ผู้เสียหายแฉทั้งน้ำตา โดนหลอกซื้อไม่รู้บ้านใคร ‘ป้าสวย’ แจงยิบไม่ได้หลอก สุดท้ายจนมุม

วันที่ 18 มิ.ย. 67 รายการโหนกระแสพูดคุยกับ กลุ่มผู้เสียหายที่รวมตัวแฉพฤติกรรมหญิงรายหนึ่งหลอกขายบ้านและที่ดิน พร้อมด้วย นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และ ทนายแก้ว ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล รองประธานคณะกรรมการเผยแพร่กฎหมายสภาทนายความ

กรณีกลุ่มผู้เสียหายรวมตัวแฉพฤติกรรมหญิงรายหนึ่งหลอกขายบ้านและที่ดิน ทำให้ได้บ้านทิพย์ โดยเอาที่ดินและบ้านของผู้อื่นมาหลอกขายว่าเป็นที่ดินและบ้านของตนเอง พบว่าผู้เสียหายหลายคนหลงเชื่อ ซื้อไปกว่า 20 หลัง มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท หลายคนหลงเชื่อเพราะมีเงื่อนไขดึงดูดคือ ซื้อบ้านจ่ายเงินตรงกับผู้ประกาศขายได้เลยโดยไม่ต้องผ่านธนาคาร บางรายเป็นติดเครดิตบูโร ไม่สามารถกู้เงินซื้อบ้านกับธนาคารได้

ป้าสุวรรณ หนึ่งในผู้เสียหายที่โดนหลอกซื้อบ้าน เผยในรายการโหนกระแสทั้งน้ำตาว่า เห็นการประกาศขายบ้านจากเพจเฟซบุ๊ก สนใจเพราะไม่ต้องผ่อนกับธนาคาร จอง 3,000 บาท ดาวน์ 30,000 บาท แต่ยังไม่มีเงิน “ป้าสวย” ผู้ที่ประกาศขายบ้าน ก็บอกว่ามีคนอื่นจะมาซื้อบ้านหลังดังกล่าวแล้ว ตนจึงตัดสินใจไปยืมเงินคนอื่นมาแล้วเอาเงินมาวางทั้งเงินดาวน์และเงินจอง ผ่อนมาเป็นปี ถึงมารู้ทีหลังว่าบ้านหลังนี้ไม่ใช่กรรมสิทธิ์ที่ดินของ ป้าสวย ที่ได้ทำการตกลงซื้อขายกัน

“สามีเราเป็นความดัน พอรู้ว่าพี่สวยโกงบ้านเขาก็เครียดจนเสียชีวิต เราส่งเงินทุกเดือน พี่ผิดสัญญา ไม่ใช่ว่าฉันผิดสัญญา กว่าฉันจะหาเงินมาได้ ไม่กินข้าวก็มี ทำไมไม่คิดถึงบ้าง ทำไมจะเอาแต่ของตัวเองคนเดียว บอกให้ฉันย้ายออกจะให้หาจากไหนเดือนหนึ่ง เป็นผู้หญิงเหมือนกันแก่เหมือนกัน ทำไมไม่เห็นใจกันบ้าง แล้วฉันจะไปหาบ้านที่ไหน  คิดบ้างไหม เห็นใจบ้างไหม ผิดสัญญาก็ต้องให้ฉันอยู่บ้านสิ มันสิทธิ์ของฉันที่ฉันอยู่” ผู้เสียหาย กล่าว...

โดยในช่วงต่อออนไลน์ของรายการ “ป้าสวย” ผู้ประกาศขายบ้านได้โฟนอินชี้แจงว่า เงินที่ได้มาจากการขายบ้านก็เอาเงินไปลงทุนสร้างบ้าน ก็ต้องหมุนเงินตรงนี้ แล้วคุณหยุดส่งกันหมดแล้วจะทำยังไง จนสุดท้ายบอกว่าจะหาเงินมาจ่ายให้จบภายในเดือนหน้า

ทำให้ “ป้าสุวรรณ” ผู้เสียหาย ตอบกลับทันทีว่า ตนไม่ได้อยากได้เงินคืน แต่อยากจะดำเนินคดี เพราะรู้มาว่ามีคนโดนหลอกขายบ้านแบบนี้มาหลายชุดแล้ว เมื่อได้เงินจากผู้เสียหายมาก็จะบีบให้ผู้เสียหายออกจากบ้านแล้วก็หาคนอื่นมาอยู่ใหม่

นอกจากนี้ ป้าสวย ยังพยายามชี้แจงว่าไม่ได้โกง ไม่ได้หลอกลวงใคร ที่ดินเป็นของนายทุน นายทุนเซ็นอนุญาตให้ตนปลูกสร้างบ้านเพื่อขาย ตนมีสิทธิ์ขาย แต่การที่กรรมสิทธิ์บ้านถูกโอนไปเป็นของคนอื่น เป็นเพราะเรื่องหนี้สินต่างๆ เงินที่ได้จากการซื้อขายบ้านก็นำไปหมุนเพื่อนำไปปลูกสร้างบ้านหลังใหม่

เมื่อ หนุ่ม กรรชัย ถามว่า แต่ตามกฎหมายผู้ที่มีสิทธิ์ขาย ต้องเป็นเจ้าของที่มีโฉนดที่ดิน

ป้าสวย จึงชี้แจงกลับว่า “คุณหนุ่มขา คนบ้านนอกการขายเราไม่มีเงินซื้อที่ดิน เราจำนอง ไปขอหนังสือเทศบาล แล้วให้เราเป็นคนขายบ้าน”

ซึ่งในกรณีนี้ ทนายแก้ว ได้ให้ความเห็นทางกฎหมายว่า พฤติกรรมของป้าสวยเป็นลักษณะของการฉ้อโกง หากมีผู้เสียหายไปร้องเรียนดำเนินคดี พฤติกรรมของป้าสวยหากยังไม่ยอมรับผิดก็เสี่ยงโดนโทษหนัก