แฉหมดเปลือก! ‘เจนนี่’ เปิดจุดแตกหัก ‘แม่ตั๊ก’ ให้นาฬิกา-เงินเซอร์ไพรส์ ที่แท้โป๊ะแตก

วันนี้ 30 ก.ย. 2567 รายการโหนกระแส ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้จัดรายการในตอนเหลี่ยมทุกดอกแล้วบอกนักบุญ ทั้งนี้สืบเนื่องจากกรณีที่ มีชาวบ้านแฉ แม่ตั๊กทำบุญให้เงินชาวบ้าน บอกสร้างบ้านให้แต่ไม่ทำตามที่สัญญาไว้ โดยมีผู้ร่วมรายการประกอบด้วย เจนนี่-ยิว,ลุงต๋อง,อัน ลูกสาว และ ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์

โดย เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น เล่าว่าตนถูกจ้างไปไลฟ์ขายสินค้ากับแม่ตั๊ก และด้วยความเชื่อใจเพราะเห็นว่ามีคนดังหลายคนเคยไปไลฟ์มาแล้ว และในวันครบรอบแต่งงานของเจนนี่ เขาจ้างให้ไปไลฟ์แล้วทำเซอร์ไพรส์ มอบของขวัญให้ พอเปิดแง้มๆ ดูเห็นว่าเป็นเงินประมาณ 3 แสนบาท แต่ไม่ได้หยิบออกมาดู พอกลับมาบ้านเปิดกล่องดู สรุปของขวัญในกล่องนั้นคือเงินค่าจ้าง

นาฬิกาปาเต๊ะ ที่แม่ตั๊กเอาไปทำคลิป 2 ล้านบาท จริงๆ แล้ว เป็นนาฬิกาที่ตนตั้งใจซื้อ เลยไปปรึกษากับ “ป๋าเบียร์” เพราะอยากซื้อมาเก็งกำไร และนัดกันว่าจะเอามาให้วันที่ไปร่วมงาน แต่ตกใจตรงที่ขณะกำลังไลฟ์อยู่บนเวที จู่ๆ ก็มีการเอานาฬิกามายื่นให้บนเวที จนคนร่วมงานอาจเข้าใจผิดคิดว่าทั้งสองคนซื้อให้ อีกทั้งยังแกะนาฬิกาก่อน ทั้งที่ตนเป็นคนซื้อเอง

เค้กที่แม่ตั๊กทำคอนเทนต์เซอร์ไพรส์ 2 ล้านบาทนั้น แท้จริงแล้วเงินในเค้กมีอยู่ 2 หมื่นบาท ส่วนกำไลข้อมือแบรนด์เนมยอมรับว่าแม่ตั๊กซื้อให้ แต่จะหลังจากนี้จะเอาไปคืนให้เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ว่าตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง

ในช่วงต่อออนไลน์ของรายการ ลุงต๋อง อายุ 68 ปี ที่อาศัยอยู่ละแวกใกล้เคียงกับบ้านแม่ตั๊ก เปิดใจว่า เมื่อปี 2563 ตนถูกรถชนได้รับบาดเจ็บที่ขาและเท้า จากนั้นคนรู้จักซึ่งเป็นลูกน้องของตั๊ก ได้เล่าเรื่องของตนให้ตั๊กฟัง อีกฝ่ายจึงจะเข้ามาช่วยเหลือ โดยแจ้งว่าจะช่วยค่ารักษาพยาบาลและค่ายาทั้งหมด เป็นเงิน 30,000 บาท ตอนนั้นตั๊กให้ตนไปทำคอนเทนต์ด้วย ซึ่งในคลิปตั๊กได้ให้เงินสดตนมา 3,000 บาท แต่เมื่อถ่ายเสร็จ ตั๊กกลับเอาเงินคืน 2,000 บาท เท่ากับตัวเองได้แค่ 1,000 บาท ตั๊กยังบอกว่าจะให้ค่าเดินทางอีกวันละ 500 บาท แต่เมื่อตนไปขอเงินค่าเดินทางจากตั๊กทีหลัง กลับถูกไล่เป็นหมูเป็นหมา แถมเงิน 30,000 ที่หวังว่าจะได้ ก็ไม่ได้อีกเลย

สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ตนเสียความรู้สึกและผิดหวังอย่างมาก เพราะตอนที่รู้ว่าจะมีคนช่วยตนเองก็มีความหวัง ไม่คิดว่าจะถูกหลอก จนลูกสาวต้องคอยบอกว่าไม่ต้องไปหวังแล้ว ตนจึงเลิกความคาดหวังไป ส่วนเงินที่ได้มา 1,000 บาท ตนเองใช้เป็นค่าเดินทางวันเดียวก็หมด ตอนนี้ผ่านมา 4 ปีแล้ว แผลของตนก็ยังไม่หายดี เนื่องจากแผลติดเชื้อ หมอบอกให้ตัดขาแต่ตนไม่ยอมตัด ขอเดินทางไปล้างแผลและกินยา ก็ไม่รู้ว่าแผลจะหายเมื่อไหร่

ด้าน ทนายไพศาล ได้กล่าวว่า การทำความดีบริจาคแจกสิ่งของให้ชาวบ้านนั้นไม่ผิดถ้าทำโดยเจตนาที่ดี และไม่ได้ทำเพื่อปิดบังความผิดของตัวเอง พร้อมแนะว่าผู้ที่เคยโดนจ้างไปไลฟ์ขายสินค้ากับแม่ตั๊ก ให้แสดงความบริสุทธิ์ของตัวเอง