คลิปเต็มรายการ
จุดจบการไว้ใจ! "เมย์ วาสนา" ร่ำไห้ถูกหักหลัง "ดิว อริสรา" ยันไม่เจตนาหลอก รับผิดใช้เงินเกินตัว พร้อมคืน 62 ล้าน
โดย paweena_c
19 มี.ค. 2568
502 views
โหนกระแสวันนี้ (19 มี.ค. 68) พูดคุยกับ คุณเมย์ วาสนา อินทะแสง นักธุรกิจพันล้าน ที่ถูกดาราสาวชื่อดัง ยืมทรัพย์สินแบรนด์เนมมูลค่ากว่า 62 ล้าน พร้อมด้วยทีมทนายที่ปรึกษา
จุดจบคือการไว้ใจ! “เมย์ วาสนา” ร่ำไห้ ถามทำแบบนี้กับคนที่ช่วยได้ยังไง ลั่นเรื่องนี้คือฟางเส้นสุดท้าย ด้าน “ดิว อริสรา” ยันไม่มีเจตนาหลอกลวง ยอมรับใช้เงินเกินตัว พร้อมเจรจาคืนเงิน 62 ล้าน
เมย์ วาสนา นักธุรกิจ เผยรู้จักดิว จากน้องที่เป็นลูกค้ากัน และดิวอยากผลิตสินค้า เลยได้รู้จักกัน 2 ปีที่ผ่านมา รู้จักดิวในฐานะลูกค้า เพื่อมีวัตถุประสงค์สั่งผลิตสินค้าที่โรงงาน ตอนแรกดิวมาติดต่อคนเดียว ตอนหลังเพิ่งรู้ว่าดิวมีพาร์ทเนอร์ เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ตอนแรกทราบแค่ว่าดิวติดต่อทำคนเดียว ไม่ได้ลงทุนด้วยกัน แต่ดิวเป็นลูกค้า จ้างผลิตสินค้าให้ ดิวมัดจำผลิตสินค้า 22 ล้าน โอนมา 2 ครั้ง 10 ล้านกับ 11 ล้านกว่า ๆ แต่คนที่โอนมาคือบริษัทดิว ที่ทำร่วมกับเพื่อน ภายหลังเมย์เพิ่งมาทราบว่า คนที่โอนเงินมาจริง ๆ คือพาร์ทเนอร์ของดิวเขาลงทุนเอง 100% และดิวไม่ได้ร่วมลงทุน
เมย์ วาสนา นักธุรกิจพันล้าน เปิดเผยว่า ปัญหานี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2567 เมื่อดิว อริสรา ติดต่อมาทางไลน์ ขอความช่วยเหลือเรื่องเงิน โดยอ้างว่ากำลังเดือดร้อนเพราะเป็นหนี้ซุง 20 ล้านบาท หากคืนเงิน อาจถูกแฉ เนื่องจากมีสัญญาการกู้ยืมอยู่ จากนั้น ดิวขอให้เมย์ช่วยนำเงินมัดจำ 22 ล้านบาท ที่เคยจ่ายให้โรงงานผลิตสินค้าออกมาใช้ก่อน ซึ่งเมย์ยืนยันว่าทำไม่ได้
เมย์ วาสนา เล่าต่อว่า หลังจากปฏิเสธเรื่องเงิน ดิว อริสรา ยังถามอีกว่า มีทรัพย์สินอื่นให้ยืมหรือไม่ และบอกว่า ให้สามีรู้เรื่องไม่ได้ เพราะอาจส่งผลกระทบต่อครอบครัว
ด้วยความสงสาร ดิวเองก็กำลังท้องลูกคนที่ 2 กลัวว่าถ้าเครียดมากจะแท้ง อีกทั้งเห็นว่าเป็นดาราที่รู้จักกันมานานกว่า 2 ปี มีทรัพย์สินมากมาย มีเพนท์เฮาส์มูลค่ากว่าร้อยล้าน พอบอกว่าช็อตเงินแค่ 20 วัน ก็มองว่าเดี๋ยวสามีก็คงคืน ด้วยคิดว่ารู้จักมานาน เลยไม่นึกว่าจะไม่ได้คืน ซึ่งเขาบอกว่าจะเอาของไปให้พี่คนหนึ่งที่นับถือมาก ๆ ของพี่เมย์ ของจะถูกเก็บไว้อย่างดี เพื่อให้ซุงไว้ใจ เพราะมีของค้ำประกันอยู่
เมย์ วาสนา นักธุรกิจ ระบุว่า หลังจากนั้นให้ของน้องไป 3 ครั้ง ใน 2 วัน ชิ้นแรกเป็นกระเป๋า 2 ใบ และสร้อยบูการี่ ต่อมาเป็นสร้าย Lotus ราคา 26 กว่าล้าน เพราะมีชิ้นเดียวในโลก สุดท้ายเป็นนาฬิกา Richard Mille ราคา 13 กว่าล้าน ซึ่งเมย์ย้ำไปแล้ว ห้ามนำไปจำนำหรือขายเด็ดขาด
เธอระบุต่อว่า หลังที่ให้ยืมของเป็นระยะเวลา 15 วัน ก็ยังไม่คืน เธอเริ่มตามของมาเรื่อย ๆ ตั้งแต่เดือนกันยายน จนมาเอะใจจากข่าวที่น้องเลขาของเขามีการโกงเงิน ตอนนั้นเตรียมจะแจ้งความแล้ว สุดท้ายเขาสารภาพว่าเอาของไปจำนำตามร้านต่าง ๆ ตั้งแต่เดือนมกราคม เพื่อให้ตนเอาเงินไปจ่ายของออกมาก่อน แล้วเขาค่อยมาเคลียร์เงินให้เมย์
ต่อมา 28 ก.พ. น้องบอกว่านาฬิกากับกระเป๋าจะออกมาก่อน พี่เมย์จะได้ของแน่ ๆ ทุกครั้งที่คุยเหมือนเป็นการประวิงเวลา ยืดเวลาไปเรื่อย ๆ สุดท้ายก็ไม่ได้ของ เขาพยายามเจรจาว่า ให้เมย์ไปรับของคืนมา แล้วขอติดหนี้เมย์แทนได้ไหม วันนั้นเลยเรียกทนายมาคุย หลังจากเป็นข่าวก็หาทางร่วมกัน เพื่อให้ได้ของคืน
เมย์ วาสนา นักธุรกิจ ระบุต่อว่า ตนได้เห็นแชตว่า ดาราสาวพยายามเอาสร้อยไปวางกับคนอื่น แล้วพยายามบอกว่าเจ้าของสร้อยกำลังเดือดร้อน มีปัญหาทางธุรกิจ ล่าสุดรู้ว่าสร้อยมรกต Lotus Art De Vivre ปัจจุบัน ไปอยู่กับนักการเมืองระดับรัฐมนตรีแล้ว "เรารักและไว้ใจดิว แต่ทำแบบนี้ได้ยังไง เราช่วยคุณนะ" เมย์ วาสนา กล่าว
ดิว อริสรา โฟนอินเข้ารายการ กล่าวขอโทษพี่เมย์ที่ต้องมานั่งออกรายการ ทั้งหมดที่พี่เมย์พูดไม่ขอตอบโต้อะไร ยอมรับเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นจากดิวเอง ยอมรับผิดทุกอย่าง ยันไม่มีเจตนาหลอกลวง แต่ทางหุ้นส่วนเป็นคนออกความคิดเห็นให้ดิวไปคุยแบบนั้น
เมย์ วาสนา นักธุรกิจ ระบุต่อว่า ถ้าจะคุยกับดิวแค่เรื่อง 2 เรื่อง พี่มั่นใจว่าดิวไม่กล้าเสียพี่ไป แกทำได้ไงวะ ไม่เห็นค่าหัวใจพี่เลย แกดิสเครดิตพี่ แกไปบอกคนอื่นว่าพี่ไม่มีเงิน พี่ออกมาอยู่คนเดียว ไม่มีเงินจ่ายซัพพลายเออร์ อันนี้คือฟางเส้นสุดท้าย
ดิว อริสรา ยอมรับ เอาเงินไปทำธุรกิจ แต่ธุรกิจทั้งหมด ไม่มีประสบความสำเร็จเลย หนูก็เป็นตัวอย่างไม่ดีกับสังคม ใช้เงินเกินตัว ไม่ประมาณตัวเอง จนเกิดปัญหาแบบนี้ มันก็ถึงจุดที่ต้องยอมรับแล้ว ตนเองไม่ได้ปรึกษาสามี เขาไม่ได้มานั่งรับรู้เรื่องนี้ด้วย
"หนูรู้สึกว่าหนูก็มีแค่ตัวหนู หนูก่อปัญหานี้ขึ้น พอเขารับรู้ เขาก็มีครอบครัวเขาที่เป็นระบบครอบครัวเขา หนูก็ต้องดิ้นรนต่อไปเอง หนูคาดหวังจากสามีอย่างเดียว คือขอให้รักและดูแลลูกอย่างดี" ดิว อริสรา กล่าว
ดิว อริสรา ระบุว่า หนูพยายามแก้ไขอยู่ ตอนแรกดิวคุยกับพี่เมย์ ที่ให้ยอมรับสภาพหนี้ หนูสาบานว่าหนูไม่มีเจตจำนงจะโกงจริง ๆ ถ้าวันนี้พี่ดำเนินคดีฉ้อโกง ดิวจะต้องยอมรับสภาพหนี้กับทางร้าน ดิวโอเค สุดท้ายตัดสินมายังไง พี่ก็ทำเต็มที่ หนูก็ต้องทำเต็มที่