กกต.แจงข้อมูลคลาดเคลื่อน ฟัน สว. ล็อตแรก 60 คน เผยยังไม่ถึงขั้นแจ้งข้อกล่าวหา

กกต. แจง ข้อมูลคลาดเคลื่อน หลังสะพัดจ่อฟัน สว. ล็อตแรก 60 คน พรุ่งนี้ คดีฮั้วเลือก สว. เผยยังไม่ถึงขั้นแจ้งข้อกล่าวหา

รายงานข่าวระบุว่า คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน มี ร.ต.อ.ชนินทร์ น้อยเล็ก รองเลขาธิการ กกต. เป็นประธาน และมีเจ้าหน้าที่ ของ ดีเอสไอ ร่วมสืบสวนนั้น ได้รวบรวมพยานหลักฐานเกี่ยวกับการเลือก สว.ระดับประเทศ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.67 แบบเชิงลึก และสอบสวนปากคำพยาน มีการตรวจสอบเส้นทางการเงินที่มีรายงานว่า มีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 500ล้านบาท รวมถึงตรวจสอบวิธีการเลือกหมายเลขเดียวกัน ซ้ำๆ กันหลายชุด ตามพฤติการณ์ที่ปรากฏจากคำให้การของพยานและหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์

ซึ่งพบการกระทำที่เข้าข่ายมีกระบวนการหรือพฤติการณ์ที่ไม่ได้เป็นไปด้วยสุจริตหรือเที่ยงธรรม พบการกระทำความผิดตาม พ.ร.ป.การได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561 รายงานระบุว่า ในวันพรุ่งนี้ (8 พ.ค.) กกต.จะทยอยเรียกแจ้งข้อกล่าวหาต่อ สว.ล็อตแรกจำนวน 60 คน โดย คาดว่าจะดำเนินการเสร็จภายใน 2 สัปดาห์ รายงานระบุถึงขั้นว่า สว.ส่วนใหญ่ในล็อตแรก เป็น สว.ที่มีชื่อเสียง

โดยจะเป็นการแจ้งข้อกล่าวหา ในความผิดฐานกระทำการอันทุจริตในการเลือก สว. หรือมีส่วนรู้เห็นการกระทำของบุคคลอื่น อันทำให้การเลือกมิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ตามมาตรา 62 (พรป การได้มาซึ่ง สว. ) และ ความผิด ตามมาตรา 77 จูงใจให้ผู้สมัคร ลงคะแนนหรือไม่ลงคะแนนให้แก่ผู้ใด (ฮั้ว) ตาม พรป การได้มาซึ่ง สว. โดย มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี

ทั้งนี้ ความผิด ตามมาตรา 62 ตามกระบวนการ เมื่อ กกต.แจ้งข้อกล่าวหา ก็จะให้ ผู้ถูกกล่าวหา มาชี้แจง้แก้ข้อกล่าวหา หาก กกต.ชุดใหญ่ เชื่อได้ว่ามีการกระทำความผิดจริง ก็จะมีมติ ยื่นคำร้อง ต่อศาลฎีกาต่อไป เมื่อศาลรับไว้พิจารณา สว.ที่ถูกกล่าวหา ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ทันที ไปจนกว่าศาลฎีกา จะพิพากษา

ต่อมาทีมข่าวของเราพยายาม สอบถามไปที่ ร.ต.อ.ชนินทร์ น้อยเล็ก รองเลขาธิการ กกต. ซึ่งท่านรับสาย เมื่อฟังคำถาม เรื่องที่เป็นกระแสข่าววันนี้ เสร็จ ท่านก็บอกว่า ตอนนี้ผมติดประชุมอยู่ ขอโทษ ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แหล่งข่าวภายในสำนักงาน กกต. ชี้แจงกรณีปรากฏกระแสข่าว ว่า กกต. เตรียมแจ้งข้อกล่าวหา กับ สว. คนดัง 60 คน ในคดีฮั้วเลือกสว. ดังนี้

1. กกต. ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน กกต. และเจ้าหน้าที่ของ DSI ร่วมกันดำเนินการไต่สวน กรณีมีการกล่าวหาการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (สว.)

2. ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการไต่สวนของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ซึ่งเป็นขั้นที่ 1 ของการดำเนินการตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน ไต่สวน และวินิจฉัยชี้ขาด ปี 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 5) ปี 2566

3. กรณีถ้าการดำเนินการไต่สวนแล้วมีมูลหรือหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าอาจมี                   การกระทำความผิดตามข้อกล่าวหาดังกล่าว หรือฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา ปี 2561 จะมีการดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ถูกกล่าวหา ตามระเบียบเพื่อให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหาได้ชี้แจงข้อกล่าวหาดังกล่าว

4. การดำเนินการของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ยังอยู่ในขั้นที่ 1 เมื่อดำเนินการเสร็จแล้วจะเสนอสำนักงาน กกต. โดย เลขาธิการ กกต.
จะพิจารณาตามขั้นที่ 2 และขั้นที่ 3 เสนอคณะอนุกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้ง และขั้นที่ 4 ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่เสนอให้ กกต. ชุดใหญ่ พิจารณาชี้ขาดหรือสั่งการ

ดังนั้นข่าวที่ปรากฏ จึงคลาดเคลื่อนจากขั้นตอนตามระเบียบคณะกรรมกา การเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน ไต่สวน และวินิจฉัยชี้ขาด ปี2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 5) ปี 2566

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายงานข่าวที่ออกมาเป็นกระแสตลอดทั้งวันนี้ ไม่ใช่ข้อมูลที่มาจากสำนักงาน กกต. และไม่ใช่การเช็กข่าว โดยนักข่าวประจำ กกต. โดยพบว่า เนื้อหาข่าว ระบุกระบวนการขั้นตอนและข้อกฎหมายที่แตกต่างไปจากความเป็นจริงจากการดำเนินการของ กกต. หลายประเด็น คาดว่าเป็นข้อมูลข่าวที่มาจากหน่วยงานอื่น

โดย JitrarutP

7 พ.ค. 2568

148 views

EP อื่นๆ