สาวบีเอ็มเบี้ยวไกล่เกลี่ยครั้งที่ 3 อ้างกำลังรวบรวมทรัพย์สินเยียวยา สามีเหยื่อเดินหน้าฟ้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 25 ธันวาคม 2567 นายประกฤษณ์ ซึ่งเป็นสามี นางเย็นจิตร และเป็นพ่อของ 2 ลูกชาย และลูกสาว เหยื่อสามศพเหตุรถยนต์เก๋งยี่ห้อบีเอ็มดับเบิ้ลยู ขับโดย น.ส.จิรันธนิน ได้ชนเสียชีวิต ขณะที่ทั้งสามกำลังขี่ รถ จยย.จะกลับบ้าน โดนเหตุเกิดขึ้น เมื่อช่วงพลบค่ำของวันที่ 27 พฤศจิกายน 67 ที่ผ่านมา ได้เดินทางมาที่จัดเก็บศพ เมียและลูกสองคน ณ มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ โดยซื้อข้าวมันไก่ร้านที่เมียลูกชอบทาน มาให้

พร้อมจุดธูปบอกกล่าวถึงการในครั้งนี้ ว่าได้มาเจรจาไกล่เกลี่ยกับคู่กรณีเป็นครั้งที่ 3 หลังจากนายณัฐพงศ์ บุญทองคง อัยการ คุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี จ.ชุมพร ได้ทำหนังสือเชิญ น.ส.จิรธนิน เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 67 ให้มาประนีประนอมข้อพิพาทเรียกค่าสินไหมทดแทนความเสียหายจากการกระทำความผิดทางอาญา โดยระบุวันนัดหมาย เวลา 13.30 น.ของวันที่ 25 ธันวาคม 67 ณ สำนักงานอัยการจังหวัดชุมพร

โดยนายประกฤษณ์ ได้ยกมือไหว้พร้อมอธิษฐาน ภรรยาและลูกทั้งสอง ช่วยดลจิตดลใจ ให้การเกลี่ยไกล่ในครั้งนี้ตกลงกันได้ด้วยดี เพื่อจะนำเมียและลูกไปทำการฌาปนกิจตามประเพณีสักที เพื่อจะได้ไปผุดไปเกิดเสียที

ซึ่งทางนายประกฤษต์ ยังกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ทางอัยการได้ทำหนังสือเชิญตัว น.ส.จิรันธนิน คู่กรณีที่ขับรถบีเอ็มชนเมียลูกเสียชีวิต มาไกล่เกลี่ยในการเยียวยา ในเวลาบ่ายโมงครึ่ง ซึ่งที่ผ่านมาสองครั้ง ทางคู่กรณีก็ยังไม่มีความจริงใจที่จะมาไกล่เกลี่ยเลย และในใจตนเองก็ยังเชื่อว่า วันนี้ก็ยังไม่มีเช่นเดิม และหลังจากนี้ หากวันนี้ไม่มีก็ปล่อยเป็นหน้าที่ของทนายแก้วที่จะดำเนินฟ้องร้องต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมา เมื่อเวลา 13.30 น.นายประกฤษณ์ พร้อมญาติๆ ได้เดินทางมาที่สำนักงานอัยการจังหวัดชุมพร เพื่อเข้าพบทางนายณัฐพงศ์ บุญทองคง อัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี จ.ชุมพร และ น.ส.จิรันธนิน ผู้ต้องหาขับรถยนต์เก๋งบีเอ็มชนสามแม่ลูกเสียชีวิต เพื่อจะได้พูดคุยไกล่เกลี่ยกันอีกครั้ง แต่ผลปรากฎว่า น.ส.จินันธนิน หรือตัวแทน ไม่เดินทางมาพบพูดคุยเจรจาในเรื่องการช่วยเหลือเยียวยาแต่อย่างใด

ต่อมา นายณัฐพงศ์ บุญทองคง อัยการฯได้เปิดเผยหลังจากที่ใช้เวลาพูดคุยกับนายประกฤษณ์ และญาติ กว่า 1 ชม.ว่า สำหรับการไกล่เกลี่ยในครั้งนี้ ไม่เป็นผล เนื่องจากทาง น.ส.จิรันธนิน ได้แจ้งมาว่า ไม่สามารถเดินทางมาเจรจาตามที่ได้รับหนังสือ สืบเนื่องมาจากอยู่ระหว่างรวบรวมทรัพย์สินเพื่อนำมาเยียวยาผู้เสียหาย ซึ่งก็เป็นสิทธิของทางคู่กรณีที่จะมาหรือไม่ก็ได้ และทั้งนี้ ทางนายประกฤษณ์ เองหลังจากที่ได้พูดคุยกันแล้ว สรุปได้ว่าจะไม่ประสงค์ที่จะเชิญตัวมาเจรจาไกล่เกลี่ยอีกต่อไปแล้ว ซึ่งก็จะมอบหมายให้ทางทนายความดำเนินการฟ้องร้องทางแพ่งกับ น.ส.จิรันธนิน ในชั้นศาลต่อไป

ต่อมาทางนายประกฤษณ์ พร้อมญาติ ได้เดินทางมาพบ พ.ต.อ.ปัญญา ท้วมศรี ผกก.สภ.เมืองชุมพร เพื่อสอบถามความคืบหน้าของคดีว่าไปถึงไหนอย่างไรบ้าง เนื่องจากตนเองและครอบครัว ตลอดจนประชานทั่วไปที่สนใจในคดีนี้ รู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก เกรงว่าจะไม่ได้รับความยุติธรรม อีกทั้งหวั่นว่าทางคู่กรณี จะใช้เส้นสายล้มคดีจากหนักเป็นเบา

ด้าน พ.ต.อ.ปัญญา ได้กล่าวกับนายประกฤษณ์ และญาติ ต่อหน้านักข่าวที่เดินทางมาตามทำข่าวในคดีนี้ ซึ่งเป็นคดีที่ได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างมาก ว่า ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวน ได้รวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำพยานบุคคลจนครบรอบด้าน และได้สรุปสำนวนเตรียมฟ้องศาลได้แล้ว

เพียงแต่วันนี้ ทราบว่ามีการนัดมาไกล่เกลี่ยค่าสินไหม ซึ่งเป็นคดีแพ่ง จึงรอว่าข้อตกลงเป็นอย่างไรเพื่อนำมาประกอบคู่กับสำนวนคดีอาญา ในการส่งฟ้องศาลในครั้งเดียวกัน แต่เมื่อไม่สามารถตกลงกันได้ ทางพนักงานสอบสวน ก็จะปิดสำนวนพร้อมส่งศาล คาดว่าหลังปีใหม่ ประมาณวันที่ 7 มกราคม 2568 แต่ทั้งนี้ก็จะพยายามดูวันที่เหมาะสมอีกครั้ง

และขอยืนยันว่าให้ความยุติธรรมทั้งสองฝ่าย ตำรวจจะทำอย่างตรงไปตรงมา ไม่กดดันแต่อย่างใด ประกอบกับทาง ผบ.ตร.ได้ติดตามและกำชับเร่งรัดคดีให้ครอบคลุมรอบด้านที่สุดเพื่อจะได้คลี่คลายคดีสร้างความกระจ่างให้ประชาชนได้รับทราบต่อไป

พ.ต.อ.ปัญญา ยังกล่าวอีกว่า สำหรับข้อหานั้น ทางพนักงานสอบสวน ได้แจ้ง น.ส.จิรันธนิน ให้ทราบว่า ขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ขับรถขณะมึนเมา โดย ทาง น.ส.จิรันธนิน ให้การรับสารภาพ แต่ให้การปฏิเสธ ในข้อหาหลบหนี ซึ่งก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหา ทั้งนี้ก็อยู่ที่ศาลว่าจะพิพากษาออกมาอย่างไร แต่ขั้นตอนที่จะถึงชั้นศาล ทุกถ้อยคำในสำนวนทางอัยการจังหวัด ก็จะตรวจสอบกลั่นกรองอีกครั้งเพื่อให้รัดกุมที่สุด

โดย nicharee_m

25 ธ.ค. 2567

880 views

EP อื่นๆ