1 พ.ย. 2567
องครักษ์มาแล้ว! “เดียร์ ขัตติยา” ป้อง “นายกฯ” ลั่นไม่ใช่คำพูดล้อเล่น “มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี”
12 ก.ย. 2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมรัฐสภา ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม วาระการแถลงนโยบายรัฐบาลของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ด้านนางสาวขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลุกอภิปรายเป็นคนแรกของฝั่งพรรคร่วมรัฐบาล ว่า เหตุการณ์ที่ศาลรัฐธรรมนูญถอดถอน นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี สร้างความกังวลใจให้กับพี่น้องประชาชน และส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนจากทั่วโลกว่า สภาวะสูญญากาศทางการเมืองนี้ จะทำให้นโยบายต่างๆ ที่ได้เริ่มไว้ของนายเศรษฐาต้องยุติลงหรือไม่ แต่มาในวันนี้ ตนมั่นใจว่าหลังจากที่พี่น้องประชาชน และนักลงทุนจากทั่วโลก แค่เห็นรายชื่อของคณะรัฐมนตรี และได้ฟังคำแถลงนโยบายของนายกรัฐมนตรี ย่อมเกิดความมั่นใจได้ว่ารัฐบาลชุดใหม่นี้ จะทำให้เกิดความต่อเนื่องในการบริหารประเทศ จะรับไม้ต่อจากรัฐบาลชุดก่อนแล้วจะสร้างนโยบายใหม่ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ จะสร้างความเปลี่ยนแปลงและจะสร้างผลสำเร็จให้เกิดขึ้นจริงได้อย่างแน่นอน ตนอยากจะเรียกความต่อเนื่องว่า 1 ปีซ่อม 3 ปีสร้างรากฐานโอกาสไทย
"1 ปีซ่อมของนายเศรษฐา เหมือนกับการปรับหน้าดินที่มีปัญหาให้กลับมาเป็นเนื้อดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ เป็นการเตรียมหน้าดินให้พร้อมกับการลงเมล็ดพันธุ์ใหม่ ในการเพาะปลูกครั้งต่อไป 3 ปีสร้างที่จะเกิดขึ้นกับนางสาวแพทองธารกับเปรียบเสมือนการหว่านเมล็ด ใส่ปุ๋ย รดน้ำ และพรวนดิน เพื่อเป็นการสร้างการเติบโตให้กับเมล็ดพันธุ์ที่รัฐบาลชุดนี้จะทำ การเพาะปลูกลงไป และเตรียมรอรับดอกผลการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต" นางสาวขัตติยา กล่าว
นางสาวขัตติยา กล่าวว่า ย้อนกลับไปในสมัยปี 2544 เพิ่งผ่านต้มยำกุ้งมาไม่นาน ซึ่งเราต้องยอมรับว่าวิกฤติเศรษฐกิจสมัยนั้นมันไม่ได้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้างเท่ากับสมัยนี้ ซึ่งตอนนี้ส่งผลกระทบต่อผู้มีรายได้น้อยที่เป็นฐานพีระมิดของระบบเศรษฐกิจไทย เขาขาดกำลังจับจ่ายใช้สอย ค่าแรงหรือรายได้โตไม่ทันกับรายจ่ายที่สูงขึ้น ไม่สามารถออมเงินได้ มีหนี้เรื้อรังและไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินได้ เกิดหนี้เสียสูงขึ้น
ประการที่สอง เศรษฐกิจไทยมักพึ่งพิงจากภายนอก แต่ในวันนี้ตัวเลขการส่งออกและการท่องเที่ยวถดถอยลง แต่การบริโภคภายในประเทศกลับไม่สามารถที่จะทำหน้าที่เป็นเครื่องยนต์หลักที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้ไปข้างหน้าได้
ประการที่สาม ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศที่ถดถอยลง ครั้งหนึ่งประเทศไทยเคยเกือบได้เป็นเสือที่ 5 ของเอเชีย มาวันนี้เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศไหลออกนอกประเทศ แม้ว่าการจัดอันดับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศเราจะอยู่ในระดับที่น่าพอใจ แต่เมื่อเราไปดูอันดับโครงสร้างพื้นฐานทางด้านการศึกษาที่เป็นหัวใจสำคัญในการที่จะพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน การจัดอันดับส่วนนี้กลับอยู่ในอันดับที่น่ากังวลเป็นอย่างยิ่ง เรายังไม่รับวิกฤติด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม
“วิกฤติรอบด้านที่รัฐบาลต้องเผชิญเป็นโจทย์ที่ยากกว่าในอดีต หากรัฐบาลทำสำเร็จ ต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจวิสัยทัศน์ ประสบการณ์ เจตนารมณ์ทางการเมือง รวมทั้งพลังสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนมากยิ่งกว่ารัฐบาลในอดีตเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้สำเร็จ แม้ภารกิจในการซ่อมเพื่อพาประเทศออกจากวิกฤติครั้งนี้จะยากลำบากแค่ไหนก็ตามแต่ ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมาที่นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน เราได้เห็นการปรับหน้าดินเพื่อซ่อมแซมและเตรียมความพร้อมให้กับประเทศจะมีความคืบหน้าไปแล้วหลายด้าน ... ทำให้ประเทศไทยที่เหมือนคนป่วยมานานกลับมามีแรงเดินหน้าต่อ จึงนับว่าเป็น 1 ปีในการปรับหน้าดินสังคมไทย เพื่อให้พร้อมรองรับต่อการยกระดับศักยภาพของประเทศ” นางสาวขัตติยา กล่าว
“ดิฉันขอชื่นชมคำแถลงของนายกรัฐมนตรีแพทองธารสักเล็กน้อย ว่าเป็นการวางนโยบายได้เป็นระบบ ครอบคลุมและรอบด้านไม่ว่าจะเป็นการแบ่งนโยบายตามความเร่งด่วนระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว มีการต่อยอดนโยบายเดิมและเพิ่มเติมนโยบายใหม่ มีทั้งนโยบายที่เป็นกระตุ้นเศรษฐกิจเฉพาะหน้าไปจนถึงนโยบายที่ปรับโครงสร้างและวางรากฐานใหม่ใหม่มี ทั้งนโยบายที่เป็นระดับบนระดับล่าง” นางสาวขัตติยา กล่าว
นางสาวขัตติยา กล่าวช่วงหนึ่งว่า มีคนนำไปพูดล้อเลียนตลกว่า “อยากเห็นคนไทยมีกินมีใช้ มีเกียรติมีศักดิ์ศรี ดิฉันคิดว่าหากเรามองประโยคนี้ด้วยใจเป็นธรรม และลดความอคติ และความเกลียดชังทางการเมือง เราจะพบว่าประโยคดังกล่าวมันไม่ใช่คำพูดล้อเล่น ไม่ใช่เรื่องตลกขบขัน แต่จริงๆแล้วประโยคนี้มีหลักการ 3 ข้อด้วยกัน ที่สะท้อนถึงความฝันของการอยากเห็นสังคมที่ดีสังคมที่น่าอยู่ และสังคมที่มีความเป็นธรรม”
นางสาวขัตติยา กล่าวต่อว่า เริ่มจากคำว่ามีกินมีใช้ คำนี้เป็นคำที่สะท้อนถึงสังคมที่มีระดับ การกระจายทรัพยากรทางเศรษฐกิจ มีการกระจายโอกาสและมีการกระจายความมั่งคั่งอย่างทั่วถึง ทำให้สังคมนั้นไม่มีความเหลื่อมล้ำจนเกินไป สังคมที่มีกิน มีใช้ ประชาชนสามารถเข้าถึงทรัพยากรและขนาดตัวเองก็ยังมีคุณภาพ
คำว่ามีเกียรติ สะท้อนถึงสังคมที่เคารพและยอมรับความแตกต่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเพศสภาพ วัฒนธรรม ศาสนาชาติพันธุ์ สังคมที่มีเกียรติคือสังคมที่สามารถอยู่ร่วมกับความแตกต่างได้ พลเมืองทุกคนให้เกียรติซึ่งกันและกัน แม้จะมีความแตกต่างกัน
และคำว่ามีศักดิ์ศรี คำนี้สะท้อนให้เห็นสังคมที่มีรากฐานทางเศรษฐกิจสังคมและการเมืองที่เข้มแข็ง พลเมืองมีคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกๆด้าน จนทำให้สังคมนั้นมีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับจากสังคม สุดท้ายตนอยากจะขอฝากความเชื่อมั่นของคนไทยทุกคนเอาไว้ที่นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีชุดนี้ ตนเชื่อมั่นด้วยศักยภาพและวิสัยทัศน์เชิงนโยบาย เราจะมีโอกาสได้เห็นประเทศนี้กลับมาเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยความหวัง เป็นบ้านที่เต็มไปด้วยความฝัน เป็นบ้านที่เต็มไปด้วยโอกาสและเป็นบ้านที่ทำให้คนไทยทุกคนรู้สึกภาคภูมิใจอีกครั้งหนึ่ง
โดย gamonthip_s
12 ก.ย. 2567
158 views
EP อื่นๆ
1 พ.ย. 2567
“ทนายธรรมราช” ถูกชายปริศนาตบขณะแถลงข่าว ลั่นพวกหน้าตัวเมีย-หมาลอบกัด ยันดำเนินคดีเต็มที่
gamonthip_s
1 พ.ย. 2567
1 พ.ย. 2567
1 พ.ย. 2567
1 พ.ย. 2567
1 พ.ย. 2567
1 พ.ย. 2567
1 พ.ย. 2567
1 พ.ย. 2567
ตำรวจไซเบอร์จับบัญชีม้าแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ หลอกเงินลูกสาว "ชัยชนะ" สูญเงิน 6 แสนบาท
gamonthip_s
1 พ.ย. 2567
1 พ.ย. 2567
1 พ.ย. 2567
1 พ.ย. 2567
1 พ.ย. 2567
1 พ.ย. 2567
1 พ.ย. 2567
1 พ.ย. 2567
1 พ.ย. 2567
‘นายกฯอิ๊งค์’ หายป่วยแล้ว โพสต์ภาพอบอุ่น ได้กำลังใจจาก 2 พยาบาลจิ๋ว-คุณพ่อ พร้อมลุยงานต่อ
petchpawee_k