พบ 'กากแคดเมียม' แล้ว 12,500 ตัน โผล่ย่านบางซื่อ เจอเพิ่มโรงงานเสี่ยเจษ กทม.ประกาศพื้นที่อันตราย

เจอ กากแคดเมียม ซุกโรงงานเก็บของเก่ากลางกรุง ย่านบางซื่อ 98 ถุง 150 ตัน กทม.ประกาศเป็นพื้นที่อันตราย ผู้การปทส.เผยพบเป็นล็อตแรก ๆ ที่ขนย้ายมาไว้จาก จ.ตาก พบรับซื้อเป็นกลุ่มคนจีนทั้งหมด


พบเพิ่มอีก 3,000 ตัน ในบริษัทเจแอนด์บี สมุทรสาคร เรียก เสี่ยเจษ เจ้าของเจแอนด์บี สอบวันนี้ (11 เม.ย.67) เร่งตามหาอีก 1,000 ตันที่เหลือ ด้าน รมว.อุตสาหกรรม สั่งการปลัดอุตฯ เร่งตรวจสอบ-ส่งกลับหลุมฝังกลบ ให้เสร็จภายในสิ้นเดือน เม.ย. 


เมื่อวันที่ 10 เม.ย.67 เวลา 14.20 น. นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. และตำรวจ บก.ปทส. เข้าตรวจสอบ บริษัท ล้อโลหะไทย แมททอล จำกัด แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ หลังพบถุงบิ๊กแบ็คบรรจุกากแคดเมียม อยู่ภายในโรงงานแห่งนี้


ซึ่งลักษณะเป็นโกดังเก็บของเก่าและจำหน่ายวัสดุโลหะ และจากการเข้าตรวจนับถุงบิ๊กแบ็ค บรรจุกากแคดเมียมทั้งหมด 98 ถุง ประมาณ 150 ตัน เจ้าหน้าที่จึงทำการเก็บตัวอย่างสารนำไปตรวจสอบ โดยบริษัทแห่งนี้ นางวรรณา รับเป็นเจ้าของ ซึ่งเป็นภรรยาของนายเจษฎา หรือ เจษ เจ้าของบริษัท เจแอนด์บี เมททอล จำกัด จ.สมุทรสาคร ที่มีการตรวจพบกากแคดเมียมซุกอยู่ในโกดังของบริษัทก่อนหน้านี้ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำนางวรรณา เพื่อขยายผล พร้อมดำเนินคดีความผิดฐานครอบครองกากแร่ที่มีการปนเปื้อนของสังกะสีและแคดเมียม ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย


จากการสอบถาม นางวรรณา เผยว่า ตนแค่รับฝากจากบริษัท เจแอนด์บี เมททอล จำกัด ที่ จ.สมุทรสาคร โดยทยอยขนมาตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2566 ทีละ 8 ถุง เนื่องจากบริษัทเจแอนด์บี ไม่มีที่เก็บ ตนจึงช่วยรับฝากไม่คิดว่าจะเป็นสารอันตราย คนขายที่อยู่ต้นทางก็บอกว่าไม่อันตราย และบอกว่าเป็นแร่สังกะสี สารกากแคดเมียมไม่เกินมาตรฐาน หลังเป็นข่าวตนไม่ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบเพราะตั้งใจจะนำไปคืนบริษัทเจแอนด์บี แต่รถยังไม่ว่าง อีกทั้งบริษัทดังกล่าวบอกว่าไม่มีสถานที่จัดเก็บ


ส่วนนายเจษฎา หรือ เจษ สามีของตนตอนนี้ไม่ทราบอยู่ที่ไหน แต่ติดต่อพูดคุยกันบ้าง ส่วนจะเข้าพบตำรวจ ปทส.ตามหมายเรียกหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ ยืนยันว่ากากแคดเมียม ที่พบในโรงงานของตนแค่รับฝากเท่านั้น ไม่ใช่การหลบเลี่ยงเพื่อครอบครองวัตถุอันตราย ซึ่งเจตนาคือช่วยระบายของชั่วคราวเพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้ามาออดิทได้ ลูกค้าที่ซื้อเป็นขาประจำ เมื่อถามว่าเป็นสารอันตรายมีการป้องกันอย่างไรบ้าง นางวรรณา ตอบว่า ก็ใส่ไว้ในถุงบิ๊กแบ็คปิดปากถุงเรียบร้อย ก็ไม่มีปัญหาอะไร


ขณะที่ นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ลงพื้นที่ตรวจสอบ เปิดเผยว่า สั่งการให้ นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เร่งตรวจสอบและค้นหากากแคดเมียมที่เหลือในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร และขยายผลไปยังต้นตอเครือข่ายผู้เกี่ยวข้อง และได้กำชับปลัดฯ ให้เอกซเรย์ทุกพื้นที่ เพื่อค้นหากากแคดเมียมที่ยังหลงเหลือให้หมดภายในเดือนเมษายน ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี และดำเนินการส่งกากแคดเมียมและกากสังกะสีกลับไปยังหลุมฝังกลบที่ จ.ตาก และจะต้องขนส่งอย่างปลอดภัยด้วย ส่วนบ่อที่ตากนั้นพบว่ายังคงมีสภาพดีพร้อมนำเข้าสู่การฝังกลบดังเดิม


โดยวันที่ 10 เม.ย. ได้เข้าตรวจสอบกากแร่แคดเมียมซ้ำที่บริษัทแห่งแรก ที่ตั้งอยู่ในหมู่ 2 ต.บางน้ำจืด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นโรงงานแห่งแรกที่มีการตรวจพบว่า รับซื้อกากแร่แคดเมียม และกากสังกะสี มาจาก จ.ตาก เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจพบว่า ที่โรงงานแห่งนี้ยังมีกากแคดเมียมจำนวนมากซุกซ่อนอยู่ตามซอก หลืบต่าง ๆ ทั่วโรงงาน และยังมีบางส่วนทางโรงงานได้นำสิ่งของขนาดใหญ่มาตั้งบังไว้ เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ที่เข้าตรวจค้นครั้งแรก


ทั้งนี้ พบว่ายังคงมีกากแร่แคดเมียมอยู่ในถุงบิ๊กแบ็คอีกจำนวนมาก ที่ยังไม่ได้ทำการตรวจนับ ทั้งที่อยู่ในอาคารและนอกตัวอาคาร เจ้าหน้าที่จึงได้อายัดไว้ทั้งหมด เพื่อเร่งทำการตรวจนับจำนวนให้แล้วเสร็จภายในเย็นวันเดียวกันนี้ และได้ทำการยึดรถบรรทุกไว้ 2 คัน เพื่อรอตรวจสอบว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขนย้ายกากแคดเมียมและกากสังกะสีที่ถูกอายัดไว้ทั้งหมดหรือไม่


ด้าน ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ได้สรุปตัวเลขที่ชัดเจนของการตรวจยึดกากแคดเมียม ว่าพบจากการตรวจสอบวันที่ 10 เม.ย. พบเพิ่มอีก 2 จุด คือที่บริษัทเจแอนด์บี จ.สมุทรสาคร 3,000 ตัน และที่กรุงเทพฯ 150 ตัน เท่ากับตอนนี้ตัวเลขที่พบจากการตรวจค้นทั้งหมด 5 จุด ประมาณ 12,554 ตัน จากกากอุตสาหกรรมที่มีส่วนผสมของแคดเมียมทั้งหมด 13,800 ตัน ซึ่งเป็นตัวเลขประมาณจากการนับ แต่ตัวเลขอาจจะแตกต่างกันบ้างหลังชั่งน้ำหนักแล้ว

โดยที่พบเพิ่มในบริษัทเจแอนด์บี อีก 3,000 ตันนั้น เพราะก่อนหน้านี้แม้จะมีการไปตรวจสอบ แต่ครั้งแรกแต่การตรวจดูไม่ทั่ว การนำตรวจไม่ได้พานำตรวจครบทั้งหมด และยังมีการปิดมีอะไรตั้งบังไว้ คือจุดแรกมีวางรอบ ๆ สำนักงานมีผ้าคลุม มีกล่องโลหะตั้งสูง ๆ และที่ตรวจพบเพิ่มวันที่ 10 เม.ย. คืออีกส่วนที่อยู่อาคารด้านหลัง ทำให้ขณะนี้เหลือที่ต้องค้นหาอีกประมาณ 1,000 ตัน แต่หากคิดจากการสูญเสียความชื้น ก็คาดว่าใกล้ครบแล้ว


พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า จุดนี้เป็นการสืบสวนขยายผล เดิมตั้งใจจะมาตามหาตัวนายเจษฎา เพื่อส่งหมายเรียก เป็นการสุ่มมา หลังจากพบชื่อนายเจษฎา เป็นกรรมการบริษัทล้อโลหะไทยฯ ด้วย เมื่อเข้ามาตรวจสอบโรงงาน ก็พบกากแคดเมียม จึงได้ประสานไปยังกระทรวงอุตสาหกรรมและส่วนที่เกี่ยวข้องเข้ามาทำการร่วมตรวจสอบ


ทั้งนี้ การขนย้ายเดิมทั้งหมดจะต้องไปลงที่บริษัทเจแอนด์บี ซึ่งทราบว่าเบื้องต้นเอามาที่นี่ส่วนหนึ่ง และเป็นล็อตแรก ๆ ที่นำมาไว้ เพราะข้างถุง ระบุตัวเลขไว้ชัดเจนว่าเป็นเดือน 8 ปี 2566 ซึ่งล็อตแรก ๆ ที่มีการขนมาไว้ที่บริษัทเจแอนด์บี ตั้งแต่เดือน 8 เช่นกัน ส่วนจะขนตรงมาที่นี่เลยหรือไปแวะพักที่บริษัทเจแอนด์บี ก่อนแล้วค่อยขนมา นั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบ


ส่วนการออกหมายเรียกนายเจษฎา เจ้าของบริษัทเจแอนด์บี ให้เข้ามาพบพนักงานสอบสวนในวันนี้ (11 เม.ย.) นั้น พล.ต.ต.วัชรินทร์ ระบุว่า เชื่อมั่นว่าคงจะมาให้การเพราะโรงงานถูกตรวจค้นพบแล้ว ถ้ามาแสดงเจตจำนงค์ก็ให้ความเป็นธรรมตามพยานหลักฐาน ที่ผ่านมาที่สามารถเข้าไปตรวจสอบ ตรวจยึดกากอุตสาหกรรมได้ เพราะมีการสืบสวนขยายผลจากการเอกสารทั้งหมด ไม่ได้จากคำให้การของนายเจษฎา


ส่วนกรณีที่มีเป้าหมายคาดการณ์ว่าอาจจะอยู่แถวท่าเรือ เพื่อเตรียมส่งออกนั้น จากการตรวจสอบยังไม่ปรากฏในระบบที่จะส่งออกไปยังต่างประเทศ แม้การข่าวจะระบุว่า เข้าตู้คอนเทรนเนอร์รอส่งแล้วก็ตาม แต่เมื่อตามไปตรวจสอบกรมศุลกากรตรวจสอบแล้วไม่พบ ทั้งนี้หากดูจากบริษัทผู้รับซื้อจะพบว่าเป็นคนจีนทั้งหมด และกรรมการก็เป็นคนจีน จึงต้องตรวจสอบว่าการขึ้นทะเบียนบริษัทถูกต้องตามกฎหมายครบถ้วนหรือไม่ และยังไม่อยากจะพูดว่าจีนเทา เพราะอาจจะเป็นการกล่าวหา แต่กลุ่มผู้ซื้อเป็นคนจีนทั้งหมด สารตัวนี้นอกจากจะขายให้คนจีนแล้ว ยังพบว่าขายได้ที่เกาหลีและเวียดนาม ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนด้วย แต่ยังไม่พบข้อเท็จจริงว่ามีการจำหน่ายไปหรือไม่


ขณะที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ก็รู้สึกกังวลใจว่าจะหลุดรอดมาใน กทม. จึงได้ประสานความร่วมมือกับกรมโรงงาน โดยจะเน้นตรวจโรงหล่อ 154 และโรงหลอม 94 แห่ง ปูพรมตรวจไปแล้วทั้งหมดแต่ไม่ได้พบอะไร แต่กลับมาพบจุดนี้ซึ่งเป็นจุดที่เก็บของเก่า หลังจากนี้จะมีการเพิ่มเป้าหมายเป็นจุดเก็บของเก่าด้วย โดยขั้นตอนต่อไปจะต้องลุยตรวจในพื้นที่ กทม.โดยละเอียด อย่างน้อยก็รู้สึกเบาใจได้ว่าโรงงานนี้เป็นโรงงานที่เกี่ยวข้องกับสมุทรสาคร ไม่ใช่เพิ่งเกิดมาใหม่ ส่วนการทำความเข้าใจกับชาวบ้านใกล้เคียงนั้น หลังจากนี้จะเก็บตัวอย่างน้ำ ตัวอย่างอากาศว่ามีการปนเปื้อนมากน้อยแค่ไหน และตรวจร่างกายกับพนักงานในโรงงานด้วย


ขณะนี้ สำนักงานเขตบางซื่อ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 37 ประกอบกับมาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 ได้ประกาศเป็นเขตพื้นที่อันตราย ห้ามอยู่อาศัยหรือดำเนินกิจการในพื้นที่ที่กำหนด เนื่องจากเป็นสารเคมีชนิดร้ายแรงและอันตรายต่อชีวิต กรุงเทพมหานครได้จัดเจ้าหน้าที่ชุดตอบโต้ภาวะฉุกเฉินสารเคมีและวัตถุอันตราย พร้อมร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม และสำนักอนามัย เข้าดำเนินการในพื้นที่ ในส่วนของเขตบางซื่อ มีโรงงานเก็บบวัสดุเก่า 4 โรง โดยจุดที่มาตรวจมี 3 โรง ซึ่งเป็นใบอนุญาตต่อเนื่องกัน ส่วนอีกโรงที่ประชาชื่น ตรวจแล้วไม่มีอะไร


สำหรับปริมาณกากตะกอนเเคดเมียมที่ตรวจพบรวมทั้งหมด

1. บริษัท J&B สมุทรสาคร ตรวจพบ 6,151 ตัน (ตรวจพบ 5 เม.ย.+10 เม.ย.)

2. บริษัท J&B สมุทรสาคร ตรวจพบ 340.5 ตัน (ตรวจพบเพิ่ม 10 เม.ย.)

3. ตำบลคลองกิ่ว ชลบุรี 4,391.11 ตัน

4. บริษัท ซิน หงฯ สมุทรสาคร ตรวจพบ 1,034 ตัน

5. โกดังคลองมะเดื่อ สมุทรสาคร ตรวจพบ 468 ตัน

6. บริษัท ล้อโลหะไทยฯ แถวบางซื่อ กทม. ตรวจพบ 150 ตัน


สรุปรวมทั้ง 6 จุด = 12,534.61 ตัน ข้อมูลจาก กรมโรงงานอุตสาหกรรม นับล่าสุด 10 เม.ย.

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/IFvOKy1SKfc

โดย passamon_a