คลิปเต็มรายการ

พ่อร้องขอความเป็นธรรม เล่าทั้งน้ำตานาทีสูญเสีย 3 ลูกเมีย ดูคลิปครั้งแรก อึ้งสาว BMW ขับเร็วมาก

โดย chutikan_o

2 ธ.ค. 2567

301 views

รายการโหนกระแสวันนี้ (2 ธ.ค. 2567) พูดคุยกรณีรถ BMW ที่ขับมาด้วยความเร็ว 207 กม./ชม. พุ่งชนรถจักรยานยนต์ ทำให้ 3 ชีวิต ซึ่งมีแม่และลูกอีก 2 คน เสียชีวิต หลังเกิดเหตุคนขับ BMW ตามหาแมว ก่อนจะหนีหายไป แล้วย้อนกลับมามอบตัว 7 ชั่วโมงให้หลัง จนเกิดเป็นประเด็นร้อนแรงในสังคม

พ่อติ๊ก สามีและพ่อของผู้เสียชีวิต มาเล่าเหตุการณ์ตั้งแต่ในวันเกิดเหตุ กล่าวว่า คุณแม่ขี่จักรยานยนต์ออกไปรับลูกๆ กลับจากเรียนพิเศษตามปกติเหมือนทุกวัน โดยปกติ ลูก 2 คน จะสลับกันเรียนพิเศษ ไม่ได้เรียนพร้อมกัน มีแค่วันพุธวันเดียว ที่ลูกทั้งสองคนจะเรียนเลิกพร้อมกัน แล้วเรื่องก็มาเกิดวันพุธ ทำให้สุดท้ายเหตุการณ์มาเกิดกับทั้ง 3 ชีวิตพร้อมกันหมดเลย

พ่อติ๊กเล่าเหตุการณ์ตอนที่ไปถึงที่เกิดเหตุด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เห็นคนในครอบครัวจากไปทีละคน จนสุดท้ายพ่อติ๊กกลั้นน้ำตาไม่อยู่ แต่ก็เล่าเหตุการณ์จนจบ

ต่อมาในรายการได้เปิดเผยคลิปที่คนขับ BMW เป็นคนถ่ายไว้ เห็นเรือนไมล์วิ่งไปถึง 207 กม./ชม. ก่อนจะพุ่งเข้าชนท้ายรถจักรยานยนต์ของแม่ลูกจนกระเด็น ซึ่งพ่อและญาติๆ ได้ดูคลิปเหตุการณ์เป็นครั้งแรกในรายการ เพราะก่อนหน้านี้ยุ่งกับการจัดงานศพ พอได้เห็นคลิปพ่อติ๊กพูดได้เพียงว่ามาเร็วมาก

คุณอ๋อย ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า ตอนที่เกิดเหตุได้ยินเสียงตูม เหมือนเสียงรถชน ออกจากบ้านมาดู เห็นรถ BMW เสียหลักชนอยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านเรา จึงวิ่งข้ามถนนไปดู ตอนแรกไม่รู้ว่าเขาชนมอเตอร์ไซค์ ยังคิดว่าเขามาเร็วแล้วหลุดเองหรืออะไรแบบนั้น กระจกรถเขาแตกหมด ชะโงกเข้าไปดูในรถ เห็นน้องผู้หญิงที่เป็นคนขับ เขามุดลงไปหาอะไรบางอย่างใต้พวงมาลัย แล้วได้ยินเสียงดังมาจากในรถ ไม่รู้ว่าเป็นเสียงในสาย หรือเสียงจากระบบอะไรสักอย่าง พูดว่า “คุณประสบอุบัติเหตุใช่ไหม ต้องการความช่วยเหลืออะไรไหม” ซึ่งทางคนขับก็บอกว่า “ไม่ต้องการ”

เราบอกเขาว่า ให้รีบออกมาจากรถ เพราะหน้ารถมีน้ำมันนองแล้ว เรากลัวว่าไฟจะลุกไหม้ แต่เขาก็บอกว่า ให้ช่วยหาแมวหน่อย ให้ตะโกนหาแมว อาการเขาตอนนั้น หงุดหงิด เกรี้ยวกราด ฉุนเฉียว พยายามโทรหาแฟนของเขา แล้วบอกว่าแฟนไม่รับโทรศัพท์ มีการสบถด่า ว่าแฟนไม่ยอมรับโทรศัพท์

แล้วยังหันมาพูดจากระโชกโฮกฮาก ขอให้เราช่วยตะโกนเรียกแมวที่ตกใจหายไป พอเราหาให้จนเจอ เขาอุ้มแมว แล้วไม่กี่นาทีหลังจากนั้นเขาก็หายไป เขาไม่ได้พูดเลยว่า เขาชนมอเตอร์ไซค์ ทั้งที่ใช้เวลาตามหาแมวอยู่ร่วมๆ 15 นาที ตอนนั้นไม่ได้กลิ่นเหล้า แต่ไม่รู้ว่าเขาเมาอะไรหรือไม่

หลังจากนั้นถึงมาเห็นว่า มีร่างของสองแม่ลูกเสียชีวิต ส่วนน้องเด็กผู้ชายคนเล็ก ที่ยังไม่เสียชีวิต มีพยาบาลเขามาที่เกิดเหตุ แล้วพยายามทำ CPR แต่สุดท้ายน้องก็เสียชีวิต

ขณะที่กู้ภัยในที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ตอนที่เข้าไปช่วยเหลือ พยายามยื้อชีวิตน้องผู้ชาย  มีผู้หญิงปริศนาคนหนึ่งอายุประมาณ 40-50 ปี ความสูงไม่เกิน 160 ซม. ไว้ผมสั้นประบ่า สวมใส่ชุดสีดำ เดินเข้ามาในวงล้อมที่มีผู้เสียชีวิต ขณะนั้นไม่รู้ว่าเป็นญาติฝั่งไหน พร้อมกับร้องไห้ฟูมฟายเหมือนจะขาดใจ โดยหญิงคนดังกล่าวถามว่า “คนขับเสียชีวิตใช่ไหม” เธอตอบไปว่าใช่ หญิงคนดังกล่าวยิ่งร้องไห้หนักขึ้นไปอีก เห็นว่าเดี๋ยวร้องไห้ขาดสติจนเป็นลมจึงไปเอาแอมโมเนียมาให้ดมหลังจากหญิงคนดังกล่าวตั้งสติได้ ถามย้ำอีกครั้งว่าคนขับเสียชีวิตใช่ไหม บอกว่าใช่

สิ่งที่แปลกใจมากคือถามว่า “แล้วแมวอยู่ไหน” พูดเท่านั้นกู้ภัยก็วงแตก รู้เลยว่าหญิงคนดังกล่าวไม่ได้เป็นญาติผู้เสียชีวิต แต่เป็นญาติของผู้กระทำความผิด หลังจากนั้นทีมกู้ภัยอธิบายเหตุการณ์ให้ฟัง พร้อมกับบอกว่าคนขับรถเก๋งไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ ขณะนี้หนีไปแล้วพร้อมแมว 1 ตัว จากนั้นหญิงคนดังกล่าวอาจจะเกรงกลัวรีบลุกขึ้นแล้วเดินหนีหายออกไป

พ่อติ๊ก เล่าอีกว่า เจ้าของรถ BMW เป็นพ่อของแฟนคนขับ เนื่องจากคนขับคนนี้เขายืมรถพ่อแฟนมาขับกลับบ้าน เจ้าของรถเขามาที่งานศพ มาแสดงความเสียใจ มาแสดงตัว มาอธิบายว่า คนขับเขาไม่มีใบขับขี่ แล้วก็เมาด้วย ประกันไม่จ่าย ซึ่งถ้าเราเรียกร้องไป เขาก็พูดว่า ไม่รู้ว่าเราจะเรียกร้องเอาอะไรจากใคร มันก็คงได้แค่บางส่วน

ขณะที่ นายอดิศร พิพัฒน์วรพงศ์ รองเลขาธิการ ด้านกฎหมาย คดีและคุ้มครองสิทธิประโยชน์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เผยว่า แม้ผู้ขับขี่จะไม่ใช่เจ้าของรถ แต่ถ้าได้รับความยินยอมจากเจ้าของรถ ก็ถือว่าเป็นผู้การประกันภัย มีทั้งส่วนของภาคบังคับ และภาคสมัครใจ (ประกันชั้น 1)

ในส่วนของประกันภัยภาคบังคับ ถ้าพิสูจน์กันออกมาแล้ว ว่าทาง 3 แม่ลูกเป็นฝ่ายถูก ก็จะได้รับเงินชดเชยเยียวยา รายละ 5 แสนบาท ส่วนประกันชั้น 1 ซึ่งไม่ส่งเสริมให้คนกระทำผิด ถ้าไม่มีใบขับขี่ หรือเมาแล้วขับ ประกันจะไม่ชดใช้เรื่องการซ่อมตัวรถ แต่จะจ่ายให้บุคคลภายนอก (ผู้ที่ถูกชน)

เท่าที่เช็ก ประกันภัยของรถ BMW คันนี้ คุ้มครองคนที่เสียชีวิต รายละ 1 ล้านบาท ถ้าผู้ก่อเหตุรับสารภาพ ประกันจ่ายได้ทันที ส่วนน้องๆ ทั้ง 2 คน มีประกันที่ทำไว้กับโรงเรียนอีก รายละ 6 หมื่นบาท  เงินทั้งหมดนี้ มันเป็นแค่เงินเยียวยาตามกฎหมาย ที่ในส่วนของประกันภัยจะจ่ายให้ แต่ส่วนที่เหลือ มันเป็นหน้าที่ของผู้ละเมิด จะต้องรับผิดชอบ

ขณะที่ คุณสุวิทย์ ลุงของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตอนที่ไปไกล่เกลี่ยกับผู้ก่อเหตุ ทางทนายความของฝ่ายนั้นเขาพูดมาว่า ให้เรารวบรวมเงินที่ได้จากภาครัฐก่อน ได้เท่าไหร่ แล้วเขาจะเติมเต็มให้ ความหมายของเขาคือ เราได้เงินมาจากประกันเท่าไหร่ เขาจะเติมให้เท่าที่เราอยากได้ แสนหนึ่ง สองแสน อะไรก็ว่าไป แต่มองว่ามันไม่ใช่เลย พ.ร.บ.คนตายเขาเป็นคนซื้อ มันต้องคุ้มครองตัวเขา มันเกี่ยวอะไรกับเขา เขาทำผิดเขาก็ต้องรับผิดชอบเรา แต่มาพูดแบบนี้มันผิดตรรกะไปหมด

แล้วเขายังไม่ยอมรับผิดว่าเขาชน เขายอมรับแค่เรื่องขับเร็ว 207 กม./ชม. แต่เขาไปอ้างว่าจักรยานยนต์เป็นฝ่ายเบี่ยงเข้ามาหาเขา ทำให้เขาเบรกไม่ทันด้วยความเร็วเท่านั้น ทั้งที่ความเป็นจริงมันไม่ใช่เลย ทำให้ทางครอบครัวกลัวว่าจะมีการบิดได้ในอนาคต

คุณพ่อยังบอกอีกว่า มาทราบภายหลังว่า หลังเกิดเหตุ พี่สาวของแฟนคนขับมารับเขากลับไปที่งานศพ ที่อยู่ห่างออกไป 30-40 กม. เพื่อไปเอากุญแจเข้าบ้าน แล้วก็ย้อนกลับมาต้องผ่านจุดเกิดเหตุอีกครั้ง ทำไมเขาใจดำได้ขนาดนั้น ไม่แม้แต่จะแวะลงมาดูศพด้วยซ้ำ

แล้วแม่ของคนขับ ที่อ้างว่าอยู่ที่นครศรีธรรมราช ตามมาทีหลังตอนที่ลูกโทรหาหลังเกิดเหตุแล้ว แต่มาทราบจากกู้ภัยที่เขาไปในที่เกิดเหตุ ว่ามีผู้หญิงผมบ๊อบประบ่าคนหนึ่งมาดูที่เกิดเหตุ หลังเกิดการชนได้ไม่นาน พอรู้ว่าคนเสียชีวิตทั้งหมด เขาก็ร้องไห้โฮ จนกู้ภัยเข้าใจผิด คิดว่าเป็นญาติผู้เสียชีวิต แต่มาเห็นภาพในข่าวทีหลัง กู้ภัยถึงรู้ว่าเป็นแม่เขา แล้วมาทราบทีหลังว่า จริงๆ ตอนเกิดเหตุ แม่เขาน่ะขับรถตามหลังลูกมา ไม่ได้อยู่นครตามที่อ้าง

ขณะที่ พ.ต.อ.ปัญญา ท้วมศรี ผกก.สภ.เมืองชุมพร เปิดเผยว่า ได้แจ้งข้อหาคนขับเรียบร้อย พยานไปชี้ยืนยันตัวเรียบร้อย มั่นใจว่าไม่ผิดตัวแน่นอน และยืนยันว่า คนขับใช้มือถือถ่ายภาพนิ่ง โชว์ความเร็วตอนที่ขับ ไม่กี่อึดใจก่อนจะพุ่งชน ซึ่งทางผู้ขับขี่ให้การรับสารภาพทั้งหมด ยกเว้นข้อหาหลบหนี เขาอ้างว่าหวาดกลัว เพราะไม่ใช่คนพื้นที่ กลัวญาติผู้เสียชีวิตจะมาทำอันตราย

ตอนนี้รอผลการตรวจเลือด ว่ามีแอลกอฮอล์ที่แน่ชัดเท่าไหร่ และมีสารเสพติดอื่นๆ อีกหรือไม่ และยังพบว่ามีขวดเหล้าแบน อยู่ที่คอนโซลกลางในรถ ตอนนี้ทางตำรวจได้ขอศาลอนุมัติหมายขัง และคัดค้านการประกันตัว

ขณะที่ทางทนายตุ๋ย พรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ชี้ว่า ดูจากหลักฐานต่างๆ เท่าที่ประเมินในมุมมองนักกฎหมาย เชื่อว่าคนขับเข้าสู้ยาก เพราะทุกอย่างมันมัดตัวเขาหมด เขาขับรถคร่อมเลนมา จะมาอ้างว่ารถจักรยานยนต์เบี่ยงเข้ามาในเลนของเขา มันก็ไม่ใช่แล้ว

การขับรถเร็วถึง 207 กม./ชม. มันก็ประมาทชัดเจนแล้ว แล้วยังมีความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก ทั้งเรื่องไม่มีใบขับขี่ เรื่องเมาแล้วขับ อะไรต่างๆ อีกมากมายที่จะต้องโดนอีกเยอะ เท่าที่ดูเขาสู้ทางคดีไม่ได้ แต่คิดว่าคงหาทางสู้เพื่อไม่ให้ตัวเองติดคุก ตรงนี้ก็แล้วแต่ดุลพินิจของศาลว่า จะรอลงอาญาไหม


แท็กที่เกี่ยวข้อง  สาวบีเอ็ม ,สาวBM

คุณอาจสนใจ