ศึกชิงอพาร์ตเมนต์! ผัวเมียหย่าขาด แบ่งสมบัติไม่ลงตัว เถียงกันวุ่นเงิน 68 ล้าน เป็นของใคร

วันนี้ 14 ส.ค. 2567 รายการโหนกระแส ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้จัดรายการในตอน ศึกชิงอพาร์ทเม้นท์ ผัวเมียหย่ากันแบ่งสมบัติไม่ลงตัว ทั้งนี้สืบเนื่องจากกรณีที่ สามีภรรยาหย่ากันแบ่งสมบัติไม่ลงตัวจึงไปฟ้องศาลแบ่งสมบัติกัน ภรรยาพาคนไปเก็บของฝ่ายสามีมาคุมเชิงเอาปืนมาเฝ้า มีผู้ร่วมรายการประกอบด้วย ปัทมาพร เจ้าของตึก, ตอง หลานเจ้าของตึก ฝั่งผู้ร้องเรียน แอ็ด, ภรรยา, โดโด้ คู่กรณี ที่... และ ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความคนกลาง  

โดยฝั่งของ ปัทมาพร (มุก) เจ้าของตึกและหลาน ได้เล่าความฝั่งของตนว่า มุก ได้หย่ากับสามีได้ 2 ปีกว่าแล้วและศาลได้สั่งตัดสินว่าสมบัติให้แบ่งกันเพราะเป็นสินสมรส ต่อมาฝั่งภรรยาก็ได้เข้ามาดูแล หนึ่งปีหลังจากนั้นได้เกิดเรื่องขึ้นเพราะฝั่งสามีได้ถอนเงินกองกลางออกทั้งหมดทำให้ไม่มีเงินหมุน พออีกฝ่ายไม่ได้เงินปันผลเหมือนทุกเดือนก็ได้ตั้งผู้ดูแลของตัวเองเข้ามาดูแลแทน ฝั่งภรรยาจึงจะย้ายออกแล้วเข้าไปเก็บของแต่ไปเอาไม่ได้ และเริ่มมีปากเสียงกับฝั่งคนดูแลที่เข้ามาดูแลใหม่ตามข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้  

ส่วนสินทรัพย์ที่แบ่งกัน จะมีหอพักและโรงรับจำนำ ที่แบ่งกันคนละครึ่งแต่มามีปัญหา ไม่ใช่แค่ที่หอพักแต่เป็นที่โรงรับจำนำด้วย โดยฝั่งของคนที่ฝ่ายสามีตั้งมาเป็นผู้ดูแลนั้นได้เข้าไปยุ่งกับที่นี่แล้วมีตำรวจที่เป็นเจ้าของคดีเข้ามาดูแลโรงรับจำนำแทน และทางฝั่งสามียังจัดตนออกจากการเป็นกรรมการบริษัททั้งที่ยังไม่ได้มีการเซ็นยอมรับอีกด้วย  

ส่วนเรื่องดำเนินคดีอื่นๆ นั้นพวกตนก็ต้องคุยกับทนายก่อนว่าจะแจ้งข้อหาอะไรบ้างเพระทนายกล่าวว่าเตรียมแจ้งความทั้งคดีแพ่งและอาญา

ด้านกลุ่มตัวแทนที่เข้ามาดูแลตึกเล่ามุมของตนว่า ได้รับแต่งตั้งจากบริษัท ให้มาดูแลทำการเสมือนเจ้าของ  และเรื่องที่เกิดขึ้นในข่าวก่อนหน้านี้ทำไปเพราะทำตามหน้าที่และต้องการที่จะป้องกันตัวเลยทำไปแบบนั้น ส่วนเรื่องที่ขับไล่ฝ่ายภรรยาออจากการเป็นกรรมการบริษัทนั้นเห็นพ้องกันว่าฝ่ายนั้นไม่เคยมาประชุมเลยส่งจดหมายแล้วก็ไม่สนใจจึงไปปรึกษาทนายแล้วปลดออกจาการเป็นกรรมการ

ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความคนกลาง แนะให้ทั้งสองฝ่ายฟังว่า ต่างคนต่างไม่เข้าใจในข้อกฎหมาย แต่ศาลนั้นได้ตัดสินไปแล้วว่าสินสมรสต้องแบ่งครึ่งกันจะขัดข้อกฎหมายไม่ได้ ส่วนเรื่องที่ฝั่งสามีนั้นตั้งผู้ดูแลมาดูแลแทนนั้นถือว่าไม่เห็นชอบเพราะฝ่ายภรรยานั้นไม่ได้เห็นชอบ ฝั่งภรรยาสามารถแจ้งความกับฝั่งผู้ดูแลได้เลย

ส่วนเรื่องวาระการประชุมเปลี่ยนคณะกรรมการนั้นต้องเชิญประชุมผู้ถือหุ้นทั้งหมดมาประชุมกับแล้วขับไล่ จะปลดใครจะต้องได้รับการเห็นชอบกับผู้ถือหุ้น คนที่จะปลดได้คือผู้ถือหุ้น กรรมการจะปลดเองไม่ได้ และการแก้ไขนั้นต้องใช้คำสั่งศาลในการแก้ไขและต้องไปคุยกัน ถ้าจบไม่ได้ก็ไปขายทอดตลาดแล้วแบ่งเงิน ส่วนเรื่องที่เห็นว่าตำรวจเข้าไปยุ่งที่โรงจำนำเป็นเรื่องที่ใหญ่เพราะไม่ควรจะเกิดเรื่องแบบนี้และมีโทษที่สูงควรระวังตัวไว้เพราะฝ่ายภรรยานั้นสามารถแจ้งความได้

ในช่วงออนไลน์ได้โฟนอินกับ สายัณห์ เจ้าของตึกฝ่ายสามี ได้กล่าวในเรื่องที่โดนกล่าวหาว่า เรื่องเงินกองกลางนั้นได้เอาออกมาจากธนาคารจริงเพราะมันเป็นของตนเกิดจากธุรกิจของตน ส่วนเรื่องที่ให้แอ๊ดเข้าไปดูแลก็รู้เรื่องทุกอย่าง ทำตามที่ทนายบอกเขาเอาเอกสารเอามาให้เซ็นก็เซ็น แล้วให้คนเขามาดูแลแทน พร้อมพูดว่าเงินทั้งหมดนั้นเป็นของตนสร้างมาเอง ไม่ได้รักกันแล้วเขาหลอกผม เราแยกกันอยู่มานานแล้วผมมีเมียใหม่ตอนนี้ทนไม่ไหวเลยหย่า ศาลสั่งก็ต้องทำตามที่ศาลสั่งทนายบอกอะไรผมก็ทำ

พ.ต.อ. พรทวี สมวงค์ ผู้กำกับการ สน.หัวหมาก ยอมรับว่าตำรวจที่เห็นว่าไปดูแลโรงจำนำนั้นเคยเป็นคนดูแลคดีของฝั่งสามีจริงแต่ตอนนี้ได้ให้ออกจากการดูแลและแต่งตั้งคนอื่นมาแทน ยันตำรวจทำหน้าที่กันอย่างเต็มที่ให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายไม่ได้เข้าข้างใครเป็นพิเศษ เราทำเต็มที่แล้ว