สลด! หญิงใจบุญเห็นหมาถูกไฟดูด สุดเศร้าวิ่งเข้าไปช่วยโดนดูดตายคู่กัน

เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 66 ร.ต.อ.วีระชัย ร้อยศรี รอง สว. (สอบสวน) สภ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ได้รับแจ้งมีคนถูกไฟฟ้าดูด เสียชีวิตในป่าข้างสวนมันสำปะหลัง หลังบ้านพักหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 10 ต.อู่ทอง จึงเดินทางพร้อมชุดสืบสวน ชุดพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรโรงพยาบาลอู่ทอง และหน่วยกู้ภัยจักรนารายณ์ เดินทางไปตรวจสอบ


ทันทีที่ถึงที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิต ทราบชื่อนางสาวภัทรวลัญช์ อายุ 52 ปี เสียชีวิตคู่กับสุนัขไทยพันธุ์ทาง เพศผู้สีน้ำตาล อายุประมาณ 3 ปี ในที่เกิดเหตุพบรองเท้าแตะของผู้เสียชีวิตอยู่ที่ข้างกอไม้รวก ชายป่าหลังบ้าน ตรวจสอบสภาพศพพบที่มือขวา มือซ้าย และแขนซ้าย มีรอยถูกไฟฟ้าดูดหลายแผล แต่ไม่พบบบาดแผลถูกทำร้ายและร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใด คาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 8 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังพบเสาไม้ปักเป็นหลักเพื่อขึงลวดปล่อยกระแสไฟฟ้าใกล้ที่เกิดเหตุ แต่ลวดทางญาติได้เก็บไปก่อนหน้าแล้ว


ทั้งนี้ นายไสว อายุ 48 ปี ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ โดยนายไสว ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นคนขึงลวดปล่อยกระแสไฟฟ้าขนาด 220 โวลต์ ไว้รอบบริเวณบ้านของตัวเองและบ้านของผู้เสียชีวิต ซึ่งอยู่ใกล้กัน มาได้ประมาณ 2 เดือนกว่า ๆ เนื่องจากผู้เสียชีวิตได้มาเช่าบ้านอยู่และได้นำสุนัขกว่า 20 ตัว รวมทั้ง แมวและหนูมาเลี้ยง ต่อมาสุนัขที่ผู้เสียชีวิตเลี้ยงไว้ได้เข้าไปกัดไก่ของตนที่เลี้ยงไว้ประมาณ 7-8 ตัวตายไปหลายตัว ตนจึงได้บอกให้ผู้เสียชีวิตทราบว่าสุนัขมากัดไก่ของตน ผู้เสียชีวิตก็รับทราบและจะมาจ่ายเงินค่าเสียหายให้ แต่ตนไม่เอา จึงบอกว่าเป็นเพื่อนบ้านกัน ตนไม่เอาหรอก แต่ขอให้ดูแลสุนัขให้ดี อย่าปล่อยให้มากัดไก่ของตนอีก


หลังจากนั้นก็ได้แจ้งกับผู้เสียชีวิตว่า ตนจะนำลวดมาขึงรอบบริเวณบ้าน และปล่อยกระแสไฟ เพื่อป้องกันไม่ให้สุนัขเข้าไปกัดไก่ และป้องกันสุนัขไปเหยียบต้นมันสำปะหลัง ซึ่งเป็นของญาติที่อยู่ด้านหลัง และป้องกันไม่ให้สุนัขเข้าในดงป่ารก ซึ่งมีงูเหลือมขนาดใหญ่ กลัวสุนัขจะถูกงูเหลือมกิน ผู้เสียชีวิตก็เห็นดีด้วย และผู้เสียชีวิตยังให้ตนมาเสียบใช้ไฟฟ้าที่บ้านของผู้เสียชีวิต แต่ระบบเซฟตี้คอยตัดไฟ ตนจึงมาใช้ไฟของตัวเอง


กระทั่งช่วงสาย ๆ ตนได้ยินเสียงสุนัขร้องที่ท้ายบ้าน จึงเดินมาดูก็พบร่างผู้เสียชีวิตนอนคว่ำหน้า ทับเส้นลวดอยู่คู่กับสุนัข จึงช่วยยกร่างออกจากเส้นลวดมาช่วยปั๊มหัวใจ แต่ไม่เป็นผล เนื่องจากผู้เสียชีวิตได้เสียชีวิตแล้ว จึงวิ่งไปบอกเพื่อนบ้านให้ช่วยแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ ตนขอยืนยันว่าไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกับผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด เราเข้าใจกัน ตนเข้าใจดีว่าผู้เสียชีวิตเป็นคนใจบุญ นำสุนัขและแมวมาเลี้ยง เพื่อช่วยชีวิตสัตว์เหล่านี้


นางนิอร อายุ 71 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต หลังทราบว่าลูกสาวเสียชีวิตก็รีบเดินทางมาดู เมื่อเห็นร่างไร้วิญญาณของลูก ก็ร้องไห้โฮด้วยความเสียใจ ตนกับลูกสาวอยู่คนละที่ ลูกสาวเป็นใจบุญรักสัตว์ ชอบนำสุนัข แมว และหนูมาเลี้ยงไว้จำนวนมาก เมื่อก่อนเคยมีสามีแต่เลิกกัน สามีก็ยังคอยช่วยเหลือดูแลมาตลอด ก่อนเสียชีวิตวันที่ 2 ก.ย. 66 ลูกสาวยังไปหาตนที่บ้านเพื่อไปรับขนมที่เพื่อนส่งมาให้จากทางภาคใต้ แต่ของมาไม่ถึงบอกวันนี้จะไปใหม่ แต่กลับมาเสียชีวิตก่อน เบื้องต้นตนไม่ติดใจสาเหตุ แต่ก็ต้องคุยกับคนขึงลวดก่อน เพราะว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความประมาท


อดีตสามีผู้เสียชีวิต หลังทราบข่าวได้เดินทางมาดูร่างไร้วิญญาณของอดีตภรรยา และกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนไม่รู้จะพูดอย่างไร บอกไม่ถูก ถึงแม้ตนจะไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว แต่ตนก็ยังคอยช่วยเหลือ ทั้งค่าอาหารสุนัข ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ด้วย ส่วนสุนัขกว่า 20 ตัวและแมว รวมทั้งหนูอีกรวมแล้วกว่า 50 ชีวิต หลังจากนี้ก็คงต้องประสานกับกลุ่มเพื่อน ๆ ของอดีตภรรยา ซึ่งเป็นกลุ่มคนใจบุญเลี้ยงสุนัขด้วยกัน เข้ามาช่วยนำสุนัขเหล่าไปดูแลต่อไป


อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี กล่าวว่า จากการสอบสวนพบว่าหลังเกิดเหตุผู้ต้องหาพยายามเข้าช่วยเหลือ นำตัวผู้เสียชีวิตออกจากลวดที่ขึงไว้ ช่วยปั๊มหัวใจผู้เสียชีวิต แต่ไม่เป็นผล จึงแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ จากนั้นได้เก็บเส้นลวดที่นำมาขึงกันสุนัขไปซ่อนข้างบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจเก็บหลักฐานต่าง ๆ ไว้เป็นของกลางแล้ว ส่วนสาเหตุคาดว่าก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตคงได้ยินเสียงสุนัขร้อง จึงเดินไปดูพบสุนัขถูกไฟดูด ด้วยความที่เป็นคนรักสัตว์จึงรีบเข้าช่วยเหลือ โดยลืมไปว่าเส้นลวดที่ขึงมีกระแสไฟอยู่ เบื้องต้นได้แจ้งข้อหานายไสว กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย อีกทั้งจะได้สอบสวนอย่างละเอียด หากพบความผิดเพิ่มเติมก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มต่อไป


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังขับรถผู้เสียชีวิตออกจากบ้านเกิดเหตุสุนัข ที่ผู้เสียชีวิตเลี้ยงไว้พากันวิ่งตามกว่า 100 เมตร จนพ้นเขตบ้าน บางตัวกระโดดเกาะประตูคนขับ เพื่อดูว่าใช่เจ้านายตัวเองหรือไม่ เป็นที่น่าสลดใจ ส่วนสุนัขที่เหลือนั้น กองทุนช่วยเหลือสัตว์จรจัดสุพรรณบุรี กำลังประสานเทศบาลท้าวอู่ทอง เข้าให้การช่วยเหลือจับส่งศูนย์พักพิงต่อไป

โดย taweelap_b

3 ก.ย. 2566

4.2K views

EP อื่นๆ