนยันว่าลูกชายได้รับการรักษาต่อเนื่องและทานยาครบถ้วน ไม่เคยปรับยาเอง



คุณหมู ลูกชายของผู้เสียหาย ได้โต้แย้งในสายทันทีว่า ในวันที่ 7 พฤศจิกายน ตอนที่ตนไปขอข้อมูลเพื่อแจ้งความ แม่กลับเป็นคนบอกเองว่าลูกชาย "ไม่ได้รับการรักษาแบบต่อเนื่อง" ซึ่งมีลูกชายคนโตก็ยืนยันว่าได้ยินเช่นนั้น แม่ได้ปฏิเสธ โดยบอกว่าตนได้ให้เอกสาร 3 อย่างไปถ่ายรูป คือบัตรประชาชนของแม่ บัตรผู้พิการของลูก และใบสีเหลืองที่เป็นหลักฐานการรับยาทางไปรษณีย์จากโรงพยาบาลศรีธัญญา ซึ่งยืนยันว่ารับยาต่อเนื่อง



เมื่อพิธีกรถามเรื่องการเยียวยา แม่บอกว่าพยายามติดต่อ แต่ครอบครัวผู้เสียหายไม่อยากคุย แม่เล่าว่าเมื่อวานนี้ ตนไปที่โรงพยาบาลเพื่อพูดคุยเรื่องเยียวยา แต่ถูก "ไล่" ออกมาจากห้องเยี่ยม และถูกไล่ซ้ำอีกครั้งตรงหน้าลิฟต์

คุณหมู สวนกลับทันทีว่า ตนไม่ได้ใช้คำว่า "ไล่" แต่ตนใช้คำว่า "เชิญ" และ "ขอความกรุณา" เพราะสภาพจิตใจของครอบครัวยังไม่พร้อมที่จะพูดคุย และไม่สะดวกให้เยี่ยม