“ชัชชาติ” ยันไม่มีเดดไลน์หยุดช่วยเหลือ ปรับแผนเดินหน้ารื้อถอนคู่ขนานกู้ภัย

ผู้ว่าฯ กทม. ยันไม่มีเดดไลน์หยุดช่วยเหลือ แต่จะปรับแผนเพิ่มการรื้อถอนด้วยเครื่องจักรหนักควบคู่ไปมากขึ้น โต้ดรามาวิจารณ์การทำงานของทีมกู้ภัย ทุกอย่างเป็นการไตร่ตรองร่วมกันของทั้งทีมไทยและนานาชาติตามหลักสากล

วันที่ 2 เมษายน 2568 เวลา 16.20 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงความคืบหน้าปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหาย จากเหตุการณ์อาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ที่กำลังก่อสร้างถล่ม

นายชัชชาติ กล่าวว่า วันนี้ปฏบัติการเข้าสู่วันที่ 5 แล้ว เมื่อคืนนี้ได้เริ่มใช้วิธีการยกชิ้นส่วนออก จนถึงช่วง 20.00 น. ยกออกไปประมาณ 10 ชิ้น น้ำหนักประมาณ 100 ตัน สามารถเปิดช่องว่างให้กู้ภัยเข้าไปดูด้านใน และทำหารค้นหาทั้งคืนจนถึงเช้า

โดยเมื่อคืนได้พบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 1 ราย และสามารถนำออกมาได้แล้ว แต่จากการค้นหามองเห็นอีกประมาณ 14 ร่างที่ยังติดค้างอยู่ ทั้งได้กลิ่น และมีกองเลือด แต่อุปสรรคคือสิ่งกีดขวางด้านใน เหล็กต่างๆ ทำให้ยังไม่สามารถนำร่างออกมาได้ ตอนนี้จึงเริ่มมีการปรับแผน นำเครื่องจักรหนักเข้ามาช่วย เป้าหมายคือพยายามจะไปถึงปล่องลิฟต์ และทางหนีไฟให้ได้

นอกจากนี้ ยังใช้วิธีการมาร์คจุดว่า จุดไหนพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นใคร อยู่บริษัทอะไร ก็เชื่อได้ว่าบริเวณใกล้เคียงกันจะมีคนงานที่อยู่บริษัทเดียวกันติดค้างอยู่

โดยสถานการณ์ตอนนี้จะเป็นการทำควบคู่กันไประหว่างการช่วยเหลือและการรื้อถอน ซึ่งจะค่อยๆ ปรับไปตามหน้างาน จะเริ่มมีการรื้อถอนมากขึ้น แต่เมื่อเห็นว่าต้องเอาทีมช่วยเหลือเข้า ทีมรื้อถอนก็จะหยุด เมื่อเห็นว่าช่วยเหลือต่อไม่ได้ ทีมรื้อถอนต้องเข้า ก็จะผลัดเปลี่ยนกัน ซึ่งเมื่อวานนี้ได้ใช้การช่วยเหลือสลับกับรื้อถอนที่โซน B และ C ด้านหลัง ส่วนวันนี้ เป็นโซน A / C และ D

ยืนยันยังทำเต็มที่ เมื่อช่วงบ่ายได้รับแจ้งว่าเหตุการณ์ที่เมียนมาพบผู้รอดชีวิต ดังนั้น ในระยะเวลาหลังเกิดเท่ากัน ถ้าของเขาพบของเราก็ยังมีโอกาส แม้จะน้อยลง ต้องพูดความจริง ไม่โกหกตัวเอง แต่ก็จะทำในทุกมิติที่ทำได้ตามหลักสากล

ส่วนกรณีที่สังคมตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมถึงไม่ใช้วิธีการยกเศษซากอาคารจากด้านบนลงมา เป็นเพราะการรื้อเศษซากจากด้านล่างจะทำได้ไวกว่า เนื่องจากไม่มีอุปกรณ์เครื่องจักรหนักขนาดใหญ่และกำลังมากพอ ที่จะไปเริ่มรื้อถอนจากด้านบนที่อยู่สูง

ทั้งนี้ ทีมงานนานาชาติต่างบอกว่า เคสนี้ซับซ้อนที่สุดที่เคยเจอ เพราะเป็นอาคารสูงที่ถล่มลงมาทีเดียว มีผู้ติดค้างอยู่มากพอสมควร แต่ก็ไม่ย่อท้อ จะทำตามแผนต่อไป อาจไม่ถูกใจบางคนต้องขอโทษด้วย แต่ทั้งหมดคือการไตร่ตรองร่วมกันของทุกทีมแล้ว โดยมีต่างชาติเป็นผู้แนะนำ และมีทีมไทยเป็นผู้ตัดสินใจ

นอกจากนี้ ยังได้มีการใช้ทีมจิตวิทยาเข้าไปพูดคุยทำความเข้าใจกับญาติผู้สูญหาย เพราะญาติก็มีอาการตกใจเมื่อเห็นว่านำเครื่องจักรหนักเข้าไป ก็ต้องทำความเข้าใจกับญาติว่า ยังไม่ได้หยุดค้นหาแต่เป็นการเร่งเปิดทางให้เร็วขึ้น ยืนยันไม่มีเดดไลน์ในการหยุดช่วยเหลือ แต่จะค่อยๆ เพิ่มการรื้อถอนให้มากขึ้นตามหน้างาน และจะค้นหาจนเจอจนครบ

สำหรับประเด็นดรามาที่เจ้าหน้าที่รถเครนที่มารอเข้าช่วยเหลือ แต่ยังไม่ได้ทำงานนั้น จากที่ตนเข้าไปสอบถามแต่ละหน่วยงาน ยังไม่มีใครพูดอะไรเรื่องนี้ แต่เข้าใจเจ้าของรถเครนดังกล่าว ยังไม่เข้าใจแผนการทำงานของเจ้าหน้าที่ ส่วนมากจะใช้รถเครนขนาดใหญ่ไม่กี่คันในการทำงาน

กรณีที่ นายชาติชาย ไทกล้า ที่ปรึกษาคณะกรรมการการป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติและผู้อำนวยการสถาบันฝึกดับเพลิงและกู้ภัยชั้นสูงทาฟต้า ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของทีมปฏิบัติการว่า ทำงานล่าช้า ถ่วงเวลาให้โอกาสรอดชีวิตน้อยลง นายชัชชาติ บอกว่า การที่เจ้าหน้าที่ยังไม่เร่งขุดหรือเจาะปูนออก ผู้สั่งการแต่ละทีมมีการปรับแผนตามสภาพหน้างาน เพื่อให้เข้าการทำงานของทีมกู้ภัยทั้งไทยและต่างชาติ อย่างไรก็ตาม หากปฎิบัติการนี้แล้วเสร็จ หลังจากนี้อาจจะมีการเชิญเข้ามาพูดคุยหารือกันถึงแนวทางการทำงานในอนาคตต่อไป

ส่วนการตรวจสภาพตึกภายในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ขณะนี้ทีมงานวิศวกรของกรมโยธาธิการและผังเมือง และวิศวอาสา ซึ่งได้ทำการเร่งตรวจสอบจากผู้ร้องผ่าน Traffy Fondue ซึ่งเป็นตึกทั้งหมด 9 ประเภท มีผู้ร้องกว่า 12,000 ราย โดยตอนนี้กำลังเร่งติดตามผลการตรวจสอบภายใน 2 สัปดาห์

โดย nicharee_m

2 เม.ย. 2568

70 views

EP อื่นๆ