‘ป๋าเบียร์-แม่ตั๊ก’ แจงยิบ! ‘ผู้เสียหาย’ ยกทัพแฉซื้อทองแต่ขายต่อไม่ได้ คาใจ 18K หรือ 18มง?

วันนี้ 23 ก.ย. 2567 รายการโหนกระแส ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้จัดรายการในตอน เอาไงแน่ทอง 18 K หรือ 18 มง!!! ผู้เสียหายร้องซื้อทองออนไลน์แต่ขายไม่ได้ ทั้งนี้สืบเนื่องจากกรณีที่ ผู้เสียหายร้องหาความเป็นธรรม ซื้อทองร้านดังขายไม่ได้ โดยมีผู้ร่วมรายการประกอบด้วย ฝ้าย, สตางค์ และกลุ่มผู้เสียหาย, ตั๊ก กรกนก สุวรรณบุตร-เบียร์ กานต์พล เรืองอร่าม หรือ “แม่ตั๊ก – ป๋าเบียร์”, สมบูรณ์ ภุชงค์โสภาพันธุ์ กรรมการสมาคมค้าทอง และ เลิศศักดิ์ รักธรรม ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริหารผู้บริโภคด้านสัญญา

โดย กลุ่มผู้เสียหาย ได้เล่าว่า พวกตนนั้นซื้อทองมาจากร้านนี้เพราะชื่นชอบในตัวเจ้าของร้านจึงตัดสินใจสนับสนุน และร่วมด้วยที่อยากจะลงทุน แต่พอซื้อมาแล้วพอถึงครั้งที่มีความจำเป็นตนเอาทองไปขายแต่กลับขายไม่ได้ ตอนซื้อนั้นซื้อผ่านไลฟ์ในช่องทางออนไลน์ แต่ทางไลฟ์ไม่ได้แจ้งน้ำหนักเอาไว้ว่าทองมีน้ำหนักเท่าไรแค่บอกราคาขายเท่านั้น พวกเราผู้เสียหายเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาที่รู้จักแค่ว่า ทองก็คือทอง รู้จักเพียงทองแท้ทองปลอมเท่านั้น ทองอื่นๆ ที่มีเปอร์เซ็นต์อะไรไม่รู้จัก และถ้าตอนขายนั้นแจ้งชัดเจนว่าน้ำหนักทองมีเท่าไรคงไม่ซื้อ เพราะราคาของทองแพงกว่าที่อื่นไม่เหมาะสมกับน้ำหนัก และไม่เหมาะสมกับน้ำหนักของทองที่มาขาย ส่วนเรื่องของแถมพวกตนนั้นไม่ได้สนใจเพราะว่าตั้งใจจะซื้อทองจริงๆ และที่ซื้อเพราะเชื่อใจไม่คิดว่าจะซื้อมาแล้วขาดทุนมากขนาดนี้

พร้อมตั้งคำถาม “กล้าที่จะขายได้ยังไง ขายของที่ราคาแพงกว่าสินค้าขนาดนี้”

ด้าน เบียร์ กานต์พล เรืองอร่ามเจ้าของร้าน หรือ “ป๋าเบียร์” ชี้แจงว่า ได้แจ้งลูกค้าไปแล้วว่าทองของที่ร้านนั้นอาจจะขายร้านข้างนอกไม่ได้ แนะนำว่าถ้าจะขายคืนให้มาขายคืนที่ร้านโดยตรงจะดีกว่า พร้อมยืนยันว่าร้านไม่ได้ขายของปลอม และของทั้งหมดที่เห็นจัดเป็นเซ็ตๆ นั้นเป็นการจัดโปรโมชั่นของทางร้าน และของในเซ็ตเป็นการจัดให้เข้ากันไปในทางเดียวกัน ถ้าของแถมที่เป็นดอกกุหลาบสีทอง ทำให้ลูกค้าไม่ประทับใจก็อยากจะกล่าวขอโทษ และที่ทองไม่ได้ปั๊มตราประจำร้านเพราะไปรับมาจากสมาคมโดยตรงทางร้านไม่มีโรงงานเป็นของตัวเอง และข่าวที่ออกมานั้นทำให้ร้านเสียหายเป็นอย่างมาก อยากให้คนเห็นใจ และยืนยันว่าจะรับซื้อทองที่ลูกค้าซื้อไปทั้งหมดในราคาที่เหมาะสม

ขณะที่ สมบูรณ์ ภุชงค์โสภาพันธุ์ กรรมการสมาคมค้าทอง มีความเห็นว่า การซื้อขายทองในท้องตลาดนั้นส่วนมากแล้วจะรับมาจากทางสมาคมค้าทอง แต่ก็จะมีร้านที่มีโรงงานเป็นของตัวเองที่จะประทับตราประจำร้านลงไป และ พวกของแถมที่ร้านแถมมานั้นเป็นเพียงสินค้าที่ทำมาจากเรซิ่นแล้วชุบด้วยทอง ผ่านวิธีทางธรรมชาติ ซึ่งไม่ได้มีราคาขายเหมือนทอง

ในส่วนสินค้าที่ผ่านการพ่นทองนั้นเป็นทองแท้หรือไม่จะต้องผ่านการตรวจสอบก่อน สินค้าพวกนี้ถ้าร้านทองไม่มีเครื่องเช็กจะไม่รับซื้อเพราะทางร้านไม่สามารถรู้ได้ว่าทองมีเปอร์เซ็นต์เท่าไร

“ร้านทองอื่นเขาไม่ค่อยรับซื้อทองแบบนี้  ไม่ใช่เห็นสินค้าที่เห็นทั่วไปในตลาด ร้านตรวจสอบยาก ก็ปฏิเสธการซื้อ ร้านต้องมีเครื่องเช็กเปอร์เซ็นต์ ร้านที่ไม่มีเครื่อง ก็ถึงไม่ค่อยรับซื้อ ถ้าเป็นทอง 96.5 จะมีตอกยี่ห้อ ตอกเปอร์เซ็นต์ เห็นปุ๊บช่างน้ำหนักรับซื้อ แต่แบบนี้ต้องผ่านกระบวนการตรวจ ต้องมีเครื่องตรวจ บางทีก็ปฏิเสธ บางทีก็รับซื้อในราคาต่ำ” กรรมการสมาคมค้าทอง กล่าว...

ด้าน เลิศศักดิ์ รักธรรม ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริหารผู้บริโภคด้านสัญญา การขายสินค้านั้นผู้ขายจะต้องแปะรายละเอียดอย่างชัดเจนเพราะไม่อย่างนั้นก็จะมีความผิด และเรื่องการลดราคาโปรโมชั่นต่างๆ จะต้องเหมาะสมกับราคาทั้งหมด รวมไปถึงการโฆษณานาถ้าทำไปแล้วเกิดความเข้าใจผิดกับผู้ซื้อจะถือว่านั้นจะมีความผิดเช่นกัน

และในช่วงต่อออนไลน์ หนุ่ม กรรชัย ได้ถาม แม่ตั๊ก ว่า ทำไมไม่ค่อยพูดอะไรออกมาเลย คนเขาซื้อของเพราะคุณ พูดอะไรหน่อยมั้ย?

“แม่ตั๊ก” ได้ตอบกลับไปว่า ที่มาวันนี้ต้องการแสดงความรับผิดชอบ ไม่ได้มาต่อล้อต่อเถียง อะไร อยากเข้าสู้กระบวนการยุติธรรม ตั๊กเสียชื่อเสียงมาก ครอบครัวได้รับผลกระทบ ถูกตราหน้าว่าเป็นคนขายทองปลอม อยากรักษาครอบครัวเอาไว้ ขอความเห็นใจ เพราะร้านไม่ได้ขายทองปลอม

“ตอนนี้ตั๊กโดนเอาหน้าตัวเองไปตั้งทุกเพจ แล้วแฮชแท็กว่าทองปลอม ไม่รู้เกิดเหตุการณ์นี้ได้ไง ค่อนข้างเครียด หน้าหนูเป็นแฮชแท็กทองปลอมไปหมด เราไม่ได้ขายทองปลอม ส่วนดอกไม้ที่พ่นสีทองนั้นเป็นของแถมจากโปรโมชั่น”