คลิปเต็มรายการ
‘บอย-มิน’ น้ำตาคลอ ยกเลิกสัญญา ‘ดิไอคอน’ ญาติผู้ตายเผย พี่ทุ่มเงินแสนลงทุนเครียดจนลาโลก
โดย JitrarutP
11 ต.ค. 2567
625 views
วันนี้ 11 ต.ค. 2567 รายการโหนกระแส ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้จัดรายการในตอน "ติดกับดัก...รักบอสตัวร้าย" ทั้งนี้สืบเนื่องจากกรณีที่ผู้เสียหายจากบริษัทดังร้องเรียนต่อสื่อว่า จ่ายเงินซื้อคอร์ส และสินค้ามาขายแต่ขายไม่ได้ โดยมีผู้ร่วมรายการประกอบด้วย ลูกตาล, ต้นน้ำ, ซูซี่, หล้า, หญิง, แป้ง, ผู้เสียหาย,บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์, พ.ต.อ.สำเริง อำพรรทอง รองผู้บังคับการกองปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค และ พรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความ
บอย ปกรณ์ เล่าว่า ตนถูกจ้างให้เป็นพรีเซนเตอร์สินค้า โดยมีสัญญาปีต่อปี และคลิปที่ออกมาในโลกออนไลน์นั้นเป็นการพูดในงานประจำปีของบริษัท ซึ่งบทพูดทั้งหมดเป็นบทที่ทีมงานเตรียมมา ตนพูดไปตามบทเพราะเป็นหน้าที่ของตัวเอง แต่วันนี้สามารถพูดได้เพียงข้อเท็จจริงในส่วนที่เกิดขึ้นกับตัวเองเท่านั้น และเมื่อทราบเรื่องที่เกิดขึ้นกับทุกคนแล้วก็รู้สึกกังวลมาก วันนี้ได้มาพูดชี้แจงก็เหมือนได้ปลดปล่อย หากวันนั้นรู้ว่าสิ่งที่พูดไปไม่มีข้อเท็จจริงก็คงจะไม่พูดออกมา อยากจะขอโทษและยินดีที่จะให้ข้อมูลตามกฎหมาย
ตนรู้สึกเหมือนโดนหลอก แต่ยังไม่นับว่าตนเป็นเหยื่อเหมือนผู้เสียหายคนอื่นๆ ตนเหมือนเป็นเครื่องมือให้เขาใช้หลอกคนอื่น และได้ส่งหนังสือ ทาง EMS, อิเล็กทรอนิกส์ และ ให้เมสเซนเจอร์ส่งไปที่บริษัทเขาเรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นไปแล้วผิดก็ว่าไปตามผิด พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทั้งหมด ขอโทษที่มีส่วนทำให้ผู้เสียหายได้รับความเดือนร้อน
พร้อมกล่าวด้วยว่า “ถ้าเขาทำขนาดนี้กับผู้เสียหาย ทำกับผมขนาดนี้ ก็ไม่จำเป็นที่ผมต้องสังคายนา”
ด้าน หล้า ญาติของผู้เสียชีวิต เล่าว่า พี่ชายของตนยืมเงินแม่และเพื่อนไปลงทุนกับบริษัทนี้ประมาณ 3 แสนบาท ไปเข้าคอร์ส 3 เดือน ได้สินค้ามาเพื่อจะเอามาขาย แต่ก็ขายไม่ได้เนื่องจากสินค้ามีราคาแพงเกินไปถูกกดดันจากครอบครัวจนตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง หลังจากที่พี่ชายเสียชีวิตแล้วก็มีแม่ข่ายโทรมาชักชวนให้ตนทำต่อจากผู้ตาย พยายามพูดให้ร่วมลงทุน ทั้งๆ ที่มีคนตายไปแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้สนใจ
ในการแถลงการณ์ของ “มิน พีชญา” ได้กล่าวว่า ตนไม่ได้เป็นผู้บริหารของบริษัทนี้ เป็นเพียงพรีเซนเตอร์ และผู้รับจ้างในฐานะผู้บริหารฝ่ายสื่อสารองค์กร หรือ พีอาร์ ไม่ได้เป็นหุ้นส่วนและไม่ได้ลงทุนกับบริษัทนี้ เพิ่งร่วมงานได้เพียงปีกว่าๆ ยอมรับว่าระหว่างที่ร่วมงานและพูดในคลิปต่างๆ นั้นพูดตามบทที่ทีมงานเตรียมให้ และมีการใช้สินค้าจริงด้วย พร้อมชี้แจงว่า ตนไม่ทราบเรื่องการทุจริตหรือการที่มีผู้เสียหายจำนวนมาก และล่าสุด “มิน” ได้ประกาศยกเลิกสัญญากับทางบริษัทนี้แล้ว พร้อมกับยินดีคืนเงินค่าจ้างทั้งหมดหากตรวจสอบพบว่ามีความผิด