คลิปเต็มรายการ

'พ่อแม่น้องนุ่น' ลั่นต้องประหาร 'ไอ้ทอย' 2 อาจารย์ ถาม ตำรวจมีไว้ทำไม ถ้าปชช.ต้องหาคลิป-หาศพเอง

โดย nattachat_c

22 ก.พ. 2567

224 views

วันที่ 22 ก.พ. 67 รายการโหนกระแสพูดคุยกับ แม่ของน้องนุ่น, พ่อของน้องนุ่น, น้องชายของน้องนุ่น พร้อมด้วย “บิว” พลเมืองดี, รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล รองอธิการบดีและประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยาฯ ม.รังสิต, ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อัยการอาวุโส สำนักงานการสอบสวน ถึงกรณี “ไอ้ทอย” ฆ่าโหดเผาอำพราง “น้องนุ่น” กุเรื่องสารพัดก่อนยอมจำนนคาหลักฐาน

----------------

แม่น้องนุ่น :

แม่ทราบข่าวว่า ‘น้องนุ่น’ หายไป เนื่องจากลูกชายโทรมา ก็ตกใจ เลยโทรไปหาอาเขา ว่าหายไปนานหรือยัง แม่สนิทกับนุ่น มีการพูดคุยปกติ ส่วนทอย แม่ไม่เคยเจอ ไม่เคยคุย ในวันที่ผูกข้อไม้ข้อมือ ทั้งทอยและนุ่นไม่ได้บอก คือแม่กับพ่อแยกกัน นุ่นเขาจัดที่อุบลราชธานีซึ่งเป็นทางบ้านพ่อ

แม่ได้คุยกับอาของนุ่น แล้วโทรหาทอยว่าน้องนุ่นหายไป ซึ่งทอยบอกว่าน้องหายไปหลังจากกินเลี้ยงกัน แล้วทะเลาะกัน ทอยบอกว่าทะเลาะกันในรถ แล้วเขาก็วิ่งรถที่ 50-60 กม.ต่อชม. ซึ่งน้องนุ่นจะกระโดดลงรถ เขาเลยรีบจอด แล้วนุ่นก็ขึ้นรถแท็กซี่

แม่ถามว่าทำไมไม่ตามน้องนุ่น ทอยบอกว่าหาแล้วไม่เจอ หลังจากนั้นก็โทรหาอีกทีว่าทอยโทรแจ้งเราไหม อาบอกว่าทอยไม่ได้โทรแจ้ง

แม่ได้เจอกับทอย เพราะว่าได้ยินมาจากเพื่อนของนุ่นมาอีกทีหนึ่ง แม่เลยขอเฟซบุ๊กของเพื่อนของน้องนุ่นแล้วคุยกัน จึงไป สภ.ปากเกร็ด ก็ได้เจอทอย เขาบอกว่าไปหาหมดแล้ว ติดต่อเพื่อนแล้ว แต่ไม่เจอ ทอยบอกว่าทำใจนะแม่ 50-50 นะแม่ ซึ่งผิดวิสัยมาก

แม่ก็อยากเข้าไปน้องนุ่น อยากเห็นว่าอยู่ยังไง ก็ไปด้วยกันกับไอ้ทอย และไปพร้อมแดน เขามีพิรุจตรงที่เขาออกไปก่อน ไม่รอแม่

ทอยบอกว่าน้องนุ่นวิ่งขึ้นรถแท็กซี่แต่งตัวโป๊ใส่เงินใส่ทอง วันที่ 19 เข้าวันที่ 20 แม่ได้คุยกับทอย เพราะทอยมาขอเป็นเพื่อน แล้วก็แชทกัน คือตอนนั้นแม่สงสัยทอยแล้ว อยากเอาลูกออกมา เลยบอกทอยว่าให้เอาลูกของน้องนุ่นออกมาก่อน แม่สงสัยเพราะว่าเรื่องที่ได้คุยกับทอย ไม่ตรงกับอากับเพื่อนเลย แล้วระหว่างหายไป มันนานมากทำไมไม่รีบแจ้งเพื่อนๆ ไม่แจ้งญาติพี่น้อง มาแจ้งตอนหกโมงเย็นของวันถัดมา

พร้อมเผยด้วยว่า น้องนุ่นหายไป 17 เข้า 18 ประมาณตีสาม ซึ่ง 18.50 น. แม่ถึงมารู้วันที่ 18 ตอนสี่ทุ่มห้าสิบ อาของนุ่นโทรมาบอกน้องชาย ทอยแจ้งความเช้าวันที่ 19 เพื่อนๆ ช่วยกันแชร์ในวันที่ 19 แล้วทอยก็เริ่มให้ข่าว แม่ไปเจอทอยวันที่ 19

ตอนที่ทอยแจ้งความ แม่ซักถามเหมือนกับตำรวจเลย เพราะทอยบอกว่าเขาเป็นฝ่ายตามง้อตลอด เขาเปิดมือถือให้ดูแบบผ่านๆ ว่าบริสุทธิ์ใจ คือแม่รู้สึกว่าทอยเล่นละครว่าตัวเองเป็นคนดี

แม่ขอทอยไปบ้านวันนั้นเลย บอกว่าตรงๆว่า อยากไปดูความเป็นอยู่ของนุ่น พอแม่ไปถึง ก่อนถึงบ้าน เขาชี้ให้ดูทุกจุดเลยว่านุ่นทำอะไรบ้าง ตรงนี้มีโค้ง ตรงนี้มีน้ำ จนแม่เข้าไปในบ้าน แม่รู้ว่าเขาปิดบังอะไรกับเราแน่ๆ แม่สังเกตตรงข้างบันได้ว่ามีกล่องอันหนึ่ง แล้วมีไม้หน้าสามเสียบไว้ แล้วมีพลาสติกบับเบิ้ลพันไว้ เขานำหน้าขึ้นไปดูห้องนอน ห้องน้ำ เราก็พูดคล้อยตามทอยไปเรื่อยๆ

ตอนแม่ไปหาตำรวจ ตำรวจบอกว่าจะออกหนังสือให้ แล้วเอาหนังสือไปยื่นเพื่อขอดูกล้องเอง แม่ก็ไปตามหา นัดไปกับน้อง ว่าจะไปดูพรุ่งนี้เช้า ไปดูร้านติดฟิล์มรถ เขาให้ความร่วมมือดีมาก ก็เจอพอดี หนูเห็นแล้วชัดเลย หนูจำลูกได้ หนูให้แม่อัดคลิปให้ เพราะแม่ไม่กล้าดูเลย แม่ได้คลิปกล้องวงจรปิดมาก่อนตำรวจ แล้วเอาให้ตำรวจดู ตำรวจบอกว่าเอาผิดได้แล้ว

ตอนนี้ แม่อยากรู้ว่านุ่นทำอะไรให้ ทำไมถึงทำกับนุ่นแบบนี้ มาเล่นละครตั้งนาน แม่คิดในใจตั้งนานแล้วว่าจีพีเอสที่ให้มาคือเขาเอาลูกไปทิ้ง ถ้านุ่นวิ่งหนีขึ้นแท็กซี่ ยังไงแท็กซี่ก็ต้องมีความเมตตา ให้ความช่วยเหลือ น้องบิวเต็มร้อยมาก เข้าไป สภ.ด้วยกันเลย ตอนที่หนูไปดูกล้อง เจ้าของร้านฟิล์มเขาบอกว่าไม่ต้องโชว์หนังสือหรอก เชิญดูเลย

แม่อยากให้ลงโทษที่สูงที่สุด หรือประหารไปเลย คือฆ่าลูกเรา มันเทียบกับอะไรไม่ได้เลย เรื่องการด่าพ่อ มันแย่มาก ในร่างกายทอยเหมือนไม่ใช่มนุษย์ ทำร้ายนุ่น ฆ่านุ่น

น้องนุ่นรักปู่ย่ามาก มีบางครั้งปู่ย่ามาหา เขาก็บอกว่าจะกลับบ้านไม่ได้ บางครั้งก็บอกแม่ว่าจะกลับบ้านบ่อยนะ กลับไปหาปู่ย่า

นุ่นหาเงินเองตั้งแต่เด็ก อะไรที่อยากได้ก็ทำงานเก็บเงิน เขาไม่เคยบอกเลยว่าไอ้ทอยทำอะไร นุ่นโพสต์แต่ความสุข ครอบครัวน่ารัก เราเห็นก็ดีใจที่นุ่นมีความสุข เราก็ไม่อยากไปยุ่ง ดูห่างๆ

มีพี่คนหนึ่งบอกหนูที่ สน. เอาทอยมาสอบสวน มีพี่ทีมงานบอกว่าพี่หนุ่มโทรหานะ เลขสวยๆ หนูเลยคิดว่าถ้ามีเวลาจะโทร เมื่อวานหนูอยู่ห้องทั้งวัน หนูเลยหาเบอร์สวยในมือถือ แล้วสุ่มดู มันไม่มีอะไรเสียหายหรอก หนูไม่บอกอะไรเลย บอกว่าอยากคุยกับพี่หนุ่ม นุ่นโทรมาบอกว่าท้อง แม่ก็ดีใจกับเขา

แม่อยากบอกว่า ไม่ต้องห่วงข้างหลัง และ ขอขอบคุณเพื่อนๆ น้องบิว นักข่าว สื่อมวลชน ที่ช่วยกัน ทำให้เรื่องนี้คลี่คลาย

-------------

แดน (น้องชายของนุ่น) :

ผมไม่เคยคุยกับทอยเลย เคยเจอแค่การประชุมผู้ปกครอง

ตอนเจอทอย คือสงสัยมาก คิดแบบที่แม่คิด สงสัยประเด็น 50-50 และ เรื่องกล้องหน้ารถ ทอยบอกว่าไม่มีกล้องหน้ารถ ซึ่งผมคิดว่าคนขับรถทุกคนควรมี ตอนไปแจ้งความครั้งแรก ตำรวจบอกว่าเป็นเรื่องของคนสองคน

สุดท้าย อยากบอกพี่นุ่นว่าไม่ต้องห่วง จะดูแลให้ดีที่สุด

-------------

รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล รองอธิการบดีและประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยาฯ ม.รังสิต :

คำว่า 50-50 เป็นเรื่องผิดปกติ ไม่ควรพูดกับคุณแม่

เรื่องสั่งกระเป๋ามาก่อนเกิดเรื่อง 2 วัน มีความเป็นไปได้เรื่องการวางแผน แล้วถ้าเราดูคลิปจะเห็นว่าทอยรีบเดินไปที่รถ ทิ้งนุ่นกับลูก คือเขาอาจคิดว่ากระเป๋านี้อาจไว้ทำอะไรได้ตอนเกิดเหตุต่างๆ

ผมมองเรื่องตำรวจให้ไปดูกล้องเองเป็นเรื่องที่น่าสลด มันเป็นหน้าที่ตำรวจ เราจะมีตำรวจไว้ทำไมล่ะครับ ผมอยากเรียน ผบ.ตร. เรื่องการปรับปรุงการทำงาน

ผมอยากบอกว่า 'น้องบิว' เป็นพลเมืองดี เจ้าของกล้องด้วยที่เปิดกล้องให้เพราะมีจิตสำนึกที่อยากเป็นพลเมืองดี ผมอยากถามว่า ‘เรื่องนี้ใครมีจิตสำนึกบ้าง?’

การที่ทอยด่าพ่อน่าจะเพราะการบอกให้เลิกกัน

ผมคิดนะ เรื่องโทษประหารควรเป็นไปตามกรณี เพราะมันมีคำถามในสังคมไทยว่าไทยยังควรมีโทษประหารมั้ย

ทั้งนี้ การที่ทอยส่งข้อมูลแบบพิกัด ทำให้นักข่าวเอาไปเสิร์ชได้ แล้วพบพิกัด คือนักข่าวเก่งมาก

ตอนนี้ สังคมเริ่มตั้งคำถามเรื่อง ทอยเป็นคนยังไง ซึ่งเราก็ต้องดูว่าทอยเป็นพวกเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง ไม่สนคนรอบข้าง หรือ คนวิปริตจิตฟั่นเฟือน

สุดท้าย ผมอยากบอกว่า ต้องให้ทาง สตช.ช่วยสำรวจว่า ตำรวจขาดอะไรไป

-------------

อ.ปรเมศวร์ :

เรื่องสั่งกระเป๋ามาก่อนเกิดเรื่อง 2 วัน โทษสุดท้ายคือประหารชีวิต เพราะไม่มีการสำนึกผิดด้วยตัวเอง มีการโกหก และปกปิดตลอดเวลา

ผมว่าตำรวจตั้งขาดไปหนึ่งข้อหา คือการฆ่าโดยการกระทำทารุณโหดร้าย ถ้าไม่โหดร้ายคือยิงแล้วตาย ซึ่งโทษอย่างเดียวคือประหารชีวิต

แล้วผมผิดหวังกับตำรวจมากนะ ที่ให้ไปหาคลิปเอง แล้วยังมีคดีย่าแจ้งความเรื่องหลาน ที่นครศรีธรรมราช ตำรวจบอกต้องให้พ่อแม่มาเอง

ความจริงสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องให้รางวัลบิวด้วย เพราะเป็นพลเมืองดี

การทำร้ายร่างกายนุ่นตรงข้างถนนคือคดีหนึ่งแล้วนะ แยกออกจากการฆ่า ตอนนี้ต้องมีข้อหา ทรมานร่างกาย, อำพรางศพ, แจ้งความเท็จ, ทำร้ายร่างกาย, ฆ่าคนโดยเจตนา

ส่วนเรื่องลดโทษความผิดให้น้อยลง ผมว่าไม่น่าจะได้ เพราะทอยไม่ได้มีความสำนึกผิด บอกแค่ว่าฉุนขาด บอกแบบนี้มันเลอะเทอะ แล้วยิ่งไปดูประวัติ มีการซ้อมน้องนุ่นหน้าลิฟต์

ผมเชื่อว่าน้องนุ่นเป็นคนดี พอรู้ว่าท้องก็กลับไปหาทอย ผมแนะนำให้พ่อกับแม่ไปพบอัยการจังหวัดนนทบุรี แต่ต้องรอให้ตำรวจสรุปสำนวนก่อน ตอนนี้ ผมสงสัยว่า นี่เรามีตำรวจไปทำไม ประชาชนทำเองหมดทั้งหาคลิป หาศพ

นี่ตำรวจต้องสอบเรื่องการสั่งซื้อกระเป๋าด้วยนะ ว่าสั่งซื้อมาทำไม แล้วต้องอย่าลืมด้วยว่าไอ้นี่มันโกหกเก่ง คดีฆาตกรรมมันละเอียดอ่อนต้องสอบให้ละเอียด

ที่ตำรวจบอกว่าทอยสำนึกผิดด้วยตัวเอง ผมไม่เชื่อหรอก

นุ่นรักลูกนะ พอรู้ว่าท้องก็กลับไปหา

สุดท้าย ขอฝาก สภ.ปากเกร็ดเลย แก้ตัวได้ไหม ไปสืบมาว่ากระเป๋ามายังไง และอยากบอกอีกครั้งว่า สตช.ต้องให้รางวัลบิว ถ้า สตช.ไม่ให้ ก็ขอให้มูลนิธิต่างๆ ให้รางวัล

-------------

บิว (พลเมืองดี ผู้เห็นเหตุการณ์) :

คืนวันที่ 20 ประมาณตี 3-4 ก็ได้ติดต่อแม่ เพราะผมมาเริ่มติดต่อตอนได้ดูข่าว แล้วสามารถติดต่อเพื่อนน้องนุ่นได้ตอนประมาณ 4-5 ทุ่ม ผมไปหาตำรวจ บอกตำรวจว่าผมเห็นเหตุการณ์ ซึ่งไม่ตรงกับที่ทอยบอกนักข่าว (เรื่องไทม์ไลน์การหายไปของนุ่น)

แต่ตำรวจบอกว่า นั่นคือทอยที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เท่ากับเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตำรวจ และไม่เกี่ยวกับผม

แถมตำรวจบอกผมว่าเป็นเรื่องของผัวเมีย ไม่ใช่เรื่องของผม ซึ่งการที่ผมไป สภ. จุดประสงค์ของผมคือ แค่อยากให้ตำรวจไปดูจุดที่ผมเห็น ไปดูกล้องแถวนั้น แต่เขาบอกว่าให้ไปดูเอง แล้วออกใบให้แม่

ตอนที่ผมดูข่าว 2 ทุ่ม ผมพยายามทุกอย่างติดต่อเพื่อนนุ่น แต่ก็ติดต่อไม่ได้เลยยัน 5 ทุ่ม ผมคิดในใจบอกว่าน้อง ถ้าน้องอยากให้พี่บอกเรื่องราว ช่วยพี่ให้เจอเพื่อนนุ่นหน่อย ซักพักไถเฟซฯ เจอเพื่อนนุ่นเลย ผมไม่ได้อยากเป็นพลเมืองดี ผมแค่ไม่อยากปล่อยผ่านไป ผมเห็นหน้าแม่กับน้อง ผมสงสารเขา ผมเลยคิดว่าจะช่วยให้เต็มที่

-------------

พ่อน้องนุ่น :

พ่อไม่ได้ติดตามข่าวเลย คลิปก็ไม่กล้าดู สงสารลูก พ่อรู้จักจากการคบกัน มีคลิปที่ตบลูก นุ่นโทรหา ผมขี่ จยย.จากพัทยามาเฝ้าลูก แล้วทอยก็หนี เพราะผมมา ไม่รู้ว่ากลัวผมเอาคืนหรือเปล่า บอกเลยว่า ถ้าผมเจอผมเปิดแน่นอน

ผมบอกนุ่นให้ย้ายที่อยู่ แล้วนุ่นก็ย้าย ช่วงนั้น นุ่นกับทอยเลิกกัน พ่อก็ดีใจสบายใจละ มีการถามไถ่เรื่อยๆ พ่อกลัวทอยมันจะตามนุ่น ผมไม่ชอบทอยตั้งแต่แรกละ ดูจากสีหน้า ท่าทาง การพูดการจา ไม่ค่อยให้การเคารพพ่อ มีการด่าผมในเฟซบุ๊ก ไอ้เหี้ย ไอ้สัตว์ ไอ้สัตว์นรก เพราะน่าจะมีความแค้นที่ผมบอกนุ่นให้เลิกกับมัน ทอยด่าพ่อในคอมเมนต์ของรูปคนอื่นด้วย ทอยมาเมนต์ในเฟซบุ๊กของแฟนใหม่ผม ด่าเสียๆ หายๆ แล้วใช้เฟซของนุ่นมาด่าด้วย ซึ่งเรื่องนี้พ่อไม่เคยบอกเรื่องนี้กับนุ่น

นุ่นกับทอยมีการผู้ข้อไม้ข้อมือ แต่งานไม่ได้ใหญ่ มีแค่ผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย

ที่ถูกด่าคือหลังแต่งงานแล้ว แต่ต่อหน้าไม่กล้าด่าพ่อแน่

พ่ออยากให้ทำพิธีศพที่บ้านเกิด เพราะเกิดที่นั่น พ่อก็อยากทำให้ดีๆ เพราะชีวิตเค้าน่าสงสาร พ่อแม่เลิกกันตั้งแต่เด็ก ผมเลี้ยงลูกมาไม่เคยดีสักครั้งเดียว เป็นลูกคนแรกของผม เป็นหลานคนแรกด้วย ย่าไม่กล้าตีนุ่นสักครั้งเดียว ตอนนี้ คนในหมู่บ้านก็โกรธแค้นไอ้ทอยมาก

ทุกวันนี้ ผมนี่ไม่กล้าดูอะไรเลย พ่อเห็นคลิปทำร้ายหน้าลิฟต์ พ่อถามนุ่น นุ่นบอกอยากเลิก ก็เลิกกันสักพักใหญ่ๆ แต่อยู่ๆก็มาคืนดีกัน ย่าก็ถามแน่ใจหรอ นุ่นบอกไม่เป็นไรเชื่อใจได้

สุดท้าย ผมอยากให้มีสายตรวจ ขี่ จยย.ตรวจตรา ทุกช่วงเวลา

-------------

คุณอาจสนใจ

Related News