คลิปเต็มรายการ

สาวเล่าทั้งน้ำตา พ่อแม่บังคับรักษาฤาษีแก้มะเร็ง รพ.ตรวจแล้วไม่ได้ป่วย กลับถูกประกาศตัดลูก

โดย JitrarutP

16 ก.ค. 2567

135 views

วันนี้ 16 ก.ค. 2567 รายการโหนกระแส ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้จัดรายการในตอน คุกถามหา ฤๅษีพิลึก เปลื้องผ้ารักษามะเร็ง ทั้งนี้สืบเนื่องจากกรณีที่ มีสาวออกมาร้องผัวเมียอ้าวงมีพลังวิเศษ รักษาคน ชาวบ้านหลงเชื่อบังคับลูกไปรักษามะเร็ง หมอจริงตรวจไม่ได้เป็นมะเร็ง เหยื่อเพียบมีคนตาย โดยมีผู้ร่วมรายการประกอบด้วย กิ๊ฟ ผู้เสียหาย, อ้อม น้าผู้เสียหาย, การ ป้าผู้เสียหาย, ทนายแก้ว ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล รองประธานคณะกรรมการเผยแพร่กฎหมายสภาทนายความ และ กัน จอมพลัง

โดย กิ๊ฟ ผู้เสียหาย ได้เล่าว่าแม่ของตนเคยไปรักษากับหมอเขียว ฤาษี และพุทธ ภรรยาจนหาย ก่อนที่สองคนนั้นจะบอกกับแม่เธอว่าตัว ผู้เสียหายเองก็เป็นมะเร็งที่ปากมดลูกและเต้านม แม่ของ กิ๊ฟ เลยให้มารักษากับหมอที่สำนัก โดยมีการพ้นยา ทาน้ำมันและกินยาต้ม คนที่มีหน้าที่ทำทั้งหมดคือคนที่เป็นหมอผู้ชาย ตัวเธอไม่อยากจะทำแบบนี้เลย แต่โดนพ่อแม่บังคับให้ไปทำ วิธีการรักษาต้องแก้ผ้าทั้งตัว ให้หมอพ้นยานวดน้ำมัน ยาต้มที่เธอต้องกินในครั้งแรก 3,300 บาท และครั้งต่อไปจะต้องจ่าย 300 บาท ต่อหม้อ หลังจากที่จ่ายไปแล้วทุก 15 วัน จะต้องไปพ้นยาอีก

ซึ่งจะต้องจ่ายค่าครูครั้งละ 100 บาท พ่อแม่เชื่อหมอสองคนนี้มาก ไม่เคยเชื่อตัวกิ๊ฟเลย ทำมาเป็นปีจนเธอไม่ไหว พยายามหนี เลยตัดสินใจไปตรวจร่างกายกับหมอแผนปัจจุบัน แล้วพบว่าไม่ได้มีเชื้อมะเร็งและร่างกายแข็งแรงดี ได้ส่งใบรับรองแพทย์ไปให้พ่อแม่ดูแล้วแต่ก็ไม่เชื่อ พร้อมทั้งบังคับให้ กิ๊ฟมารักษาต่อเหมือนเดิม จนไม่ไหวแล้วจึงไปคุยกับน้าว่ารู้สึกไม่ไหวกับสิ่งที่พ่อแม่บังคับ พร้อมเล่าเรื่องที่โดนทำทั้งหมดให้พวกน้าฟัง ตัวกิ๊ฟ อยากออกจากเหตุการณ์นี้เร็วๆ และล่าสุดเธอก็โดนพ่อแม่ประกาศตัดลูก  ทั้งพ่อและแม่เชื่อในตัวหมอสองคนนี้มาก เห็นเป็นผู้มีพระคุณที่รักษาแม่ให้หาย ตัวผู้เสียหายเองอยากให้พ่อแม่กลับมาเป็นเหมือนเดิมอยู่กันแบบครอบครัวกับเธอและน้อง

ขณะที่ การ ป้าผู้เสียหาย เล่าในมุมของตัวเองว่า ที่หลานยังไม่ห้ามในตอนแรกนั้นคิดว่าพ่อแม่จะคิดได้เองเลยปล่อยเลยตามเลยแต่ก็ยังไม่หยุดสักที จนเอาผลการตรวจไปให้พ่อกับแม่ดูก็แล้ว แต่ยังโดนบังคับอยู่ทำให้ทนไม่ไหวจนต้องมาขอความช่วยเหลือจากเธอ ป้ารู้จักกับหมอสองคนนี้จากการที่มารับดูดวงตามบ้าน แต่ป้าไม่สนใจเพราะดูดวงไม่ตรงกับชีวิตป้า เคยเตือนสติแล้วแต่ไม่ฟังเหมือนโดนล้างสมองไปแล้วเชื่อแต่ฝั่งบ้านหมอสองคนนั้น

ด้าน อ้อม น้าผู้เสียหาย เล่าว่าตนตัดสินใจคุยกับหลานว่าจะช่วยยังไง ถามว่าถ้าเป็นข่าวจะยอมมั้ย หลานก็ยอมเลยติดต่อนักข่าวไปนักข่าวพร้อมช่วยทันที หลักฐานหายากเพราะสองคนนั้นระวังตัวมาก แต่ก็ได้หลักฐานมาเพราะวันนั้นที่ไปรักษาได้มีคนรักษาต่อจากกิ๊ฟหลานจึงแอบถ่ายไว้จนออกมาเป็นคลิปที่ทุกคนเห็นกัน

กันจอมพลัง เห็นว่าในเคสนี้ได้ให้ทีมของตนประสานงานกับผู้การจังหวัดให้คัดค้านประกันตัวแล้ว และจะประสานเรื่องการปลอดภัยให้ผู้เสียหาย อยากให้ตรงไปมา และใครที่โดนกระทำก็อยากให้ออกมาแจ้งความ กันจอมพลังและทีมทุกคนพร้อมที่จะช่วยเหลือ การรักษาแบบนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะรักษาให้หายเป็นการหลอกลวง อยากให้พ่อแม่คิดดีๆ ว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นมันถูกหรือผิดการที่ตัดลูกนั้นมันดีแล้วหรือแถมยังไปเชื่อคนที่รู้จักกันได้แค่ 2 ปี แบบนี้อยากให้ท่านคิดดีๆ

ทนายแก้ว ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล รองประธานคณะกรรมการเผยแพร่กฎหมายสภาทนายความ มีความเห็นว่า อยากให้ผู้เสียหายไปแจ้งความใครที่โดนคนเหล่านี้กระทำ เพราะมีความผิดหนักและมีหลายคดี ตอนที่แจ้งอยากให้แจ้งอย่างละเอียดเพื่อจะได้แจ้งหลายๆ กรรม และในกรณีที่ตัวจำเลยอาจจะไปยุ่งกับหลักฐานก็สามารถแจ้งคัดค้านการประกันตัวได้ ในเรื่องพ่อแม่ถ้าเกิดมีการไปชักจูงเชิญชวนให้ผู้อื่นเข้ามารักษาหรือแนะนำหมอสองคนนี้ถือว่ามีความผิดแต่ถ้าไม่ได้มีการแนะนำก็ไม่ได้มีโทษอะไร

ในความผิดของหมอสองคนนี้มีความผิดเป็นกรรมๆ ไปเรื่องการลวนลามคุกคาม นับเป็นกรรมๆ ตอนที่ไปแจ้งความถ้าเกิดจำไม่ได้ว่าเกิดเหตุวันไหนก็ให้นับประมาณการเอา การเปิดการรักษาแพทย์ทางเลือกไม่ผิดแต่ต้องขอดำเนินการให้ถูกกฎหมาย การที่ปล่อยให้เกิดความเข้าในผิดและการรักษาแบบผิดๆ นั้นมีความผิดอาจจะเข้าข่ายเจตนาฆ่า มีโทษจำคุก 4-20 ปี

โดยระหว่างรายการในช่วงออนไลน์ได้โฟนอินกับ โพธิ์ สามีผู้เสียชีวิต ได้เล่าว่า ได้รับการชักชวนให้รู้จักกับหมอสองคนนี้จากตายายของเด็กที่เคยรักษา ให้รู้จัก เลยตัดสินใจพาเมียไปรักษา ตอนแรกเหมือนจะดีขึ้น และหลงเชื่อกับผัวเมียคู่นี้ด้วย ที่บ้านไม่ได้รักษากับหมอสองคนนี้อย่างเดียวแต่ควบคู่ไปกับรักษาหมอปัจจุบันไปด้วย แต่พอรักษาครบ 3 เดือนไปแล้ว อาการหนักขึ้น จึงได้พาตัวส่งโรงพยาบาล ต่อมาก็เสียชีวิตในเดือน มิ.ย. การรักษาที่รู้มาคือเหมือนกับที่ผู้เสียหายคนอื่นโดนตัวเองไม่ได้รู้มาก่อนว่าการรักษาต้องถอดเสื้อผ้าทั้งหมดแล้วทำการรักษา ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้จะไม่ยอมให้ภรรยาไปทำ ตนพร้อมสู้เต็มที่พร้อมช่วยอยากให้หมอสองคนนี้ออกไปไกลๆ ติดคุกได้ยิ่งดี

ดร.ธนกฤต จิตรอารีน์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข มองว่าเรื่องนี้ผิดตั้งแต่ที่ไปหลอกผู้คนเรื่องที่รักษามะเร็ง ส่วนเรื่องของยาต้องนำไปตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนและการเปิดแบบทำการพื้นที่แพทย์ทางเลือกไม่ได้รับอนุญาตนั้นมีความผิดอยู่แล้ว เรื่องนี้อยากเตือนว่าผู้วิเศษนั้นไม่มีอยู่จริงอย่างไปเชื่อ และถ้าเกิดเหตุไปแล้วคนพวกนี้จะไม่สามารถเปิดทำการใหม่ได้ท่าทำอีกก็สามารถแจ้งเรื่องได้เลย และจะมีโทษจำคุกถึง 2 ปี

คุณอาจสนใจ

Related News