เปิดใจ ‘จ่าอาร์ท’ ยันไม่เกี่ยวโยกย้ายตำแหน่ง คุยกันเรียบร้อยแล้ว ไม่เชื่อ ‘กำนันนก’ สั่งยิง ตร.ทางหลวง

เปิดแผนผังตำรวจนั่งร่วมโต๊ะกำนันนก คำให้การ 1 ในตำรวจเผย พันตำรวจโท วศิน รองผู้กำกับทางหลวง และสารวัตรสิว ถูกโทรตามมาทีหลัง หวังคุยตำแหน่งโยกย้าย ด้านจ่าอาร์ท หลานเขยกำนันนก ยืนยัน เหตุยิงกันไม่ได้เกิดขึ้นจากเรื่องขอตำแหน่งเพราะคุยกันเรียบร้อยแล้ว เชื่อกำนันนก ไม่ได้เป็นคนสั่งยิงสารวัตรศิวกร

วานนี้ (วันที่ 8 ก.ย.) ทีมข่าวรายงานว่าแผนผังที่นั่งในวันเกิดเหตุ จะเห็นว่าในงานมีตำรวจมากกว่า 20 คน และจุดที่เกิดเหตุคือบริเวณโต๊ะกลมใกล้เวที ที่มีตำรวจนั่งอยู่ถึง 7 คน แต่คนร้ายยังกล้าลงมือ


โต๊ะกลมที่เกิดเหตุ ตั้งอยู่ฝั่งขวาของเวที มีนายตำรวจนั่งอยู่ 7 คน คือ สารวัตรสิว ผู้ตาย นั่งหันหลังให้เวที พันตำรวจโท วศิน ที่โดนลูกหลงนั่งซ้ายมือผู้ตาย  ถัดมาเป็น พันตำรวจเอก วชิรา ยาวไทยสง ผู้กำกับการ2 ตำรวจทางหลวง  พันตำรวจเอก ภาณุทัต เหลืองสัจจกุล ผู้กำกับการ กองบังคับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม พันตำรวจเอก กฤษฎาพร จงอักษร ผู้กำกับการ สน.พญาไท  ดาบตำรวจ ชนาณัฐ วุฒิยากร ผู้บังคับหมู่ ตำรวจทางหลวง และ พันตำรวจตรี ณรงค์ พิทักษ์ฉนวน สารวัตรฝ่ายอำนวยการ กองกำกับการ 2 ตำรวจทางหลวง  โดยมี จ่าสิบตำรวจพิสิฐ ชิวปรีชา ผู้บังคับหมู่สายตรวจทางหลวง 1 ซึ่งเป็นหลายของกำนันนก และจ่าสิบตำรวจ เมทิศกร พันศ์สีจันทร์ ทำหน้าที่ชกเครื่องดื่มให้


ส่วนโต๊ะที่ 2 ฝั่งซ้ายของเวที มีกำนันนก นั่งหัวโต๊ะ และมีตำรวจระดับสารวัตร 2 คน และชั้นประทวนนั่งอยู่ มีทั้งจากตำรวจทางหลวง  สภ.กำแพงแสน  บก.ปทส. สภ.บ้านเผือก  รวมทั้ง 2 โต๊ะมีตำรวจมากถึง 20 นาย เป็นนายตำรวจระดับผู้กำกับ 3 นาย  รองผู้กำกับ 1 นาย  สารวัตร 4 นาย  ตำรวจระดับผู้กองและชั้นประทวนอีก 12 นาย



ตามคำให้การของ 1 ใน พยานที่อยู่ในจุดเกิดเหตุ และนั่งร่วมโต๊ะกับ สารวัตรสิว ให้การกับพนักงานสอบสวนว่า วันเกิดเหตุกำนันนกได้นัดหมายกลุ่มนายตำรวจไปกินข้าวที่สำนักงานที่ตำบลตาก้อง อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม เพื่อกระชับความสัมพันธ์ โดยเริ่มกินกันตั้งแต่ 2 ทุ่ม แต่สารวัตรสิวไม่ได้ไปด้วย มีเพียงผู้กำกับการทางหลวงที่ไปร่วมงาน


คาดว่ากำนันนกน่าจะร้องขอให้ผู้กำกับช่วยเรื่องโยกย้ายจ่าพิสิฐ หลานของกำนัน จากสายตรวจรถยนต์มาเป็นสายตรวจรถจักรยานยนต์ แต่ผู้กำกับการอ้างว่า ไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ เพราะเป็นอำนาจของสารวัตรตำรวจทางหลวง จึงโทรศัพท์ไปตาม พันตำรวจโท วศิน รองผู้กำกับทางหลวง และสารวัตรสิว มาร่วมงาน พร้อมแนะนำตัวให้สารวัตรสิว รู้จักกับกำนันนก และมีการเจรจากันเรื่องโยกย้าย แต่สารวัตรก็ปฏิเสธไป บอกต้องรอให้ตำรวจเกษียณก่อน พอมีตำแหน่งว่างค่อยขยับ ทำให้กำนันนกไม่พอใจคล้ายเสียหน้า และพูดขึ้นมา "ขอมันคนเดียว มันเป็นหลานผม" แต่สารวัตรยังปฏิเสธ


จากนั้นกำนันนก ท้าสารวัตรสิวดื่มเหล้าเพียว แต่ปรากฏว่า กำนันแพ้ จึงตบโต๊ะแล้วลุกเดินออกจากโต๊ะกลมไปนั่งที่โต๊ะยาว ซึ่งมีนายหน่อง มือปืน นั่งอยู่ ก่อนที่จ่าพิสิฐหลานของกำนันนก และสารวัตรสิวจะเดินไปขอโทษกำนัน แต่กำนันไล่ให้ทั้งคู่กลับบ้านไป ไม่งั้นเลือดจะเปื้อนหน้า สารวัตรสิวจึงเดินกลับมานั่งที่โต๊ะเดิม ขณะที่จ่าพิสิฐนั่งคุยกับกำนันต่ออีกหน่อยแล้วเดินทางกลับทันที ไม่ถึง 5 นาที หลังจากนั้น มือปืนเดินไปประกบสารวัตรสิว ก่อนถามกำนันนกว่า ใช่คนนี้หรือไม่ เมื่อกำนันนกพยักหน้า หน่องจึงจะลั่นไกใส่ไป 7 นัด ทำให้สารวัตรสิวบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา


แต่ที่น่าคาใจ คือ ในงานมีตำรวจถึง 20 นาย แต่กลับไม่มีใครจับคนร้ายตอนก่อเหตุเลย ที่สำคัญยังปล่อยให้มีการทำลายหลักฐานที่เกิดเหตุ ทั้งเก็บปลอกกระสุน ล้างคราบเลือด รวมถึงทำลายเซิร์ฟเวอร์วงจรปิด หากเปรียบเทียบภาพกลางคืนที่ พฐ.เข้าตรวจสอบจะเห็นว่า หน้าที่เกิดเหตุไม่มีโต๊ะจีนแล้ว แต่เมื่อวานช่วงกลางวันกลับมีโต๊ะจีนมาตั้งวางใหม่ คล้ายจำลองเหตุการณ์ นั่นหมายความว่าหลักฐานถูกทำลายไปแล้วหรือไม่

--------------------------------------

ส่วนกรณี มีรายงานว่า พ.ต.ต.ศิวกร ไม่ได้ไปงานร่วมเลี้ยงตั้งแต่แรก แต่มีผู้ใหญ่โทรสั่งว่าต้องไปให้ได้ จนเกิดเป็นการเจรจาโยกย้าย จนเป็นฉนวนทำให้ สารวัตรแบงก์ถูกยิงนั้น  ทีมข่าวได้คุยกับ พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์  ผกก.2 บก.ทล. เจ้าตัวปฏิเสธชัดเจนเลยว่า “โอ้ว ไม่ใช่ ไม่มีหรอก”


เมื่อถามย้ำว่ามีรายงานว่า พ.ต.อ.วชิรา  เป็นคนโทรตาม พ.ต.ต.ศิวกร (ผู้เสียชีวิต) เอง พ.ต.อ.วชิรา ย้ำว่า “ไม่ได้โทร ผมไป เขาเลยไปด้วย”

เมื่อถามย้ำว่าหมายความว่าตัว พ.ต.ต.ศิวกร ไปงานเลี้ยงพร้อมกันกับ พ.ต.อ.วชิรา ตั้งแต่แรกเลยใช่หรือไม่ พ.ต.อ.วชิรา ระบุว่า มาเจอกันที่งาน


เมื่อถามย้ำว่า พ.ต.ต.ศิวกร ถูกเชิญไปร่วมงานตั้งแต่แรกเลยใช่หรือไม่ พ.ต.อ.วชิรา กล่าวว่า  “เขาเห็นผมไป ก็เลยมาด้วย”

เมื่อถามอีกว่าย้ำว่าเป็นการเรียกไปเพื่อคุยการเจรจาโยกย้ายข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พ.ต.อ.วชิรา บอกว่า “ไม่ขนาดนั้นหรอก ก็คุยกันปกติธรรมดา”


ส่วนกระแสข่าวเจรจาเรื่องส่วยรถบรรทุก แต่ไม่ลงตัว พ.ต.อ.วชิรา กล่าวว่า “ไม่มี ไม่มีเรื่องส่วยอะไรทั้งนั้น ไม่มีเรื่องส่วยเลย”

เมื่อถามอีกว่าสรุปแล้วปมเหตุที่แท้จริงเกิดจากอะไร พ.ต.อ.วชิรา บอกว่า “เห็นเขาพูดเสียงดังใส่กัน แล้วคนยิงก็มายิงเลย แค่นั้นแหละครับ

เมื่อทีมข่าวเริ่มถามถึงปมเหตุที่แท้จริง พ.ต.อ.วชิรา ได้ขออนุญาตวางสายไปในทันที

-------------------------------------------

ขณะที่ จ.ส.ต.พิสิฐ ชิวปรีชา ผบ.หมู่ ส.ทล. กก.2 ซึ่งเป็นหลานเขยของกำนันนก เปิดใจ กับ ทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับกรณีการขอเลื่อนตำแหน่งของตนเอง


ไทม์ไลน์ของเรื่องคือ โต๊ะ ที่พันตำรวจตรีศิวะกรนั่งอยู่นั้น เป็นโต๊ะที่มีแต่ระดับสารวัตรและผู้กำกับนั่งอยู่โดยมีกำนันนกมานั่งพูดคุยด้วย ทุกคนคุยกันตามปกติคุยเรื่อง สัพเพเหระประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วก็มีการพูดเรื่องขอตำแหน่งให้ตน ซึ่งตนก็บอกว่า สารวัตร ศิวะกร อนุมัติให้แล้ว  ซึ่งไม่ใช่ย้ายตำแหน่งแต่เป็นการสลับสับเปลี่ยนตำแหน่งหน้าที่ (ซึ่งย้ายจากสายตรวจรถวิทยุ ให้มาเป็นผู้บังคับหมู่งานสายตรวจ สายตรวจกองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจทางหลวง) ซึ่งจะสามารถเปลี่ยนรถได้ในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้  ทุกอย่างคุยจบกับสารวัตรเรียบร้อยแล้ว


ส่วนเรื่องการขยับตำแหน่งนั้นสารวัตรก็บอกว่าถ้ามีการเกษียณก็แทนได้เลย แล้วกำนันนกก็พูดว่า “คนเนี่ยญาติผมขอขึ้นหน่อยนะ สารวัตรก็บอกว่าไม่น่าจะมีปัญหา”


ซึ่งการพูดคุยช่วงนั้นเป็นการใช้น้ำเสียงปกติและไม่ได้มีการบ่งบอกถึงการจะทะเลาะวิวาทใดใดทั้งสิ้น ใช้เวลาคุยเรื่องนี้เพียง 1 ถึง 2 นาทีเท่านั้น


โดยในวันเกิดเหตุ 6 ก.ย. 66 ตนไปงานเลี้ยงบ้านกำนันนก แต่กลับก่อนมาก่อน ไม่เห็นเหตุการณ์ตอนยิง


ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างตนกับกำนันนกนั้นเป็นเครือญาติห่างกันมาก จ.ส.ต.พิสิฐ อธิบายว่า ผมแต่งงานกับภรรยามีลูกอยู่ด้วยกัน และพ่อตาเลิกกับแม่ยายภรรยาผมอยู่กับแม่ยายหลายปี จึงไม่รู้ญาติทางฝั่งพ่อ จนกระทั่งมารู้พี่พามารู้จักกับกำนันแล้วบอกว่าพ่อตา เป็นญาติกับกำนันนก ตนก็ตกอยู่ในสถานะเป็นหลานเขย ซึ่งกำนันนกบอกว่าเอ็งก็เป็นหลาน โดยผมอายุห่างกันแค่ 4 เดือน รู้จักกำนันนก เมื่อ 1 ปีกว่าๆ 


จากกรณีข่าวที่นำเสนอนั้นว่าปมการยิงเกิดจากเรื่องขอเลื่อนตำแหน่งให้หลาน “ไม่เป็นความจริง” เป็นคนละเรื่องกันแต่ไม่รู้ว่าเพราะเรื่องอะไร เพราะขณะนั้นตนเองไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ เพราะกลับบ้านก่อน ก่อนจะกลับ ก็เดินไปยกมือไหว้กำนัน


ขณะที่ทีมข่าวอาชญากรรมช่อง 3 ตรวจสอบจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางยืนยันว่าสำหรับคำสั่งที่ตัว จ่าสิบตำรวจพิสิฐ กล่าวอ้างว่ามีการลงนามให้โยกย้ายตำแหน่งและจะมีผลในช่วงเดือนหน้าตามที่มีการนำเสนอข่าวในสื่อมวลชน


จากการตรวจสอบไม่พบว่าพันตำรวจตรีศิวกร มีการเซ็นลงนามคำสั่งโยกย้ายบุคลากรในสังกัดที่มีชื่อของจ่าสิบตำรวจพิสิฐ เกี่ยวข้องอยู่ในคำสั่งโยกย้ายแต่อย่างใด  จึงถือว่าเรื่องที่มีการกล่าวอ้างถึงไม่เป็นความจริง ส่วนรายละเอียดต้องรอการสืบสวนจากคณะทำงานของกองบังคับการปราบปรามอีกครั้ง


เมื่อถามถึงนิสัยใจคอของกำนันนกเป็นคนโหดร้ายหรืออารมณ์ร้ายหรือไม่ จ.ส.ต.พิสิฐ  ระบุว่า กำนันเป็นคนอารมณ์ดี เฮฮาชอบพูดเล่นตลก ไม่ถือตัว และไม่เคยเห็นว่าดุหรือโหดร้ายอะไรกับใคร ส่วนเรื่องกำนันนก สั่งให้ยิงสารวัตรศิวกร หรือไม่


จ.ส.ต.พิสิฐ  “บอกว่าไม่เชื่อว่ากำนันนกจะมีอารมณ์โกรธ แค้นหรือไม่พอใจอะไรกับสารวัตรศิวกรจนถึงขั้นจะต้องให้นายหน่องมายิง”



รับชมทางยูทูบที่ :  https://youtu.be/oS-QJXlE-P4

โดย petchpawee_k

9 ก.ย. 2566

170 views

EP อื่นๆ