‘ผู้การฯ ตำรวจน้ำ’ พูดชัด มีตำรวจรู้เห็น ‘เรือน้ำมันเถื่อน 3 ลำ’ คุมกลับเข้าไทยแถลงข่าวบ่ายนี้

เจอแล้ว! เรือลักลอบบรรทุกน้ำมันเถื่อน 3 ลำ ที่หายไปจากท่าเรือหน่วยเก็บรักษาของกลางตำรวจน้ำ หลังลอยลำอยู่ในน่านน้ำสากลระหว่างไทย-มาเลเซีย คาดเข้าเทียบท่าเรือสงขลาบ่าย 3 โมงวันนี้ “ผู้การฯ ตำรวจน้ำ” พูดชัด มีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง

กรณีเช้าวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา เรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน 3 ลำ หายไปจากท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งเรือทั้ง 3 ลำ เป็นเรือของกลางที่บรรทุกน้ำมันดีเซลเถื่อนจำนวน 3 แสน 3 หมื่นลิตร มาจากประเทศเพื่อนบ้านทางใต้ของไทย ซึ่งเรือทั้ง 3 ลำได้แก่ เรือ เจ.พี. บรรทุกน้ำมันดีเซลเถื่อน 8 หมื่นลิตร เรือซีฮอต บรรทุกน้ำมันดีเซลเถื่อน 1 แสน 5 หมื่นลิตร และเรือดาวรุ่งบรรทุกน้ำมันดีเซลเถื่อน 1 แสนลิตร พร้อมลูกเรือรวม 16 คน โดยมีข้อมูลว่าเรือทั้ง 3 ลำนี้เป็นของ นาย สหชัย เจียรเสริมสิน หรือ "เสี่ยโจ้ ปัตตานี" พ่อค้าน้ำมันเถื่อนรายใหญ่ที่ตำรวจต้องการตัว

จากเหตุการณ์นี้ ทำให้พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ บิ๊กเต่า ต้องเข้าไปสืบสวนคดีนี้ พร้อมเปิดเผยว่า เรือลักลอบขนน้ำมันเถื่อนมีทั้งหมด 5 ลำ ถูกจับมาตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม 2567 แต่ลอบขนน้ำมันเถื่อนมาเพียง 3 ลำ ส่วนอีก 2 ลำเป็นเรือเปล่า

สาเหตุที่ต้องนำเรือไปทอดสมอห่างจากท่าเรือที่เคยจอดราว 100 เมตร เพราะมีรายงานว่าจะมีพายุคลื่นลมแรงตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน หากเรือจอดเทียบท่าอาจจะเกิดการกระแทกของเรือกับท่า จนเกิดระเบิด หรือเพลิงไหม้ได้ เพื่อความปลอดภัยจึงต้องนำเรือที่บรรทุกน้ำมันออกไปจอดห่างท่าเรือ แต่ปรากฏว่าคืนวันที่ 11 มิถุนายน ราว 2 ทุ่ม 10 นาที เรือทั้ง 3 ลำก็ค่อยๆ ลอยลำออกไป แล้วหายไปจากกล้อง

ซึ่งตำรวจเชื่อว่าบรรดาคนเรือน่าจะวางแผนมาตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน หรือวันที่มีคำสั่งให้เอาเรือออกไปจอดห่างท่าเรือ เพราะสังเกตได้ว่ามีการขนเสบียงลงเรือมากกว่าปกติ

จากการสอบสวนตำรวจที่เข้าเวรในวันนั้น พบว่า ส่วนหนึ่งมาจากความผิดพลาดในการปฏิบัติหน้าที่ พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จึงมีคำสั่งให้ ตำรวจน้ำ 4 นาย ตั้งแต่ ผู้กำกับ สารวัตร และตำรวจเวรที่รับผิดชอบดูแลของกลางในคืนนั้นอีก 2 นาย มาช่วยราชการที่ ศปก.บช.ก.

ขณะที่แนวทางการสืบสวนพบว่าเรือทั้ง 3 ลำ มุ่งหน้าไปประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นที่กบดานในปัจจุบันของเสี่ยโจ้ ปัตตานี ตำรวจใช้เวลา 5 วันติดตามแกะรอยเรือทั้ง 3 ลำ แล้วก็พบเรือดังกล่าวช่วงบ่ายวานนี้ (16 มิ.ย.67) ลอยลำอยู่กลางทะเลในน่านน้ำสากล ระหว่างไทยและมาเลเซีย แต่ปรากฏว่าพบลูกเรือไม่ถึง 10 คน มีรายงานว่าน้ำมันเถื่อน 3 แสน 3 หมื่นลิตรสูญหายไป

"บิ๊กเต่า" พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนจะขึ้นเครื่องบินตำรวจเดินทางไปติดตามความคืบหน้าการยึดเรือ ที่จังหวัดสงขลา ว่า เรือทั้ง 3 ลำคาดว่าน่าจะมาถึงท่าเทียบเรือสงขลาประมาณ บ่าย 2 หรือ บ่าย 3 โมงวันนี้ (17 มิ.ย.67) เช้านี้ได้นำทีมงานทั้งกองพิสูจน์หลักฐาน และพนักงานสอบสวน รวมกว่า 30 ชีวิต ไปสอบปากคำลูกเรือ รวมถึงเก็บหลักฐานบนเรือทั้ง 3 ลำด้วย ยืนยันต้องขยายผลถึงผู้อยู่เบื้องหลังแน่นอน

สำหรับบรรยากาศช่วงเช้า บริเวณท่าเทียบเรือ กองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ จังหวัดสงขลา ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมพื้นที่เพื่อให้เรือลอบขนน้ำมันเถื่อนทั้ง 3 ลำเข้ามาจอด พลตำรวจตรี พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ เปิดเผยถึงการตรวจสอบวินัยกับตำรวจที่เกี่ยวข้องว่า พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กำหนดกรอบเวลาต้องให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน ยืนยันว่ามีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องแน่นอน แต่อยู่ระหว่างสอบสวนว่ามีกี่นาย

จากข้อมูลของชุดติดตามเรือทั้ง 3 ลำ ระบุว่า เรือบรรทุกน้ำมันทาง 3 ลำ ออกจากสัตหีบ วันที่ 11 มุ่งหน้าไปเกาะกูด ไปกัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย โดยวิ่งในน่านน้ำสากล โผล่ที่เขตเศรษฐกิจในน่านน้ำสากลระหว่างมาเลเซียกับไทย ซึ่งตำรวจเตรียมแถลงรายละเอียดช่วงบ่ายวันนี้

ส่วนที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ บก.ปอศ. วันนี้ได้เรียกตัวลูกเรือ 11 คน ที่เป็นลูกเรือ 2 ลำที่ไม่ได้หนีมาให้ปากคำ ซึ่งทั้งหมดมาพร้อมกับทนายความ แต่ทั้งหมดปฏิเสธให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน มีเพียงรายเดียวที่บอกกับนักข่าวสั้นๆ ว่า "ผมอยู่แต่ในเรืออย่างเดียว ผมไม่ได้ไปด้วย" ขณะนี้ทั้งหมดอยู่ระหว่างการสอบปากคำให้ห้องสอบสวน


https://youtu.be/8sujaaga2_c

โดย paweena_c

17 มิ.ย. 2567

81 views

EP อื่นๆ