พิรุธเพียบ! ‘เด็ก 15’ ศพผูกคอตายกลางป่าลึก ปลิดชีพ หรือ ฆาตกรรมอำพราง

วันนี้ 20 ส.ค. 2567 รายการโหนกระแส ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้จัดรายการในตอน ปลิดชีพตนเองหรือฆาตกรรมอำพราง! แม่คาใจลูกชายออกจากบ้านสุดท้ายไม่กลับมา ทั้งนี้สืบเนื่องจากกรณีที่ ซี เด็กนักเรียนอายุ 15 ปี  ออกจากบ้านแล้วหายตัวไป ถามเพื่อนที่อยู่ด้วยคนสุดท้ายก็ไม่ทราบ จนตามตัวเจอพบกลายเป็นศพพิรุธเพียบ โดยมีผู้ร่วมรายการประกอบด้วย แม่ - พี่ชาย ของผู้เสียชีวิต,แยม - บี รุ่นพี่ของผู้เสียชีวิต , รองแต้ม พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ เอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด

โดย ฝั่งญาติผู้เสียชีวิต ได้เล่าว่า วันที่ 13 ส.ค. ซี (ผู้เสียชีวิต) ลูกชายขอออกจากบ้านไปหาเพื่อน จึงให้ลูกไปแต่ขอให้กลับก่อน 5 โมงเย็น แต่ลูกไม่ได้กลับมาจึงเป็นห่วง ได้มีการไปแจ้งความกับตำรวจ และโพสต์ประกาศตามหาในโลกออนไลน์ โดยได้ทิ้งเบอร์โทรศัพท์เอาไว้ แล้วออกตามหา ในวันที่14 ส.ค. มีเบอร์แปลกโทรเข้ามาแล้วบอกว่า “แม่ครับ... รักแม่นะ” แล้ววางสายไป พยายามโทรกลับแต่ไม่มีใครรับโทรไปย้ำๆ อีกจนรับแล้วปลายสาย ปฏิเสธ บอกว่าไม่เคยโทรมา จนวันที่ 15 ส.ค. พบศพลูกผูกคออยู่บนต้นไม้และเสียชีวิตไปแล้ว

เอ พี่ชายผู้เสียชีวิต ได้ออกความเห็นว่า การตายของน้องแปลกมาก และร่างกายมีรอยแผลเหมือนถูกทำร้าย จุดพบศพก็อยู่ลึกกลางป่าและต้นไม้ที่น้องไปผูกคอเองก็สูงมากด้วย ขอสังเกตอีกอย่างศพน้องถอดเสื้ออยู่ด้วย จึงทำให้เกิดสงสัย ว่าน้องอาจจะโดนทำร้ายร่างกายก่อนจะเสียชีวิต

ส่วน บี และ แยม รุ่นพี่ของผู้เสียชีวิตเองก็มีข้อสงสัย เช่น เรื่องเชือกที่ผูกคอมีลักษณะสั้น และปกติปมเชือกที่ผูกคอมักจะอยู่ด้านหลังแต่กลับไปอยู่ด้วยหน้าใต้คาง ส่วนเบอร์แปลกที่โทรมาหาแม่ พวกตนเลยไปลองสืบดูจนรู้ว่าเป็นเด็กช่างจากสถาบันหนึ่ง แล้วได้มีคนอ้างเป็นรุ่นพี่ของเจ้าของเบอร์คุยพร้อมเล่าเรื่องให้ฟังว่า จากคลิปเสียงรุ่นน้องคนนี้ นามสมมติ บูม เป็นคนฆ่าซีจนตาย มาสารภาพยอมรับผิด

พร้อมยืนยันว่าซีผูกปมเชือกไม่เป็นเลย ไม่คิดว่าจะทำได้ แต่ซีมีแฟนอยู่มีเรื่องตีกันบ้างเพราะแฟนซีมีคนอื่นแต่ก็ไม่ได้มีเรื่องทะเลาะกัน

ด้าน เอกภพ เหลืองประเสริฐ เล่าว่า ศพตรวจพบร่องรอยการถูกทำร้าย ในเรื่องนี้น่าสงสัยมากเพราะวิธีการตายและสถานที่แปลกมาก กรณีนี้มันผิดธรรมชาติ ถ้าเดินเข้าป่าชายเลนไปต้องมีคราบโคลน แต่คราบโคลนที่ติดอยู่บนร่างกายของผู้ตายไม่ได้หุ้มทั้งขา เชือกที่ผูกคอดูสั้นผิดปกติ การที่คนจะผูกคอตายจะตายที่ไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเข้าไปในป่าลึกขนาดนั้น

ขณะที่ พล.ต.ต. วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า เคสนี้ตำรวจต้องชันสูตรพลิกศพ พร้อมหาแรงจูงใจการตาย และผู้เสียชีวิตอยู่กับใครก่อนตาย ทำไมต้องไปปีนต้นไม้สูงขึ้นไปตาย แต่ถ้าถูกทำร้ายหลายคนต้องพบร่องรอย พิรุธหลายอย่างแต่ต้องพิสูจน์ ข้อสังเกตเยอะ การที่จะมีการทำร้ายพื้นที่ทำร้ายต้องอยู่แถวนั้น ต้องเช็กมือถือของผู้ตายเพราะทราบมาว่าข้อมูลของผู้ตายถูกลบไปแล้ว แต่ตำรวจสามารถกู้ได้ พร้อมบอกอีกว่าเจ้าหน้าที่ควรสอบสวน “เสือ” เพื่อนผู้เสียชีวิตเป็นกรณีพิเศษ เพราะเป็นคนที่อยู่กับผู้เสียชีวิตเป็นคนสุดท้าย

ในช่วงออนไลน์ได้โฟนอินกับ บูม นามสมมติ วัยรุ่นที่โทรเข้าไปหาแม่ผู้ตาย ได้ยอมรับว่าโทรไปหาแม่ของซีจริง เพราะความคึกคะนอง จึงทำไปแบบนั้น เรื่องคลิปเสียงที่ออกมาก็ยืนยันว่าไม่จริงไม่ได้รู้จักผู้ตาย และไม่ได้รู้จักกับรุ่นพี่คนนั้น

หมอหมู รศ.นพ. วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวช มศว. ออกความเห็นว่า เคสนี้มีความน่าสงสัยเป็นอย่างมาก ทั้งร่างกายและการผูกเชือก การผูกเชือกปมใต้คางพบได้น้อยมาก ชันสูตรศพจะช่วยชี้ว่าอะไรเป็นสาเหตุการตาย ถูกวางยาก่อนทำไปแขวนคอหรือถูกทำให้สลบหรือไม่ และ เชือกที่ใช้ผูกตอต้องตรวจดีเอ็นเอให้ชัดเจน ว่าจะทิ้งร่องลอยเอาไว้หรือไม่ และออกความเห็นว่าเคสนี้อาจจะทำหลายคน พิรุธเยอะ ต้องใช้นิติวิทยาศาสตร์ มาตรวจสอบ และหาเบาะแสของเชือกว่ามาจากที่ไหนสิ่งที่ซ่อนอยู่จะได้ชัดเจนขึ้น

ด้าน เสือ เพื่อนผู้ตาย ได้เล่าว่าในวันที่ซีมาหาก็คุยกันปกติ แต่เวลาคุยกันซีจะตอบไม่ค่อยตรงคำถามดูเหม่อๆ จนพักใหญ่ ซีก็บอกกับตนว่าเดี๋ยวมา แล้วออกจากบ้านไปทันที ก่อนจะหายไปแล้วไม่กลับมาอีก วันนั้นอยู่บ้านคนเดียวเพราะทุกคนไปทำงาน ที่อยู่เป็นแคมป์คนงาน เสือ โดนตะปูตำเท้าเลยไม่ได้ไปทำงาน และยืนยันว่าซีไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเลยอย่างมากก็มีสูบกัญชาบ้าง