โลกเดือด! ดันยอดขายยานเกราะ-รถยนต์ทหารพุ่ง 25%

นายกานต์ กุลหิรัญ กรรมการผู้จัดการบริษัท ชัยเสรีเม็ททอลแอนด์รับเบอร์ จำกัด หรือ “ทายาทมาดามรถถัง” ระบุว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมป้องกันประเทศมีแนวโน้มเติบโตขึ้น โดยวัดจากรายได้บริษัทฯ เพิ่มขึ้น 25% เมื่อเปรียบกับปีก่อน และรับรู้รายได้ระดับพันล้านบาท ท่ามกลางความไม่แน่นอนของภูมิรัฐศาสตร์ของโลก ทำให้ยอดขายยิ่งเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะประเทศมาเลย์ อินโดฯ ประเทศภูฏาน และ UN


แม้ว่าธุรกิจมีแนวโน้มเติบโตสูง แต่ต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูง และติดกับดักกฎหมายประเทศไทยไม่เอื้ออำนวยให้ธุรกิจประเภทอุตสาหกรรมป้องกันประเทศเติบโต จากข้อจำกัด 3 ประการ คือ 1. กฎหมายการรับรองมาตรฐาน พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้าง ต้นทุนภาษีอากรการนำเข้าวัตถุดิบชิ้นส่วนเหล็ก ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อต้นทุนการผลิต จึงทำให้มีต้นทุนการผลิตที่สูงกว่าประเทศคู่แข่ง 10-15% เมื่อเปรียบเทียบกับ อากรสินค้าสำเร็จรูปนำเข้า อีกทั้งต้นทุนการวิจัยและพัฒนา คิดเป็น 5-6%



2. ข้อจำกัดด้าน พ.ร.บ. เอสเอ็มอี ที่เอื้อประโยชน์ให้ธุรกิจ SMEs มีข้อได้เปรียบในการประมูลงานภาครัฐ 10% เนื่องจากการผลิตรถยานเกราะใช้เทคโนโลยีสูง มีเครื่องมือ อุปกรณ์ และแรงงานจำนวนมากไม่จัดอยู่ในประเภท SMEs



และ 3. การเข้าถึงแหล่งเงินทุน เนื่องจากขอรับการการสนับสนุนจาก Ex-im bank ยาก ซึ่งถูกมองว่าเป็นอุตสาหกรรมใหม่ และมีมูลค่าสูง


พร้อมเสนอรัฐบาลแก้ไข กฎหมายการนำเข้ายุทธภัณฑ์ในเขต Free Zone, แก้พรบ. SME, ขอให้ Exim bank สนับสนุน อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ, ขอให้รัฐออกนโยบายออฟเซต (Offset Policy) คือ นโยบายที่ประเทศผู้ซื้อยุทโธปกรณ์ตั้งเงื่อนไขเพิ่มเติมจากการซื้อหรือนำเข้ายุทโธปกรณ์ตามปกติ เพื่อให้ผู้ขายต้องชดเชยผลประโยชน์ตอบแทนกลับมายังประเทศผู้ซื้อผ่านกิจกรรมทางเศรษฐกิจในรูปแบบต่าง ๆ โดยจะต้องมีมูลค่าเป็นสัดส่วนขั้นต่ำตามที่รัฐบาลผู้ซื้อกำหนดในสัญญา และสนับสนุนการขาย G to G



ด้านนายนาวา จันทนสุรคน รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และประธานสายงานสื่อสารองค์กร ระบุว่า อุตสาหกรรมป้องกันประเทศเป็นอุตสาหกรรมที่อยู่ในเป็น 1 ใน 12 อุตสาหกรรมเป้าหมายของไทยที่มีศักยภาพ และอยู่ใน และอยู่ในกลุ่ม New S-Curve หลังจากนี้เตรียมนำข้อเรียกร้องของบริษัท ชัยเสรี เพื่อรื้อกฎหมายต่างๆ เสนอต่อรัฐบาล อีกทั้งให้สภาอุตสาหกรรมตั้งกลุ่มอุตสาหกรรมป้องกันประเทศเป็นอุตสาหกรรม ขึ้นมาใหม่



สำหรับ บริษัท ชัยเสรีเม็ททอลแอนด์รับเบอร์ จำกัด เจ้าของคือ นางนพรัตน์ กุลหิรัญ เจ้าของฉายา มาดามรถถัง เป็นนักธุรกิจหญิงชาวไทย ผู้ก่อตั้งบริษัท ชัยเสรีเม็ททอลแอนด์รับเบอร์ จำกัด ที่ผลิตชิ้นส่วนและรถหุ้มเกราะ ให้แก่กองทัพไทยและกองทัพต่างประเทศ ผ่าน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก 1. วิจัย-พัฒนาและผลิตยานเกราะ และรถยนต์ทางทหาร (เป็นอุตสาหกรรมที่มี 2. ปรับปรุง-ซ่อมคืน 3. ผลิตข้อต่อสายพาน-ยางนิรภัยโดยยางพาราไทย ซึ่งปัจจุบัน บริษัทฯ ได้ส่งออกกว่า 46 กองทัพทั่วโลก ตลอดจนสหประชาชาติ

โดย gamonthip_s

4 พ.ย. 2567

266 views

EP อื่นๆ