อดีตแม่ข่ายเปิดหน้าชน! แฉวิธีพาคนร่วมลงทุน ‘ผู้เสียหาย’ จี๊ด ถูกชวนขายฝันสูญเงินนับล้าน

วันนี้ 10 ต.ค.2567 รายการโหนกระแส ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้จัดรายการในตอน แม่ข่ายเปิดหน้าชน แฉธุรกิจขายตรงบริษัทดัง!!! ทั้งนี้สืบเนื่องจากกรณีที่ ผู้เสียหายบริษัทดังร้องสื่อ จ่ายเงินเสียค่าคอร์ส โดยมีผู้ร่วมรายการประกอบด้วย ลูกตาล, นก, แอน ,หญิง, เล็ก ผู้เสียหาย, ณัชภัทร ขาวแก้ว ผอ.ฝ่ายรับเรื่องราวร้องทุกข์และติดตามสอดส่องการประกอบธุรกิจ , ต้นอ้อ มูลนิธิเป็นหนึ่ง และ พรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความ

โดย ลูกตาล และกลุ่มผู้เสียหายเล่าว่า พวกตนรู้จักบริษัทนี้มาจากโลกออนไลน์เห็นผ่านการยิงแอดโฆษณาและช่วงนั้นสนใจที่จะหารายได้เสริมซึ่งการทำงานออนไลน์ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจจึงสมัครเข้าคอร์สเรียน พอเข้าไปแล้วข้างในนั้นมีการจัดเป็นทีมๆ และมีการแนะนำสินค้า แต่ไม่ได้สอนเรื่องการขาย ส่วนมากจะพูดเรื่องความประสบความสำเร็จของหัวหน้าทีมหรือระดับแม่ทีมมากกว่า

ตอนเรียนจะมีคอมเมนต์ไปในทางที่ดีกับสินค้าว่าใช้ดี ขายดี และทำงานที่นี่ดีมากๆ แต่ก็มารู้ที่หลังว่าทั้งหมดเป็นหน้าม้าเป็นคนจากทีมอื่นๆ เข้าทำสร้างความน่าเชื่อถือ ระหว่างที่เรียนคอร์สต้องจ่ายเงินค่าเข้าเรียนด้วยประมาณ 97 - 99 บาท และเรียนประมาณ 4 วัน พอเรียนใกล้จบแล้วทางนั้นก็เริ่มเสนอคอร์สสินค้าต่างๆ มา ตั้งแต่ ราคาต่ำสุด 2,500 - 250,000 บาท ที่เป็นคอร์สราคาแพงสุด ทางแม่ทีมก็จะพยายามแนะนำให้ซื้อคอร์สเริ่มต้นก่อนหลังจากนั้นก็จะคอยเชียร์เพิ่มอีกให้ซื้อคอร์สที่ราคาสูง

แต่พอสนใจซื้อคอร์สไปแล้วก็ยังต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกเป็นค่าโฆษณา และค่าซื้อรายชื่อ ตัวรายชื่อที่ต้องซื้อคือรายชื่อของลูกทีม เพราะถ้ายิ่งมีลูกทีมเยอะก็ยิ่งได้ค่าแนะนำจากลูกทีม พอได้สินค้ามาแล้วตัวสินค้าจะยังอยู่กับบริษัทอยู่พอจะขายก็สามารถเบิกมาได้แต่พอเขามาขายก็ไม่สามารถขายได้ ไปเสนอถามขายที่ไหนก็ได้รับคำตอนว่า ซื้อในแอปฯ ซื้อของออนไลน์ยังถูกว่าซื้อจากตัวแทนซะอีก

ด้าน ต้นอ้อ มูลนิธิเป็นหนึ่ง กล่าวว่า ตนได้รับร้องเรียนในเรื่องนี้มานานแล้วแต่ตอนนั้นยังไม่มีข้อมูลมากพอจึงยังไม่ได้ออกมาเรียกร้องอะไรเพราะต้องเก็บข้อมูลก่อน พอมาถึงตอนนี้ผู้เสียหายมากขึ้นจึงถึงเวลาแล้วที่ต้องพาผู้เสียหายออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม 

ขณะที่ ณัชภัทร ขาวแก้ว ผอ.ฝ่ายรับเรื่องราวร้องทุกข์และติดตามสอดส่องการประกอบกล่าวว่าต้องทำการตรวจสอบทุกขั้นตอน และในส่วนที่มีการมอบรางวัลนั้น รางวัลที่ทางบริษัทนี้ได้ไม่ใช่รางวัลเกี่ยวกับสินค้า แต่เป็นรางวัลที่ทางบริษัทคอยช่วยเหลือทางหน่วยงาน และทางหน่วยงานต้นไม่ได้เป็นผู้เลือกบริษัทนี้เข้าไป และในวันงานก็ไม่ได้มีบริษัทนี้ที่เดียวที่ได้รับรางวัลยังมีของคนอื่นๆ อีก และทางหน่วยงานก็มีการมอบรางวัลแบบนี้อยู่แล้ว

ด้าน พรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความ กล่าวว่าในกรณีนี้เจ้าของธุรกิจควรจะส่งเสริมตัวแทนให้ขายของได้อย่างสะดวก ทางด้านกฎหมายก็ต้องไปดูด้วยว่าตามสัญญาว่าตัวผู้แทนกับบริษัทนั้นตกลงกันยังไง แต่การทำสัญญาระหว่างเอกชนด้วยกันนั้นจะยุ่งยากกว่าปกติ และต้องไปดูให้ดีว่าการกระทำนี้จะเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่หรือก็ต้องไปตรวจสอบดู

โดยในช่วงต่อออนไลน์ของรายการ หนุ่ม กรรชัย ได้ฝากไปถึง บอสพอล และลูกทีมว่า “พรุ่งนี้ผมจะทำเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง ถ้าคุณพอลอยากพูดอะไรก็ยินดีนะครับ ติดต่อผมได้ ผมเชื่อว่าคุณพอลมีเบอร์ผมอยู่ ผมมีเบอร์คุณ เดี๋ยวผมอาจจะโทรหาคุณด้วย คุณจะมาออกมาชี้แจงอะไรก็เป็นสิทธิ์ของคุณเลยครับ ยืนยันอีกครั้ง รายการโหนกระแสไม่ได้กล่าวหาว่าบริษัทคุณผิดหรือไม่ผิด เราพูดแค่ในมุมการตื่นรู้ของสังคม ถ้าคุณถูกแจ้งข้อกล่าวหาก็ต้องไปพิสูจน์ในมุมข้อกฎหมาย เราไม่ได้ไปเกี่ยวข้องกับคุณเลย”