หลักฐานใหม่! ชื่อผู้ถือครองที่ดิน 2 พันไร่ วัดพระบาทน้ำพุ ด้าน "มหาหมี" ยันผู้ครอบครองรถจากเงินวัด มีความผิดด้วย

รายการโหนกระแสวันนี้ (12 ส.ค.)  ยังพูดคุยกันต่อในประเด็น “ทูตสื่อวิญญาณ” ลามไปถึง “วัดพระบาทน้ำพุ” โดยในวันนี้ ได้ แพรรี่ ไพรวัลย์, อ.จตุรงค์ จงอาษา และ มหาหมี มาร่วมพูดคุย



จตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการอิสระด้านพระพุทธศาสนา ระบุว่า ทางวัดในฐานะลูกความ แต่กลับปิดบังข้อเท็จจริงบางส่วนกับทนายเกิดผล ที่เป็นทนายของทางวัดเอง ปล่อยให้เขาไปออกรายการ พูดข้อเท็จจริงที่ตัวเองปกปิด หรือบิดเบือนออกสื่อ แต่สุดท้ายทนายเกิดผลมารับรู้ข้อเท็จจริงทีหลัง จากสื่อช่องต่าง ๆ ที่ไปสืบ โดยเฉพาะประโยคที่ว่า “อยากได้ที่ดินคืนก็ไปฟ้องเอา” ทนายเกิดผลยืนยันชัดเจนว่า พวกคุณพูดเองในที่ประชุมว่าเขาพูดประโยคนี้ ทนายเขาก็มาให้สัมภาษณ์อย่างตรงไปตรงมา แต่พอถึงเวลาความจริงปรากฏ คุณปล่อยให้ทนายรับแทน ลูกความก็ต้องมีมารยาท ไม่ใช่มีแค่มารยาททนายความ ลูกความที่ไหนเขาบิดข้อเท็จจริงกับทนายตัวเอง



กุ้ง ทายาทอดีตไวยาวัจกร ระบุว่า ได้คืนวัดไปแล้ว เป็นเงินสด 2.7 ล้าน โฉนดที่ดินประมาณ 340 ไร่ และคืนรถ 11 คัน คืนให้ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 เป็นการโอนลอย มอบอำนาจไป ซึ่งก่อนปู่เสียชีวิตก็มีการคืนที่ดินไปบ้างแล้ว หลังจากปู่เสียหลวงพ่อก็เรียกตนไปพบ ยืนยันไม่เคยไปพูดว่าถ้าอยากได้ไปฟ้องเอา เพราะเราอยากคืนให้อยู่แล้ว ไม่อยากมีปัญหา



หนุ่ม กรรชัย ตั้งข้อสังเกต ถ้าหากเรื่องทั้งหมดถูกพิสูจน์มาแล้ว “หมอบี” เอาเงินบริจาควัด และไปซื้อรถ แต่ใส่ชื่อผู้หญิง มีความผิดหรือไม่ ขณะที่ มหาหมี ระบุว่า ถือว่ามีความผิด เพราะเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิด อยู่ในฐานความผิดฟอกเงิน ทุกอย่างที่ได้มาก็ถูกยึด คนที่มีชื่อครอบครองก็ถูกตรวจสอบทั้งหมด ถ้าเขาอ้างว่าไม่รู้ไม่เห็น บางอย่างแสดงความบริสุทธิ์ใจก็ผิด แต่จะผิดมากหรือน้อยต้องไปดูอีกที แต่ความผิดมันมีอยู่แล้ว