คลิปเต็มรายการ

‘พ่อค้าไก่ปิ้ง’ ลั่น ถึงเมาก็จำได้ ตำรวจกระทืบจนปอดฉีด ต้องไหว้ขอชีวิตกลางโรงพัก

โดย JitrarutP

2 ก.ค. 2567

196 views

วันนี้ 2 ก.ค. 2567 รายการโหนกระแส ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้จัดรายการในตอนเมียยันพ่อค้าไก่ปิ้งโดนตำรวจ กระทืบ ปอดฉีก ด้าน ตำรวจ สภ.หนองหิน จ.เลย ยืนยัน ผู้บาดเจ็บเดินชนโต๊ะ-ประตูเอง ทั้งนี้สืบเนื่องจากกรณีที่ มีผู้เสียหายร้องเรียนเข้ามาว่าสามีได้โดนตำรวจทำร้ายร่างกายจนเจ็บสาหัส ด้านตำรวจเล่าว่าไม่ได้ทำร้ายคนเจ็บชนโต๊ะ-ประตูเจ็บเอง โดยมีผู้ร่วมรายการประกอบด้วย คุณหนิง ภรรยาผู้บาดเจ็บ, คุณตุ่ม ผู้เห็นเหตุการณ์ และ ดร. มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล  รองประธานคณะกรรมการเผยแพร่กฎหมายสภาทนายความ

โดย หนิง ภรรยาผู้บาดเจ็บ เล่าว่า ลูกชายได้เล่าว่าวันที่โดนทำร้าย 28 มิ.ย. 2567 ลูกชายพาพ่อไปหาหมอพร้อมกับถามว่าตัวพ่อโดนอะไรมา ทางผู้เป็นพ่อจึงตอบว่าโดนตำรวจทำร้ายมาและเมื่อถึงโรงพยาบาลหนองหินแล้ว หมอบอกไม่รับและไล่กลับหลังจากตอบคำถามหมอว่าตัวเองโดนทำร้าย จนวันต่อมาคนเจ็บ มีอาการอึดอัดแน่นหน้าอกก็ได้พาไปหาหมอและตรวจพบว่ามีอาการปอดฉีกสาหัส ทำให้ต้องส่งตัวไปที่โรงพยาบาลเลย หลังจากที่ตัวเองรู้เรื่องที่สามีโดนตำรวจทำร้ายจากลูกชายก็รีบเดินทางมาหาก่อนจะไปพบตำรวจถามหาความจริง ก็ได้คำตอบว่า ตัวผู้บาดเจ็บล้มไปกระแทกกระจกบาดเจ็บเองและแผลที่ตัวนั้นโดนภรรยาทำร้าย แต่ทางภรรยากบอกว่าตัวเองไม่ได้ทำเพราะได้หนีสามีไปอยู่ที่อื่นตั้งแต่วันที่ 26 มิ.ย. 2567 แล้ว

ตุ่ม ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่าในวันนั้นได้ยินเสียงดังจากทางหน้าบ้านเลยได้ออกไปดู ก็เห็นตำรวจอยู่กับผู้บาดเจ็บและเสียงพูดคุยดังขึ้นว่าจะเอาตัวผู้บาดเจ็บไปที่โรงพักเพื่อเรียกค่าปรับ ในตอนที่พาตัวคนเจ็บขึ้นรถได้มีความรุนแรงขึ้น และตอนก่อนที่จะไปสภาพร่างกายของคนเจ็บยังปกติดี แต่ตอนที่กลับมาจาก สภ. แล้วร่างกายมีอาการบาดเจ็บสาหัส

ทางตำรวจได้ชี้แจงกับผู้สื่อข่าวว่า เอาจับตัวคนเจ็บมาที่สน. ตอนนั้นคนเจ็บมีอาการโวยวาย เมามากถามชื่อไม่รู้ มีด่าและมีการทำร้ายเจ้าหน้าที่ และมีการต่อสู้ทำร้ายร่างกาย จึงต้องมีการควบคุมตัวใส่กุญแจมือ แต่ก็มีการดิ้นต่อสู้ขึ้นอีกก่อนจะวิ่งไปฟาดกับประตูจนล้ม  ทางตำรวจอยากขอความเป็นธรรม และให้พิจารณาดูความจริง  

ทนายแก้ว ดร. มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล ถ้ามีการตั้งด่านต้องมีตำรวจสัญญาบัตรคอยดูอยู่บริเวณนั้น และต้องมีกล้องคอยเก็บภาพรายงานเพื่อเป็นเครื่องป้องกันทั้งตัวตำรวจและผู้ต้องหา แต่ในกรณีนี่จะเข้าการโดนอุ้มหาย ผู้ในที่ทำผิดจะมีโทษจำคุก5-20ปี มีโทษหนัก และไม่สามารถอ้างว่าไม่ได้ทำถ้าไม่มีหลักฐานชัดเจน พร้อมทั้งสามารถแจ้งความร้อง 157ได้

โดยระหว่างรายการ ได้โฟนอินกับ หมอหมู นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชียวชาญด้านนิติเวช มศว ได้ออกความเห็นว่า บาลแผลมีบนตัวผู้บาดเจ็บมีสองสีเกิดจากแผลเก่าและแผลใหม่ จากการไล่ดูบาดแผลรอบดวงตาดูยากเพราะเปลี่ยนสีเร็วแต่ไม่น่าล้มอาจจะโดนกระแทก โดยตรง แก้มซ้ายมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเกิดจากการวิ่งชนกับประตูได้ หรือการทุ่มลงพื้นก็เป็นไปได้เพราะมีรอยแดงที่อาจเกิดจากการกดที่หลัง และทรวงอกนั้นมีปื้นแดงมีความเป็นไปได้ว่าจะโดนกระแทกอย่างแรง จากรูปนั่นไม่ได้ชัดเจนว่าเป็นรอยอะไร เหมือนหลังเป็นรอยสามแนว อาจเกิดจากโดนของแข็งฟาด  ที่คาดว่าเกิดจากการถูกกระบองตี แต่ถ้าโดนรองเท้าจะต้องมีรอยให้เห็นได้


ในช่วงต่อออนไลน์ของรายการผู้บาดเจ็บได้โฟนอินชี้แจง เล่าว่า ตอนนี้ยังมีอาการบาดเจ็บอยู่ พร้อมยืนยันว่าตัวเองโดนทำร้ายจริงๆ โดยวันนั้น 28 มิ.ย. 2567 ได้มีตำรวจขับรถเข้ามาหาตนพร้อมแจ้งว่าจะพาไปที่โรงพักข้อหาเมาแล้วขับ แล้วได้เรียกกำลังเสริมที่ขับรถยนต์มาเพิ่มเพื่อพาตัวผู้บาดเจ็บไปโรงพัก และได้โดนกระทืบอก ใส่กุญแจมือ รุมต่อย และไม้ตีด้วยไม้ จากตำรวจ 4-5 คน แต่ไม่ได้เห็นหน้าเพราะในสถานีตำรวจปิดไฟไว้ ทำให้ไม่เห็นหน้าว่าใครทำบ้าง และตำรวจที่ทำร้ายตนนั้นก็มีการใส่หมวกปิดบังใบหน้าเอาไว้ด้วย


“ตำรวจพาปมไปในห้อง รุมต่อยเลย แล้วใส่กุญแจมือ ตอนนั้นมีตำรวจ 4-5 คน จำหน้าไม่ได้เพราะไฟไม่เปิด พูดว่ามึงจะเอายังไงๆ อีกคนบอกยิงมันเลยๆ ผมบอกอย่าทำผมเลย ของกระจัดกระจายหมด เขาต่อย ยันใส่ผมหมด ผมต่อสู้ เขากระทืบหน้าอก ไม้ตะบองตีแขน ตีหลัง น่าจะไม่ได้จับทุ่มพื้น ผมกลัวตายเหมือนคนหนีตาย ตอนนั้นประตูล็อก ผมหยุดวิ่ง  ผมเอาด้านข้างกระแทกประตูให้มันเปิด เบ้าตาซ้ายที่เป็นแผลน่าจะถูกรองเท้า เขาไม่ได้แจ้งว่าทำเพราะอะไร ผมก็ยกมือไหว้ ทำไมต้องทำผม ปล่อยผมไปเถอะ ตอนนั่งรถกลับบ้านเขาบอก หรือมึงจะเอาอีก”

เมื่อ หนุ่ม กรรชัย ถามว่า “ผู้กำกับแจ้งว่า คุณชนประตู รอยแผลเมียทำร้ายร่างกาย”

คนเจ็บจึงชี้แจงกลับว่า “เป็นไปไม่ได้ เมียผมไม่ได้อยู่ในช่วงเวลานั้น”

ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่าเรื่องที่หมอไล่ให้คนเจ็บกลับบ้านนั้นจะไม่ปล่อยให้ผ่านไปอย่างแน่นอน แต่จะขอตรวจสอบความชัดเจนให้แน่ชัดก่อน

คุณอาจสนใจ

Related News