‘เชฟอ้อย’ ยันคืนแน่ ยักยอกทรัพย์แฟนคลับ ผู้เสียหายแฉหลงไว้ใจอ้างชื่อ ‘ทนายไพศาล’ เจ้าตัวลั่นเป็นผู้ประสบภัย

วันนี้ (9 ต.ค. 2567) รายการโหนกระแส ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้จัดรายการในตอน “เชฟลูกชิ้นดัง END GAME ถูกตำรวจจับ หลังเบี้ยวเพชร-ทอง-พระ เกือบ 2 ล้านบาท” ทั้งนี้สืบเนื่องจากกรณีที่ ‘เชฟอ้อย’ ยอมรับยักยอกทรัพย์ 2 ล้านจริง เอาไปจ่ายใต้โต๊ะโปรดิวเซอร์ แลกออกบูธขายอาหาร โดยมีผู้ร่วมรายการประกอบด้วย บี, เอ, ผู้เสียหายกรณียักยอกทรัพย์ เชฟปู ผู้เสียหายกรณีซื้อสูตรก๋วยเตี๋ยว เล้ง, เจ๊แมน เตี๊ยวกะเทย และทนายไพศาล เรืองฤทธิ์

โดย บี ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนเองเป็นเจ้าของร้านเพชรและเป็นลูกค้าแฟรนไชส์ลูกชิ้นของเชฟอ้อย ได้ทำการฟ้องต่อศาลแขวงบางบอนตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาว่า ถูกเชฟอ้อยยักทรัพย์สิน ซึ่งมีทั้งนาฬิกาโรเล็กซ์, เข็มขัดทอง, เพชร รวมถึงทรัพย์สินอื่นๆ รวมประมาณ 10 รายการ มูลค่าเกือบ 2 ล้านบาทแล้วไม่ยอมคืน

เหตุผลที่เชื่อใจเพราะว่าตนเองชื่นชอบในตัวเชฟอ้อยมากๆ และเขาก็เคยมาซื้อทองที่ร้านพร้อมจ่ายสดด้วย ทำให้ไว้ใจมาก ตัดสินใจเอาของทั้งหมดให้เขายืม และพอจับตัวเชฟอ้อยได้แล้ว เขาก็สารภาพว่า เอาของทั้งหมดไปให้โปรดิวเซอร์รายการอาหารรายการหนึ่งเพื่อจะได้ไปเปิดหน้าร้านที่ห้าง และเชฟอ้อยเคยมากล่าวกับตนเองว่าเป็นพี่น้องกับทนายไพศาลด้วย

และ เอ ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนเองจะทำธุรกิจกับเชฟอ้อยเรื่องสูตรอาหาร พร้อมกับอ้างด้วยว่าเขาจบดอกเตอร์มาสองใบ แล้วไปเจอเหตุการณ์ต่างที่มันไม่ตรงกับที่คุยไว้ เช่นวัตถุดิบในการทำอาหารจึงตัดสินใจยกเลิกการร่วมมือกันคิดสูตร แล้วเขาก็พยายามขอเงินคืน ประมาณแสนกว่าบาท

ด้าน ทนายไพศาล กล่าวว่า ที่ตนเองมาวันนี้มาในฐานะเหยื่อ เพราะมีคนมาเล่าให้ฟังว่าเชฟอ้อยเอามาแอบอ้างว่าเป็นพี่ชาย และเป็นที่ปรึกษาให้กับเชฟอ้อย แต่ตนเองก็ไม่สามารถพูดอะไรในเรื่องคดีก่อนหน้านี้ได้ เพราะเป็นความลับของคดีความ ตอนนี้ไม่ได้มีอะไรที่เกี่ยวข้องกันแล้ว เพราะคดีความก่อนหน้านี้จบไปแล้ว

ขณะที่ เชฟปู ผู้เห็นเหตุการณ์ ได้เล่าว่า ก่อนหน้าที่ตนเองคอยเป็นที่ปรึกษาให้เชฟอ้อย เพราะว่าเห็นเชฟอ้อยเป็นพี่ที่สนิท เวลามีอะไรต้องช่วยกัน แต่ตอนนี้ไม่ได้ไปยุ่งแล้ว เพราะว่าเขามีที่ปรึกษาคนใหม่ และที่แยกตัวออกมาเพราะเชฟอ้อยไม่คืนเงินตนเอง เงินส่วนนี้เป็นเงินที่คิดค่าสูตรอาหาร

และในช่วงออนไลน์ได้โฟนอินกับ เชฟอ้อย โดยได้ชี้แจงเรื่องของบีว่า ตนเองเอาของไปจริงๆ ตามที่เคยกล่าวไปแล้ว ตอนนี้ไปตามของคืนมาจากคนนั้นได้เกือบครบแล้วจะนำมาคืนให้บี และเรื่องของเชฟปูนั้น ไม่ได้จ้างอีกฝ่ายช่วยคิดสูตรอาหารให้เลย แต่อีกฝ่ายมาคุยกับตนเองว่าโดนคนต่างชาติโกงจึงเข้าไปช่วย