‘เรวัช’ เปิดพิรุธ มือฆ่าหนุ่มโรงงานทิ้งศพข้างมอเตอร์เวย์ ‘เมีย’ เชื่อฆาตกรสวมรอยทักแชทบอกเลิก

ตามล่าฆาตกร สังหารหนุ่มโรงงานทิ้งศพข้างมอเตอร์เวย์ เมียไม่เชื่อสามีแชตมาบอกเลิก คาดเป็นฆาตกรสวมรอยพิมพ์

จากกรณีพบศพชาย อายุ 33 ปี ถูกมัดมือและเท้า มีบาดแผลกลางหัว โยนร่างทิ้งข้างทางเลียบมอเตอร์เวย์ ขาเข้า กทม. ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ภรรยาของผู้ตายบอกว่า สามีออกจากบ้านตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค. ไปทำงานและได้หายตัวไปพร้อมรถจักรยานยนต์ ต่อมาพบเป็นศพอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ

พร ภรรยาของใหม่ ผู้ตาย กล่าวว่า สามีออกไปทำงานกะดึกตามปกติ เขาออกไปตอนเวลา 22.06 น. เรารู้เวลาที่แน่นอน เพราะเราตื่นมาเข้าห้องน้ำ เขาจะมาหอมแก้ม มาบอกเราก่อนออกไปทำงานทุกครั้ง วันนั้นก็ขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปทำงานตามปกติ โดยต้องเอารถจักรยานยนต์ไปจอด แล้วขึ้นรถบัสของโรงงานไปทำงาน

ต่อมา ช่วงกลางดึกเกิดน้อยใจอะไรหรือเปล่า หรือโกรธเรื่องอะไร แต่ไม่มีการตอบรับ และเมื่อโทรศัพท์ไปหา ก็ติดต่อไม่ได้ แต่จากนั้นไม่นานเวลาประมาณตี 3 ของวันที่ 28 มกราคม ใหม่พิมพ์ไลน์กลับมาหาพร มีเรื่องจะบอก อ้างว่าไปทำผู้หญิงท้องและต้องการเลิกรากัน จากนั้นก็หายเงียบไป

พรพยายามส่งข้อความไปหาใหม่ บอกให้เขากลับมาคุยกันที่บ้าน หรือไม่ก็รับโทรศัพท์หน่อย มาคุยกัน เคลียร์กัน ถ้าเขาบอกว่าเขามีคนอื่นแล้วจริงๆ ก็อยากให้มาเคลียร์กัน ตอนนั้นนอนไม่หลับอีกเลย

เมื่อโทรไปถามเพื่อนร่วมงานของใหม่ ปกติใหม่จะไปจอดรถจักรยานยนต์เพื่อขึ้นรถบัสของโรงงานไปทำงาน แต่เพื่อนร่วมงานของใหม่ ชื่อ “นิก” บอกว่า ใหม่ไม่ได้มาขึ้นรถไปทำงาน

นอกจากนี้ยังมีความผิดปกติในเฟซบุ๊ก เมื่อเวลา 22.00 น. ของวันที่ 27 มกราคม 2567 ใหม่เปลี่ยนรูปโปรไฟล์เฟซบุ๊กเป็นสีดำ และมีข้อความปิดปรับปรุง นอกจากนี้ยังเปลี่ยนสีแชตในแอปเฟซบุ๊ก ที่คุยกับพร จากเดิมสีชมพู กลายเป็นสีน้ำเงิน ทั้งยังส่งข้อความมาบอกพรในตอนตี 5 บอกว่า ไม่ต้องตามหาใหม่ เพราะใหม่ไปต่างจังหวัด ทำให้พรปักใจเชื่อว่า คนที่พิมพ์ข้อความมาคุยกับพร ไม่ใช่ใหม่ น่าจะเป็นคนอื่น

หลังจากนั้นก็มาพบศพใหม่ ที่เลียบมอเตอร์เวย์ ในที่พบศพ ไม่พบรถจักรยานยนต์ของใหม่ และไม่พบโทรศัพท์ของใหม่ และกระเป๋าสตางค์ของใหม่ ซึ่งน่าจะมีเงินไม่ถึง 500 บาท  สภาพศพอืดแล้ว มีรอยกระสุนที่กลางศีรษะ ทะลุท้ายทอย เป็นรูขนาดใหญ่ขนาดนิ้วก้อยแหย่ลงไปได้ โดยข้อมูลเรื่องรอยกระสุนเป็นข้อมูลจากตำรวจ ตัวพรเองไม่ได้เห็นศพ

ขณะที่ พล.ต.ท.เรวัช กล่าวว่า วิเคราะห์จากเหตุการณ์ทั้งหมด คาดว่าคนก่อเหตุเป็นคนที่อายุไม่เยอะ เพราะถ้าเป็นคนอายุเยอะแล้ว คงไม่มานั่งตอบแชตภรรยาผู้ตายแน่นอน และถ้าเป็นเรื่องขัดแย้งทั่วไป คงไม่ก่อเหตุแบบนี้ น่าจะขี่รถตามประกบยิงตามปกติ แต่นี่เป็นการล็อกตัว หิ้วตัวไปฆาตกรรม อาจจะเป็นฝีมือของคนที่รู้จัก เรื่องนี้เจ้าหน้าที่สืบสวน จะสงสัยทุกคนที่เกี่ยวข้อง แล้วไปขยายผลตามประเด็นต่างๆ มั่นใจว่าตามจับได้ 100 เปอร์เซ็นต์

ขณะที่คำบอกเล่าของกู้ภัย เล่าถึงลักษณะของตอนที่ไปพบศพในวันที่ 29 ม.ค. หรือ 2 วันให้หลัง หลังจากที่ใหม่หายไปจากบ้าน เผยถึงรอยแผลกระสุนที่ทะลุออกท้ายทอย พอจะคาดเดาขนาดกระสุน รวมทั้งเชือกที่ใช้มัดมือมัดเท้า มัดศีรษะ ซึ่ง พล.ต.ท.เรวัชบอกว่า สามารถจะเอามาเชื่อมโยงไปถึงคนก่อเหตุได้ แม้แต่คดีน้องชมพู่ ผมเส้นเดียวก็สืบต่อไปจนเจอความเชื่อมโยงได้สบายๆ

ขณะที่กู้ภัยบอกอีกว่า วันที่ไปพบศพ หญ้าข้างทางยังปกติทุกอย่าง แต่พอล่าสุดวันนี้ ตรงจุดที่พบศพ พบว่าไฟไหม้หญ้าจนไหม้เป็นทางยาว ซึ่งทาง พล.ต.ท.เรวัช กล่าวว่า เป็นไปได้หลายอย่าง จะบอกว่าเป็นเหตุบังเอิญ เกิดจากการทิ้งขี้บุหรี่ก็เป็นไปได้ หรือคนร้ายไปเผาทำลายหลักฐาน แต่หลักฐานมันถูกเก็บไปหมดแล้ว ก็คงไม่ได้ประโยชน์อะไร หรือเป็นไปได้ว่ามีพวกงมงายไปตามหาเลข หาหวย จุดธูปจุดอะไรแล้วทำไฟไหม้ก็เป็นไปได้

ขณะที่ พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า จากข้อมูลที่สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด หลักฐานต่างๆ กล้องวงจรปิดที่ได้มา เชื่อได้ว่าเป็นการฆาตกรรมจากที่อื่น แล้วนำศพมาทิ้งที่นี่ ซึ่งทาง พล.ต.ต.นเรวิช รับปากกับ พล.ต.ท.เรวัชว่า คดีนี้ดำเนินไปได้เกิน 50 เปอร์เซ็นต์แล้ว และมั่นใจว่าจับกุมผู้ก่อเหตุได้แน่นอน