รวบแล้ว 2 โจรปล้นร้านกัญชา ที่แท้ลูกจ้างร้านเป็นตัวการ เร่งล่าตัวผู้ร่วมขบวนการอีก 3
ผู้การเชียงใหม่เร่งรัดติดตามคดีอุกอาจที่แก๊งโจรปลอมตัวเป็นฝ่ายปกครองเข้าปล้นเสี่ยร้านกัญชากลางเมืองเชียงใหม่ ก่อนบังคับให้สแกนใบหน้าโอนเงินออกบัญชี 2.5 แสน และทรัพย์สินมีค่าพร้อมรถจักรยานยนต์ ล่าสุดหลังจี้สอบลูกน้องในร้านและเส้นทางโอนเงินจนพบว่า ที่แท้ลูกน้องแสบวางแผนปล้น รวบตัวได้แล้ว 2 คนเร่งไล่ล่าอีก 3 คน (เบลอหน้าผู้ต้องหาด้วย 2 คน)
ความคืบหน้ากรณีที่ 4 คนร้ายเป็นชายสวมชุดดำ สวมหมวก อ้างเป็นฝ่ายปกครองถืออาวุธบุกปล้น นายไทด์ อายุ 26 ปีชาวเชียงใหม่ เสี่ยเจ้าของร้านกัญชากลางเมืองเชียงใหม่ ชิงทรัพย์เกือบ 5 แสน โดยกลุ่มคนร้ายได้บุกเข้ามาที่ร้าน ก่อนเข้ามาล็อกตนเองและลูกน้องที่เป็นผู้ชายชื่อนายหรั่ง แล้วใช้เชือกมัดมือมัดเท้าและเอาถุงคลุมศีรษะ ก่อนบอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ปกครอง มาตรวจความผิด
จากนั้นได้บังคับเอารหัสโทรศัพท์ต่างๆ แล้วโอนเงินออกไปกว่า 3 แสนบาท ซึ่งคนร้ายยังบังคับให้เจ้าตัวสแกนลายนิ้วมือเพื่อเปิดโทรศัพท์ และยังบังคับให้สแกนใบหน้าเพื่อนโอนเงินผ่านโมบายแบงก์กิ้ง และกวาดเอาทรัพย์สินอื่นๆ ภายในร้าน รวมถึงรถจักรยานยนต์ อีก 4 คันขับออกจากร้านไป
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก โดยพ.ต.อ.วินิจฉัย พินิจศักดิ์ ผกก.ได้รับแจ้งความจากผู้เสียหาย ได้สั่งการให้ติดตามสืบสวนเอาตัวคนร้ายมาดำเนินคดี หนึ่งในนั้นมีการนำตัวนายหรั่งลูกน้องมาสอบปากคำในฐานะผู้เสียหาย และพยานในเบื้องต้น พร้อมกับออกติดตามหาเบาะแสของคนร้ายโดยเฉพาะเส้นทางของการโอนเงินไปยังปลายทางจนล่าสุดสามารถนำตัวคนร้ายมาได้แล้ว 2 ราย หนึ่งในนั้นคือนายหรั่งลูกน้องของผู้เสียหายนั่นเอง
โดยเมื่อเวลา 12.00 น.ที่ผ่านมา พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้มาประชุมติดตามความคืบหน้าของคดีพร้อมกับเปิดเผยถึงความคืบหน้าว่า คดีนี้ต้องชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือกที่เร่งทำงานอย่างรวดเร็วก่อนนี่กลุ่มคนร้ายเหล่านี้จะหลบหนีออกนอกพื้นที่ โดยพบว่าผู้ร่วมก่อเหตุทั้งหมดมีด้วยกัน 5 คน ที่แท้จริงแล้วคนที่วางแผน และเป็นตัวการหลักคือนายหรั่ง ที่เป็นลูกน้องของผู้เสียหายเองที่รู้เรื่องทุกอย่างภายในร้าน ทั้งเรื่องของทรัพย์สิน และจำนวนเงินของผู้เสียหาย รวมทั้งเส้นทางเข้าออก
แต่เนื่องจากมี่ปัญหาเรื่องการเงินจึงต้องการหาเงินไปใช้ประกอบกับกลุ่มผู้ต้องหาอีก 4 คน ที่เคยเป็นลูกค้าร้านกัญชาและมารู้จักกับนายหรั่งจึงได้ชักชวนกันวางแผนร่วมก่อเหตุทำทีว่าปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเข้ามาขอตรวจค้น และจับตัวผู้เสียหาย มัดมือมัดเท้าก่อนบังคับให้สแกนลายนิ้วมือเปิดเครื่องโทรศัพท์ เอารหัสของโมบายแบงก์กิ้ง และสแกนใบหน้าเพื่อโอนเงินออกจากบัญชีไปยังบัญชีธนาคารปลายทางหลายแห่ง รวมเงินประมาณ 2 แสน 5 หมื่นบาท นอกจากนี้แล้วยังเอาทรัพย์สินมีค่ารวมทั้งรถจักรยานยนต์อีก 4 คันของผู้เสียหายไปด้วย
หลังจากสอบปากคำนายหรั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พบพิรุธหลายอย่างจนเจ้าตัวรับสารภาพ รวมทั้งการติดตามแกะรอยจากเส้นทางการโอนเงินไปบัญชีต่างๆ จนทราบตัวคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุทั้ง 4 คน พร้อมทั้งของศาลออกหมายจับ ทั้ง 5 คนที่ร่วมก่อเหตุในข้อหาปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธในการก่อเหตุ
ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมาสามารถติดตามหนึ่งใน 4 ของคนที่เข้าปล้นได้แล้ว ตอนนี้ได้เงินคืนมาจำนวนหนึ่ง และกำลังเร่งแกะรอยติดตามตัวผู้ต้องหาอีก 3 คนที่เหลือมาดำเนินคดี ตอนนี้ของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งทำงานก่อนส่วนความคืบหน้าของคดีก็จะมีการเปิดเผยต่อไป
โดย paranee_s