คลิปเต็มรายการ

จับโป๊ะ! เมียใหม่ตาประสิทธิ์ แจงยิบ ปัดทิ้งผัวไว้บ้านพักคนชราแค่เอาไปไว้ เรื่องขายบ้านไม่รู้ไม่เห็น

22 ส.ค. 2567

259 views

วันนี้ 22 ส.ค. 2567 รายการโหนกระแส ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้จัดรายการในตอน พ่อป่วยติดเตียงถูกหลอกจนหมดตัว ซ้ำบ้านถูกยึด ประกาศขาย 25 ล้าน ทั้งนี้สืบเนื่องจากกรณีที่ ลูกชายออกตามหา “พ่อประสิทธิ์” อดีตนายกฯ ชาวนา  หายตัวไป สุดท้ายไปเจอที่บ้านพักคนชรา ทราบเรื่องโดนเอาไปประกาศฝากขาย ติดต่อแฟนใหม่พ่อไม่ได้รับคำตอบอยากได้ความเป็นธรรม โดยมีผู้ร่วมรายการประกอบด้วย ณัฐพงษ์ บุญเฉย ลูกชายประสิทธิ์, กาญจนา สมตน น้องสาว, เจมส์ ต๊าฟ เพจกล้าที่จะก้าว ผู้ที่ประสานงาน, ทนายแก้ว ดร. มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล รองประธานคณะกรรมการเผยแพร่กฎหมายสภาทนายความ และผู้ร่วมรายการช่วงออนไลน์ พัช ภรรยาใหม่ประสิทธิ์ และทนายไพศาลทนาย ไพศาล เรืองฤทธิ์

โดย ณัฐพงษ์ บุญเฉย ลูกชายตาประสิทธิ์ ได้เล่าว่าอยู่ๆ ก็มีประกาศขายบ้าน ซึ่งเป็นสินสมรสระหว่างพ่อและแม่ มาติดที่บ้านของตนที่อยู่กับญาติ จึงได้ติดต่อไปตามเบอร์ในประกาศขายจึงได้คำตอบว่า บ้านถูกทำไปฝากขายแล้ว ตอนนี้หมดสัญญาแล้วบ้านจึงเปลี่ยนเจ้าของ ถ้าต้องการได้บ้านคืนต้องเอาเงินมาซื้อคืน 25 ล้านบาท ตนและครอบครัวไม่เชื่อ หลังจากที่เห็นสัญญาฝากซื้อที่ไปเอามาจากกรมที่ดินตามเจ้าของบ้านแนะนำให้ไปขอคัดลอกสัญญามา เพราะไม่เชื่อว่าแม่จะเป็นคนปั๊มลายนิ้วมือ เนื่องจากตอนนั้นแม่ป่วยติดเตียงอยู่ หลังจากนั้นแม่ก็เสียชีวิต

ตนจึงออกตามหาพ่อที่ไปอยู่กับภรรยาใหม่ที่สุพรรณบุรี แต่ไปตามหาไม่เจอ ภรรยาใหม่อ้างว่าตอนนี้กำลังเอาพ่อไปรักษาตัวแล้วจะเอากลับบ้าน แต่หลังจากนั้นพ่อก็หายไปติดต่อพ่อไม่ได้ จึงไปขอข้อมูลจากโรงพยาบาลที่รักษาพอจนได้เบอร์บ้านพักคนชรามา แล้วโทรไปหาจึงรู้ว่าพ่อโดนทิ้งให้อยู่ที่นี่ และเรื่องเงินที่เอาไปฝากขายบ้านก่อนหน้านี้ว่าได้ 15 ล้านบาท บ้านเป็นสินสมรสของพ่อและแม่ แต่ไม่เคยเห็นเงินที่ขายฝากได้เลย เมียใหม่ของพ่ออ้างอีกว่า เอาพ่อไปฝากเพราะพ่อไม่มีลูก ลูกคนแรกตาย คนที่สองเป็นบ้า และคนที่สามหายสาบสูญ พร้อมอ้างอีกฝ่ายที่เอามาฝากเพราะไม่มีเวลาดูแล และติดค่าดูแล 70,000 บาท

ในช่วงออนไลน์ พัช ภรรยาใหม่ประสิทธิ์ อ้างว่า สัญญาฝากขาย 15 ล้านบาท ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่เคยเห็นสัญญาอื่น ที่ประสิทธิ์และภรรยาคนก่อนเป็นคนไปจำนองที่ดินด้วยกัน ตนไม่เคยไปอยู่ช่วงที่ทำสัญญากันเรื่องที่ดิน ส่วนเรื่องปั๊มลายนิ้วมือของภรรยาเก่าตนไม่รู้เรื่อง ชาคริต ผู้ที่มาเดินเรื่องฝากซื้อเป็นคนดำเนินการเอง

แต่เรื่องขายฝากรู้มาแค่ตอนแรกขายไปในราคา 5 ล้าน แต่มีคนที่มาดูสัญญาด้วยเพิ่มเงินเองจนเป็น 15 ล้านบาท เรื่องเงินที่ได้มาจากการขายฝากได้มา 5 ล้าน แล้วไปใช้หนี้จ่ายเงินให้ประสิทธิ์ล้านกว่าๆ เหลือ 3 ล้าน ใช้จ่ายในครอบครัว ประสิทธิ์ให้บัตรกดเงินกับตน เพื่อให้ไปกดเงินมาใช้ ตนไม่ได้เอาประสิทธิ์ไปทิ้ง แต่เอาไปฝากไว้ที่บ้านพักคนชรา เพราะว่าไม่มีเงินที่จะดูแลต้องทำมาหากินเหมือนกัน

ด้าน ทนายแก้ว และ ทนายไพศาล ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า เรื่องธุรกรรมและทรัพย์สินเจ้าหน้าที่ต้องทำการตรวจสอบอย่างละเอียดว่าลายนิ้วมือในเอกสารแต่ละฉบับตรงกันหรือไม่ และในสัญญาที่มีการฝากขายนั้นที่ปั๊มลายนิ้วมือเอาไว้ต้องทำต่อหน้าเจ้าหน้าที่ พร้อมตั้งข้อสงสัยว่าเหตุใดลายนิ้วมือในเอกสารทั้งสองฉบับมีความแตกต่างกัน ถ้าบ้านเป็นสินสมรส ต้องแบ่งสินทรัพย์คนละครึ่ง ถ้าภรรยาหรือสามีเสียชีวิตลูกสามารถไปตามเงินครึ่งนั้นมาคืนได้ และการที่พัชอ้างว่าเอาประสิทธิ์ไปดูแลเพราะเห็นนั้นดูไม่สมควรเพราะเขามีลูกมีญาติอยู่ ไม่ใช่หน้าที่พัชจะเอาไปดูแล

พร้อมตั้งคำถามถึง “เมียใหม่” ตาประสิทธิ์ ว่าเหตุใดถึงเอาผู้ป่วยติดเตียงไปไว้ที่บ้านพักคนชราโดยที่ไม่บอกลูกชายของเขา อีกทั้งเหตุใดถึงระบุในเอกสารของบ้านพักว่าลูกสูญหาย เสียชีวิต เมื่อตรวจสอบก็พบอีกว่า เมียใหม่ของตาประสิทธิ์ ไม่ได้จ่ายค่าดูแลให้กับบ้านพักฯ ราว 70,000 บาท เงินของตาประสิทธิ์ ตอนนี้อยู่ที่ไหน

ซึ่งเรื่องนี้ พัช เมียใหม่ของตาประสิทธิ์ ได้ชี้แจงว่าไม่ได้ปกปิด ยอมรับว่ามีการค้างค่าใช้จ่าย 3 เดือน ประมาณ 70,000 บาท เพราะไม่มีเงิน ส่วนเรื่องเงินที่ได้จากการขายฝากบ้านพร้อมที่ดิน 15 ล้านบาท ตนไม่เคยรู้เรื่องและไม่เคยได้รับเงินสักบาทเดียว ถ้าอยากรู้ต้องไปถามนายชาคริต ลูกน้องเก่าของนายประสิทธิ์ ที่เป็นคนจัดการ

“เราก็ทำงานที่บ้าน ขายดิน ตอนนั้นเขาก็มีเงิน ก็มีเงินส่วนเขามาด้วย ได้เป็นบัตรเอทีเอ็มมากดพร้อมรหัส เงินในบัตรของพี่ประสิทธิ์มีเป็นแสน ตอนเอาไปศูนย์คนชรา เงินไม่มีมาตั้งนานแล้ว เงินใช้กินด้วยกัน บัตรเอทีเอ็มเขาอยู่กับเรา” เมียใหม่ของตาประสิทธิ์ กล่าว...

คุณอาจสนใจ

Related News