ทำกันได้ลง! ผัวเมียถูกญาติเอาชื่อไปทำประกัน แถมจัดฉากฆ่าหวังฮุบเงิน 120 ล้าน

โหนกระแสวันนี้ (8 พ.ค. 68) เป็นเรื่องจริงที่ยิ่งกว่าละคร สองผัวเมียร้องถูกญาติแจ้งความ กลั่นแกล้งจนติดคุก แถมยังเอาชื่อไปทำประกัน จัดฉากฆ่าหวังฮุบเงิน 120 ล้าน โดยสองสามีภรรยา เล่าว่า ถูกลูกพี่ลูกน้องสวมชื่อทำประกันชีวิต รวม 120 ล้านบาท และวางแผนจัดฉากฆาตกรรมเพื่อหวังเงินประกัน ด้านคู่กรณีโต้กลับ ทั้งคู่คือมิจฉาชีพ เป็นคนสั่งให้ตนทำประกันชีวิตให้เอง ส่วนเรื่องใส่ชื่อตัวเองรับผลประโยชน์ โยนไปถามตัวแทนประกันเอง

อุ๊ นามสมมติ ผู้เสียหาย เล่าว่า ช่วงที่ตั้งครรภ์มีลูกพี่ลูกน้องติดต่อเข้ามาหา ซึ่งช่วงนั้นเราโกรธกันอยู่ เรื่องการทำธุรกิจ แต่เขามาพูดคุยเหมือนไม่มีเรื่องโกธเคืองกัน ช่วงที่ตนคลอดลูกเขาก็โอนเงินมาให้ จึงปักใจเชื่อเขา เธอเล่าต่ออีกว่า วัชรีชวนสามีตนไปทำงาน เพราะจะได้มีรายได้ แต่พอสามีไปถึงตามนัดหมาย พบคนชื่อบอยแทน ซึ่งเป็นตัวแทนของวัชรี สามีจึงขับจยย.พาตระเวนดูบ้านเช่ายันมืด  



โต้ง นามสมมติ ผู้เสียหาย เล่าว่า หลังจากนั้นเขาก็พาไปนั่งที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เขาสั่งเบียร์มากิน ระหว่างนั้นก็มีการถ่ายรูปผมไว้ด้วย ข้อพิรุธคือเขาสั่งปุ๊บจ่ายเงินปั๊บเลย แล้วตนสังเกตคนชื่อบอย ตัดผมเกรียน ผมเลยสงสัยว่าคนนี้เป็นตำรวจ พอสักพักเขาบอกมันมืดแล้วนะ เดี๋ยวขับรถยนต์ไปส่ง เนื่องจากผมขี่จยย.มา ระหว่างทางเห็นรถกระบะเริ่มเร่งเครื่องมาชนท้ายจนสลบไปไม่รู้สึกตัว ซึ่งจากร้านอาหารมาจุดเกิดเหตุห่างกันประมาณ 8 กิโลเมตร แต่ตนรอดมาได้แบบหวุดหวิด



อุ๊ นามสมมติ ผู้เสียหาย เล่าต่ออีกว่า หลังจากที่สามีเกิดอุบัติแล้วจึงสนใจทำประกันชีวิต จึงให้ตัวแทนเช็กปรากฎว่าตัวแทนแจ้งว่า ชื่อของตัวเองและชื่อสามี มีกรมธรรม์รวมกันทั้งหมด ประมาณ 120 ล้านบาท



อุ๊ นามสมมติ ผู้เสียหาย เล่าต่อ หลังจากนั้นตนมีการนัดกับวัชรี มีการไปทำบุญที่วัดแห่งหนึ่ง จ.ชัยภูมิ แล้วเขาฝากกระเป๋าไว้ที่ตน ซึ่งตนเห็นกระดาษใบหนึ่งโผล่ออกมา ตนจึงดึงขึ้นมาอ่าน พบเป็นใบเสร็จโรงพยาบาล และเป็นชื่อของสามีตน ซึ่งเป็นไปไม่ได้แน่นอน เพราะวันที่ไปหาหมอ สามีตนยังอยู่ภายในเรือนจำ ตนก็เริ่มสงสัยว่ามีอะไรแน่ ๆ เลยให้สามีโทรเช็กบริษัทประกันอีกครั้ง ทำให้รู้ว่าวงเงินประกันของสามีมากกว่าของตนอีก



อุ๊ นามสมมติ ผู้เสียหาย หลังจากนั้นวัชรีก็มาปรึกษาตน เรื่องทะเลาะกับสามี ส่งคลิปวิดีโอและแคปแชตตอนทะเลาะมาให้ตนดู และมีข้อความที่สามีเขาส่งมา ระบุข้อความว่า “มันอาจเป็นเวรกรรมที่สั่งฆ่าไอ้โต้งก็ได้” ซึ่งก็ทำให้รู้ว่าวัชรีเป็นตัวต้นเรื่องทั้งหมด ซึ่งก่อนหน้านั้นตนเคยเอาพวงมาลัยไปกราบเท้าเขา หวังจะขอโอกาสทำธุรกิจด้วยกัน โดยที่ไม่รู้เลยว่าเขาคือคนสั่งฆ่าสามีตน



อุ๊ นามสมมติ ผู้เสียหาย เล่าต่อว่า หลังจากนั้นตนจึงไปตรวจสอบว่าใครเป็นผู้รับผลประโยชน์ จึงเห็นที่อยู่ในการจัดส่งกรมธรรม์ และอีเมล์ เป็นที่อยู่ของบริษัทวัชรี และระบุว่าวัชรีเป็นผู้รับผลประโยชน์ จากการเสียชีวิตของสามีตน ซึ่งพีกไปกว่านั้นคือ ระบุความสัมพันธ์ว่าเป็นภรรยา และมีชื่ออีกคนที่เป็นหุ้นส่วนในบริษัมเขา ระบุเป็นภรรยาอีกคนของสามีตน



อุ๊ นามสมมติ ผู้เสียหาย เล่าต่อว่า พิมพ์พรรณเป็นเครือญาติของตน และเป็นหัวหน้าบริษัทประกัน เป็นถึงระดับผู้จัดการด้วย ซึ่งมีสามี พี่สาว ของพิมพ์พรรณ เป็นตัวแทนประกันชีวิตที่ทำให้ตนและสามีอีกด้วย



วัชรี โฟนอินเข้ารายการ ระบุว่า ทั้งสองคนเป็นคนให้ทำประกันชีวิตให้ เพราะโต้งจะลงนายกฯ อบต. ห่วงความไม่ปลอดภัย บอกทั้งสองเป็นมิจฉาชีพ ซึ่งทั้งคู่ปฏิเสธ ยันไม่ได้สั่งให้ทำประกันชีวิตให้ ส่วนเรื่องใส่ชื่อตัวเองเป็นผู้รับผลประโยชน์นั้น อ้างว่าตัวแทนประกันเป็นคนแนะนำ แต่ไม่บอกว่าใช่ฝีมือพิมพ์พรรณหรือไม่