ยุบ-ไม่ยุบ? การเมืองร้อน คลิปเสียง "นายกฯอิ๊งค์-ฮุนเซน" ทำรบ.วุ่น

รายการโหนกระแสวันนี้ (19 มิ.ย. 68) พูดคุยกันถึงประเด็นร้อนทางการเมือง หลัง ‘สมเด็จฯ ฮุน เซน’ ปล่อยคลิปเสียงที่ได้สนทนากับ ‘น.ส.แพทองธาร ชินวัตร’ นายกรัฐมนตรีประเทศไทย กรณีปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา



รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิชาการอิสระ และผู้เชี่ยวชาญด้านการต่างประเทศและความมั่นคง เผยครั้งแรกที่ได้ฟังคลิปเสียง ยอมรับแปลกใจมาก ถ้าทำตามระเบียบปฏิบัติไม่น่าจะบานปลายขนาดนี้ เพราะมีบางเรื่องที่ละเอียดอ่อน ถ้าพูดไปแล้วอาจมีปัญหาแบบนี้ ต้องมีคณะที่ปรึกษา นอกจากจะมีล่ามแล้ว ต้องมีคนจดบันทึกด้วย และต้องเอาเข้าในชั้นประชุม ต้องมีฝ่ายข่าวกรองสามารถถอดบทสนทนาออกมาได้เลย ซึ่งฝั่งมหาอำนาจเขาก็ใช้วิธีนี้ สหรัฐอเมริกาชอบฟังผู้นำในยุโรปคุยกัน เพื่อนำไปใช้ประโยชน์



รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย เผยฟังคลิปเสียงไม่แปลกใจอะไรเลย เพราะคือการเมือง แต่สงสัยมากกว่าวัตถุประสงค์ของคนปล่อยคลิปเพื่ออะไร เพื่อสถานการณ์ระหว่างประเทศ หรือภายในประเทศ บ่อยครั้งในทางการเมืองเราจะเห็นทั้งเอกสารลับหรือคลิปเสียงหลุด



วีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักวิชาการกฎหมายอิสระ เผยตอนแรกที่ได้ฟังคลิปนึกว่าเสียง AI ต้องตั้งคำถามว่าคนปล่อยมีวัตถุประสงค์อะไร คำถามที่สำคัญที่สุด นายกฯ แพทองธาร ของประเทศไทย โทรไปคุยแบบนี้มีวัตถุประสงค์อะไร พอตั้งใจฟังประโยคมันชัดเจนมากคือต้องการให้เกิดสันติภาพ เลี่ยงการปะทะ ผมก็คิดว่าทำไมนายกฯ ต้องออกแรงมาพูดเอง ทำไมไม่ส่งเจ้าหน้าที่ไปพูด พอไปย้อนฟังคลิปแม่ทัพภาคที่ 2 เข้าใจว่ามีความตึงเครียด ซึ่งนายกฯ พยายามป้องกันไม่ให้สถานการณ์บานปลาย ประชาชนสามารถวิจารณ์ได้ในวิธีการ แต่อย่ามีคำถามเรื่องเจตนาที่บริสุทธิ์ที่ต้องการป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสีย  ซึ่งล่าสุดนายกฯ ออกมาขอโทษแล้วว่าใช้คำพูดไม่เหมาะสมไป



รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย เรื่องนี้เป็นเหรียญสองด้าน และดาบสองคม ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลชินวัตร และตระกูลฮุนเซน เป็นสิ่งที่สังคมจับตามอง อาจถูกหยิบจับมาโจมตีได้ การพูดคุยไม่เป็นทางการก็ต้องระวัง โอกาสที่ถูกหยิบจับประเด็นเหล่านี้ไปต่อยอดโจมตีเป็นไปได้ สำหรับการเมืองประเทศกัมพูชา คำถามคือทำไมต้องปล่อยคลิปเสียงเมื่อวาน เพราะเมื่อวานมีการชุมนุมใหญ่ เพราะหวังผลในการสร้างคะแนนนิยมในประเทศ สำหรับในประเทศไทย เพื่อสร้างการแตกแยก และความอ่อนแอของรัฐบาล และจะส่งผลให้กัมพูชาได้เปรียบสถานการณ์ชายแดนทันที ตรงนี้คือเป้าหมายหลักของคนที่ปล่อยคลิปเสียง



รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร การที่นายกฯ แถลงล่าสุด ถือเป็นการกลับลำด้วยเหตุผลความจำเป็น ถ้าไม่กลับลำจะอยู่ที่เดิมหรือ กลับลำมาตั้งหลักใหม่ ซึ่งจริง ๆ นายกฯ ทำก่อนหน้านี้แล้ว เริ่มส่งสัญญาณชัดเจนกับกัมพูชาว่าเอาจริงนะ สัปดาห์ที่แล้วอาจรู้สึกนุ่มนวลชักช้า ซึ่งฮุนเซนน่าจะกลัวพอสมควรจึงต้องปล่อยคลิป แต่การกลับลำตรงนี้น้ำหนักอาจไม่พอ เพราะสถานการณ์วิกฤตแล้ว ฝ่ายความมั่นคงต้องช่วยด้วย ซึ่งจุดประสงค์นายกฯ คือไม่อยากรบ แต่เขาไม่อยากปล่อยของอยู่ตลอด ส่วนเรื่องหันปากกระบอกปืน มีคนบอกเป็นเรื่องปกติ แต่มันน่ากลัวไหมที่หันกระบอกปืนมาบ้านเรา ถ้าหันมาจะยิงแล้วนะครับ



วีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักวิชาการกฎหมายอิสระ ระบุว่า คำพูดนายกฯ หลายคำ ผมฟังแล้วก็สะดุ้ง ทำไมมีการไปแยกฝ่ายเขาฝ่ายเรา มันเป็นวิธีการใช้โวหารที่นายกฯ อยากหว่านล้อมฮุนเซน ไม่ใช่ว่ารัฐบาลกับกองทัพอยู่คนละฝ่าย จุดประสงค์นายกฯ คืออย่ารบกัน โปรดอย่าไปถือสาคำพูดแม่ทัพภาคที่ 2 เพราะฝ่ายกองทัพมีความคิดแบบนักรบ ฝ่ายอุ๊งอิ๊งมาจากเลือกตั้ง หน้าที่คือต้องปกป้องประชาชนคนไทย สมมตเรามีนายกฯ ที่ไม่ได้ชื่ออุ๊งอิ๊ง มีนายกฯ ประเภทที่ใครถามอะไรก็ด่า พร้อมจะรบเสมอ แต่ปรากฎนายกฯ ปลอดภัยนั่งอยู่ทำเนียบ คนที่ตายคือทหารหนุ่ม ๆ และประชาชนที่อยู่ชายแดน ซึ่งตอนนี้นายกฯ รู้แล้วฝั่งนั้นไม่จริงใจ เรียกทูตกัมพูชามาตำหนิอย่างเป็นทางการแล้ว



รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย คำว่าฝั่งตรงข้าม ไม่ว่านายกฯ จะชี้แจงอะไรก็แล้วแต่ ผู้ฟังมองว่านายกฯ มองกองทัพและทหารเป็นฝั่งตรงข้าม นายกฯ ต้องออกมาชี้แจงให้ชัด ยอมรับว่าเป็นความผิดพลาด เพราะตัวเองก็อยู่ตอนเปลี่ยนขั้วทางการเมือง



รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร เผยมันไม่ควรมีขั้ว มันเป็นผลประโยชน์ของชาติ ไม่มีเขามีเรา ไม่มีฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาล พอได้เป็นนายกรัฐมนตรี ไม่มีสิทธิจะแบ่งขั้นแบ่งข้างอีกแล้ว ถ้าฟังคลิปชัดเจนว่าท่านนายกฯ มีความรู้สึกเยอะ แต่คุณเป็นผู้นำในประเทศต้องเอาตรงนี้ออกไป กรณีนี้มันส่งผลเป็นลูกโซ่ ทั้งพรรครัฐบาลและเจ้าหน้าที่



วีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักวิชาการกฎหมายอิสระ ระบุว่า ที่นายกฯ พูดว่าอยากได้อะไรบอกมา เจตนานายกฯ คือต้องการเจรจา

ฮุนเซนต้องการเปิดด่าน ถามว่านายกฯ ไปตกลงตรงนี้ไหม ก็ไม่ได้ตกลง คนที่คิดว่านายกฯ จะยกดินแดนให้หมด คิดว่ากองทัพไทยยอมไหม คนไทยจะยอมได้อย่างไร